Facebook :Travel @ Manager

นึกอยากอิ่มอร่อยกับ “อาหารฝรั่งเศส” แบบต้นตำรับสักมื้อ คงไม่ต้องถึงกับลงทุนเสียสตางค์ราคาแพง ตีตั๋วเครื่องบินเพื่อบินไปกินกันถึงฝรั่งเศส “ตระเวนกิน” ขอแนะนำว่าเพียงแค่ขับรถมาที่โครงการ TTN Avenue ตรงถนนนางลิ้นจี่ ก็จะได้ลิ้มรสอาหารฝรั่งเศสกันที่ร้าน “Love Me Tender Le Bistro” (เลิฟ มี เทนเดอร์ เลอ บิสโทร) ซึ่งเป็นร้านอาหารของคุณนิทัศน์ เลิศเดชะชัย จับมือกับเชฟมากฝีมือ Chef Jean-Pierre Guillaud จาก Cuisine Solutions ผู้บุกเบิกและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ Sous Vide
เมื่อมาถึงร้าน “Love Me Tender Le Bistro” จะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งสไตล์ Bistro Parisien ภายในร้านเน้นใช้สีแดงดำ จัดสรรโต๊ะนั่งหลากหลายมุมให้เลือกนั่งในบรรยากาศสบายๆ มีเคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มหลากหลาย มีครัวเปิดโชว์ให้เห็นขั้นตอนการทำอาหาร และยังมีมุมขายผลิตภัณฑ์ Sous Vide ให้ได้เลือกซื้อหากลับไปปรุงกินกันที่บ้าน

สำหรับอาหารฝรั่งเศสของที่นี่เน้นเป็นอาหารฝรั่งเศสสูตรต้นตำรับ ปรุงตามแบบฉบับ French Home Style Cooking และมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้อาหาร Sous Vide (ซูวี) มาเป็นวัตถุดิบหลักของการปรุงอาหารในทุกเมนู ซึ่งการ Sous Vide ก็คือการนำวัตถุดิบสำเร็จรูปอย่างเนื้อสัตว์ต่างๆ อาหารทะเล หรือผักต่างๆ มาปรุงให้เสร็จในระบบสุญญากาศ ผ่านร้อนผ่านเย็นตามกรรมวิธีเฉพาะ โดยมีจุดเด่นคือคุณประโยชน์ของอาหารยังอยู่ครบ และกรรมวิธีการ Sous Vide ยังทำให้อาหารสดเหมือนใหม่ คงมาตรฐานและคุณภาพเดิมไว้ พร้อมนำมาปรุงเป็นเมนูเลิศรสตามสูตรเด็ดของเชฟที่ชวนกินมากมาย

เมนูฝรั่งเศสจานเด็ดของร้านนี้ที่ชวนลิ้มรสก็มี Lobster Bisque (220 บาท++) ซุปกลิ่นหอมชวนกินมาก เป็นซุปครีมข้นสไตล์ฝรั่งเศส ทำจากล็อบสเตอร์อเมริกา ซดซุปร้อนๆ รสชาติเข้มข้นเยี่ยมยอด มีเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ และเนื้อกุ้งกุลาดำหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใส่มาด้วย

จากซุปมาชิมสลัด Grilled Chicken Caesar Salad (180 บาท++) เป็นสลัดผักคอส ใส่อกไก่ย่าง คลุกเคล้าน้ำสลัดซีซาร์ โรยหน้าด้วยครูตองซ์และพาเมซานชีส สลัดจะเสิร์ฟมาในขวดแก้วให้เขย่าก่อนใส่จาน กินสลัดผักสดกรอบเข้ากับน้ำสลัดซีซาร์รสดี ส่วนเนื้อไก่เคี้ยวนุ่มถูกปาก

จานต่อมาชวนกินเมนูซิกเนเจอร์ Seared Beef Short Ribs Deluxe 400g (1,500 บาท++) ที่คนชอบกินเนื้อวัวไม่ควรพลาด เป็นเนื้อวัวที่คัดสรรมาอย่างดีทำแบบซูวี หั่นชิ้นหนา 1 นิ้ว แล้วนำมาทำเป็นสเต๊กตามสูตรเด็ด เสิร์ฟมาบนกระทะร้อน เคียงด้วยมันฝรั่งทอดและผัก แล่ชิ้นเนื้อหนานุ่ม ส่งเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงเนื้อวัวรสเยี่ยม เปี่ยมด้วยความนุ่มชุ่มฉ่ำแทบละลายในปาก เรียกว่าหั่นชิ้นเนื้อแบบคำต่อคำ เผลอแป๊บเดียวเนื้อหมดจานโดยไม่รู้ตัว

แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อ ก็มีเมนูหมูให้กิน BBQ Pork Spare Ribs (350 บาท++) เป็นซี่โครงหมูอ่อนหมักกับเครื่องบาร์บีคิวสูตรพิเศษ ซูวีให้เกิดความฉ่ำก่อน 12 ชม. แล้วนำมาอบเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับมันฝรั่งทอดและซอสไวน์แดง ลิ้มรสซี่โครงได้กลิ่นเครื่องเทศหอมๆ เนื้อซี่โครงเปื่อยร่อนเคี้ยวนุ่มปาก ได้รสชาติซอสบาร์บีคิวเข้มข้นโดนใจ หรือจะจิ้มกินกับซอสไวน์แดงก็ได้รสชาติที่ดีไปอีกแบบ

แล้วชวนมาลองลิ้ม Cassoulet (450 บาท++) ที่ในจานกระทะร้อนมีหลายอย่างให้กิน มีทั้งดั๊กกงฟี หมูสามชั้นอบ ไส้กรอกหมูเยอรมัน กินพร้อมกับถั่วขาวที่ปรุงรสตามสูตรเฉพาะ เมนูนี้กินแล้วได้หลากหลายอารมณ์และรสชาติ เป็ดหนังกรอบเนื้อนุ่ม หมูสามชั้นนุ่มนิ่มละลายในปาก ไส้กรอกหมูเนื้อแน่นเคี้ยวเด้ง ทุกอย่างกินเข้ากันดีกับถั่วรสชาติกลมกล่อมลิ้น

ต่อด้วยเมนูซีฟู้ดสไตล์ฝรั่งเศส Petit Neptune Royal (620 บาท++) มีทั้งกุ้ง สแกลลอปจากอลาสก้า หมึกกล้วย ปรุงรสราดด้วยซอสล็อบสเตอร์ แล้วนำมาสอดไส้ในพัฟกรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำซอสล็อบสเตอร์รสละมุนลิ้น กินเข้ากันดีกับซีฟู้ดทุกอย่างที่มีความสดหวานถูกปากดีจริง

ส่วนถ้าใครชอบกินพาสต้าแนะนำ Pasta Pork Paisano (280 บาท++) เป็นเส้นเพนเน่ แล้วมีหมูส่วนสันคอที่ซูวีไว้แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และนำมาปรุงรสกับซอสสูตรเด็ด โรยหน้าด้วยพาเมซาสชีส เสิร์ฟมาในกระทะร้อน กินแล้วขอยกนิ้วให้ในความกลมกล่อมเข้ากันของเส้นพาสต้าที่ชุ่มน้ำซอสรสเข้มข้น หมูเนื้อเด้งเคี้ยวนุ่มฉ่ำปากโดนใจ

ใช่ว่าจะมีแต่เมนูคาวที่ชวนกิน เมนูของหวานที่นี่ก็มีดีเหมือนกัน แนะนำให้ลองชิม Creme Brulee (180 บาท++) เครมบูเล่เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น หวานกำลังดี หอมกลิ่นวานิลลามากเพราะใส่ฝักวานิลลามาแบบจัดเต็ม และมีความกรุบกรอบของน้ำตาลไหม้บางๆ ที่อยู่ด้านบนผิวขนม ซึ่งเป็นสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ

อีกหนึ่งขนมหวานที่ชวนลิ้มรส คือ Apple Tarte Tatin & Vanilla Bean Ice Cream (220 บาท++) เป็นทาร์ตแอปเปิ้ลเชื่อมด้วยคาราเมลสีทองหอมหวานอบเสิร์ฟมาร้อนๆ กินคู่กับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดหวานเย็นกินแล้วฟินดีต่อใจ

เมนูอาหารฝรั่งเศสของที่นี่นั้นมีให้เลือกชิมมากหลายจริงๆ นอกจากที่นำเสนอมาแล้วก็ยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีก อาทิ Mixed Mushroom Soup with Truffle Cream (150 บาท++) Osso Buco alla Milanese (620 บาท++) Rack of Lamb (580 บาท++) Grilled Pork Paisano Steak (320 บาท++) และอีกหลากหลายอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับ ที่โดดเด่นด้วยกรรมวิธีการปรุงแบบซูวี หากใครอยากจะลองลิ้มรสชาติกันดูบ้าง แนะนำให้มากันที่ร้าน “Love Me Tender Le Bistro” แห่งนี้ ทางร้านยินดีต้อนรับนักกินทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Love Me Tender Le Bistro” ตั้งอยู่ภายในโครงการ TTN Avenue ชั้น 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เปิดเวลา 11.00 - 14.30 น. และ 17.30 - 22.00 น. ปิดวันอังคาร ทางร้านรับจัดเลี้ยงด้วย โทร. 0-2678-2048 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/lmt.lovemetenderlebistro
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
นึกอยากอิ่มอร่อยกับ “อาหารฝรั่งเศส” แบบต้นตำรับสักมื้อ คงไม่ต้องถึงกับลงทุนเสียสตางค์ราคาแพง ตีตั๋วเครื่องบินเพื่อบินไปกินกันถึงฝรั่งเศส “ตระเวนกิน” ขอแนะนำว่าเพียงแค่ขับรถมาที่โครงการ TTN Avenue ตรงถนนนางลิ้นจี่ ก็จะได้ลิ้มรสอาหารฝรั่งเศสกันที่ร้าน “Love Me Tender Le Bistro” (เลิฟ มี เทนเดอร์ เลอ บิสโทร) ซึ่งเป็นร้านอาหารของคุณนิทัศน์ เลิศเดชะชัย จับมือกับเชฟมากฝีมือ Chef Jean-Pierre Guillaud จาก Cuisine Solutions ผู้บุกเบิกและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ Sous Vide
เมื่อมาถึงร้าน “Love Me Tender Le Bistro” จะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งสไตล์ Bistro Parisien ภายในร้านเน้นใช้สีแดงดำ จัดสรรโต๊ะนั่งหลากหลายมุมให้เลือกนั่งในบรรยากาศสบายๆ มีเคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มหลากหลาย มีครัวเปิดโชว์ให้เห็นขั้นตอนการทำอาหาร และยังมีมุมขายผลิตภัณฑ์ Sous Vide ให้ได้เลือกซื้อหากลับไปปรุงกินกันที่บ้าน
สำหรับอาหารฝรั่งเศสของที่นี่เน้นเป็นอาหารฝรั่งเศสสูตรต้นตำรับ ปรุงตามแบบฉบับ French Home Style Cooking และมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้อาหาร Sous Vide (ซูวี) มาเป็นวัตถุดิบหลักของการปรุงอาหารในทุกเมนู ซึ่งการ Sous Vide ก็คือการนำวัตถุดิบสำเร็จรูปอย่างเนื้อสัตว์ต่างๆ อาหารทะเล หรือผักต่างๆ มาปรุงให้เสร็จในระบบสุญญากาศ ผ่านร้อนผ่านเย็นตามกรรมวิธีเฉพาะ โดยมีจุดเด่นคือคุณประโยชน์ของอาหารยังอยู่ครบ และกรรมวิธีการ Sous Vide ยังทำให้อาหารสดเหมือนใหม่ คงมาตรฐานและคุณภาพเดิมไว้ พร้อมนำมาปรุงเป็นเมนูเลิศรสตามสูตรเด็ดของเชฟที่ชวนกินมากมาย
เมนูฝรั่งเศสจานเด็ดของร้านนี้ที่ชวนลิ้มรสก็มี Lobster Bisque (220 บาท++) ซุปกลิ่นหอมชวนกินมาก เป็นซุปครีมข้นสไตล์ฝรั่งเศส ทำจากล็อบสเตอร์อเมริกา ซดซุปร้อนๆ รสชาติเข้มข้นเยี่ยมยอด มีเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ และเนื้อกุ้งกุลาดำหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใส่มาด้วย
จากซุปมาชิมสลัด Grilled Chicken Caesar Salad (180 บาท++) เป็นสลัดผักคอส ใส่อกไก่ย่าง คลุกเคล้าน้ำสลัดซีซาร์ โรยหน้าด้วยครูตองซ์และพาเมซานชีส สลัดจะเสิร์ฟมาในขวดแก้วให้เขย่าก่อนใส่จาน กินสลัดผักสดกรอบเข้ากับน้ำสลัดซีซาร์รสดี ส่วนเนื้อไก่เคี้ยวนุ่มถูกปาก
จานต่อมาชวนกินเมนูซิกเนเจอร์ Seared Beef Short Ribs Deluxe 400g (1,500 บาท++) ที่คนชอบกินเนื้อวัวไม่ควรพลาด เป็นเนื้อวัวที่คัดสรรมาอย่างดีทำแบบซูวี หั่นชิ้นหนา 1 นิ้ว แล้วนำมาทำเป็นสเต๊กตามสูตรเด็ด เสิร์ฟมาบนกระทะร้อน เคียงด้วยมันฝรั่งทอดและผัก แล่ชิ้นเนื้อหนานุ่ม ส่งเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงเนื้อวัวรสเยี่ยม เปี่ยมด้วยความนุ่มชุ่มฉ่ำแทบละลายในปาก เรียกว่าหั่นชิ้นเนื้อแบบคำต่อคำ เผลอแป๊บเดียวเนื้อหมดจานโดยไม่รู้ตัว
แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อ ก็มีเมนูหมูให้กิน BBQ Pork Spare Ribs (350 บาท++) เป็นซี่โครงหมูอ่อนหมักกับเครื่องบาร์บีคิวสูตรพิเศษ ซูวีให้เกิดความฉ่ำก่อน 12 ชม. แล้วนำมาอบเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับมันฝรั่งทอดและซอสไวน์แดง ลิ้มรสซี่โครงได้กลิ่นเครื่องเทศหอมๆ เนื้อซี่โครงเปื่อยร่อนเคี้ยวนุ่มปาก ได้รสชาติซอสบาร์บีคิวเข้มข้นโดนใจ หรือจะจิ้มกินกับซอสไวน์แดงก็ได้รสชาติที่ดีไปอีกแบบ
แล้วชวนมาลองลิ้ม Cassoulet (450 บาท++) ที่ในจานกระทะร้อนมีหลายอย่างให้กิน มีทั้งดั๊กกงฟี หมูสามชั้นอบ ไส้กรอกหมูเยอรมัน กินพร้อมกับถั่วขาวที่ปรุงรสตามสูตรเฉพาะ เมนูนี้กินแล้วได้หลากหลายอารมณ์และรสชาติ เป็ดหนังกรอบเนื้อนุ่ม หมูสามชั้นนุ่มนิ่มละลายในปาก ไส้กรอกหมูเนื้อแน่นเคี้ยวเด้ง ทุกอย่างกินเข้ากันดีกับถั่วรสชาติกลมกล่อมลิ้น
ต่อด้วยเมนูซีฟู้ดสไตล์ฝรั่งเศส Petit Neptune Royal (620 บาท++) มีทั้งกุ้ง สแกลลอปจากอลาสก้า หมึกกล้วย ปรุงรสราดด้วยซอสล็อบสเตอร์ แล้วนำมาสอดไส้ในพัฟกรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำซอสล็อบสเตอร์รสละมุนลิ้น กินเข้ากันดีกับซีฟู้ดทุกอย่างที่มีความสดหวานถูกปากดีจริง
ส่วนถ้าใครชอบกินพาสต้าแนะนำ Pasta Pork Paisano (280 บาท++) เป็นเส้นเพนเน่ แล้วมีหมูส่วนสันคอที่ซูวีไว้แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และนำมาปรุงรสกับซอสสูตรเด็ด โรยหน้าด้วยพาเมซาสชีส เสิร์ฟมาในกระทะร้อน กินแล้วขอยกนิ้วให้ในความกลมกล่อมเข้ากันของเส้นพาสต้าที่ชุ่มน้ำซอสรสเข้มข้น หมูเนื้อเด้งเคี้ยวนุ่มฉ่ำปากโดนใจ
ใช่ว่าจะมีแต่เมนูคาวที่ชวนกิน เมนูของหวานที่นี่ก็มีดีเหมือนกัน แนะนำให้ลองชิม Creme Brulee (180 บาท++) เครมบูเล่เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น หวานกำลังดี หอมกลิ่นวานิลลามากเพราะใส่ฝักวานิลลามาแบบจัดเต็ม และมีความกรุบกรอบของน้ำตาลไหม้บางๆ ที่อยู่ด้านบนผิวขนม ซึ่งเป็นสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ
อีกหนึ่งขนมหวานที่ชวนลิ้มรส คือ Apple Tarte Tatin & Vanilla Bean Ice Cream (220 บาท++) เป็นทาร์ตแอปเปิ้ลเชื่อมด้วยคาราเมลสีทองหอมหวานอบเสิร์ฟมาร้อนๆ กินคู่กับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดหวานเย็นกินแล้วฟินดีต่อใจ
เมนูอาหารฝรั่งเศสของที่นี่นั้นมีให้เลือกชิมมากหลายจริงๆ นอกจากที่นำเสนอมาแล้วก็ยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีก อาทิ Mixed Mushroom Soup with Truffle Cream (150 บาท++) Osso Buco alla Milanese (620 บาท++) Rack of Lamb (580 บาท++) Grilled Pork Paisano Steak (320 บาท++) และอีกหลากหลายอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับ ที่โดดเด่นด้วยกรรมวิธีการปรุงแบบซูวี หากใครอยากจะลองลิ้มรสชาติกันดูบ้าง แนะนำให้มากันที่ร้าน “Love Me Tender Le Bistro” แห่งนี้ ทางร้านยินดีต้อนรับนักกินทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Love Me Tender Le Bistro” ตั้งอยู่ภายในโครงการ TTN Avenue ชั้น 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เปิดเวลา 11.00 - 14.30 น. และ 17.30 - 22.00 น. ปิดวันอังคาร ทางร้านรับจัดเลี้ยงด้วย โทร. 0-2678-2048 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/lmt.lovemetenderlebistro
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager