ออกกำลังใจ กับหลากหลายกิจกรรม ที่ “สิงคโปร์”

“สิงคโปร์” เป็นประเทศที่หลายๆ คนอาจจะเคยมาเยือนแล้ว ใครมาถึงที่นี่ หนึ่งกิจกรรมที่ต้องทำเลยก็คือ การไปถ่ายรูปกับเมอร์ไลออนที่ริมมารีน่าเบย์ ไปช้อปปิ้งที่ถนนออร์ชาร์ด ไปสนุกกับเครื่องเล่นต่างๆ ที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ที่เกาะเซ็นโตซา เป็นต้น

แต่ต้องบอกเลยว่าที่ “สิงคโปร์” นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดทุกปี ก็มีกิจกรรมที่ตอบสนองความชื่นชอบของนักเที่ยวแต่ละคน มาให้เลือกสรรกันอีกมากมาย บางกิจกรรมเราอาจะเคยเห็น หรือเดินผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสลอง แต่บางกิจกรรมก็ถือว่าเป็นอันซีนของสิงคโปร์ที่ไม่เคยรู้เลยว่ามีอยู่ที่นี่

เที่ยวมารีน่าเบย์มุมมองใหม่
“มารีน่าเบย์” หรือ “อ่าวมารีน่า” เป็นจุดท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่ใครมาสิงคโปร์ก็ต้องมาเยือนสักครั้ง เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิว Marina Bay Sands, Singapore Flyer, Esplanade ฯลฯ ทั้งในยามกลางวันและกลางคืนที่มีความสวยแตกต่างกัน แล้วยังเป็นที่ตั้งของ “Merlion” (เมอร์ไลออน) อันโด่งดัง

ปกติแล้วการมาชมบริเวณมารีน่าเบย์ เราก็จะเดินชมรอบๆ ทางเดินเลียบอ่าวที่ทำไว้รอบๆ สามารถเดินได้เป็นวงกลมตั้งแต่ Marina Bay Sands เลาะรอบอ่าวมาจนถึงเมอร์ไลออน เอสพลานาด แล้วเดินขึ้น Helix Bridge เพื่อเชื่อมกลับไปยัง Marina Bay sands

มาคราวนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอเปลี่ยนแนว มาชมมารีน่าเบย์แบบใหม่ ด้วยการล่องเรือ “Bumboat” ชมรอบๆ แทนการเดิน โดยเจ้า Bumboat ก็คือเรือท้องแบน ที่สมัยก่อนนั้นใช้ขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ที่ปากอ่าวเพื่อลำเลียงเข้ามาสู่ตัวเมืองชั้นใน ปัจจุบันนี้ก็ถูกดัดแปลงมาให้เป็นเรือท่องเที่ยวซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสิงคโปร์

จุดขึ้นเรือและจำหน่ายตั๋วจะมีอยู่ตามท่าเทียบเรือตามสองฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์ไปจนถึงมารีน่าเบย์ แต่จุดที่คนมักไปใช้บริการกันก็คือบริเวณ Clark Quay โดยเรือจะมีบริการตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนถึงค่ำ และหากจะนั่งเรือให้ครบรอบก็จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที

เมื่อลงเรือแล้ว เรือก็จะค่อยๆ แล่นเลียบแม่น้ำสิงคโปร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งออกไปยังมารีน่าเบย์ โดยตลอดสองข้างทางเราจะได้เป็นตึกรามบ้านช่อง และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายอย่าง อาทิ Clark Quay, Boat Quay ที่จะคึกคักมากๆ ในยามค่ำคืน เมอร์ไลออน, อาคารเอสพลานาด, Marina Bay Sands, Helix Bridge, Singapore Flyer ไปจนถึงบริเวณ Garden by the Bay ซึ่งการล่องเรือในยามกลางวันกับกลางคืนนั้นก็มีทิวทัศน์ความงามที่แตกต่างกันไป

นอกจากจะนั่งเรือชมอ่าวแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้เราสามารถชมมารีน่าเบย์ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือ การใช้ “Segway” โดยจะมีร้านให้เช่า คิดราคาเป็นชั่วโมง หรือเป็นรายวัน ซึ่งคนที่ไม่เคยใช้ Segway ก็สามารถมาใช้บริการได้ มีเจ้าหน้าที่คอยสอนวิธีการใช้และเทคนิคต่างๆ ให้จนกว่าจะใช้เป็น จากนั้นก็สามารถออกตัว ขี่ Segway ไปชมรอบๆ มารีน่าเบย์ได้เลย

นั่งเคเบิลคาร์ไปเซ็นโตซา สัมผัสความสูงสุดเร้าใจ
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของสิงคโปร์ นั่นก็คือ “เกาะเซ็นโตซา” เพราะที่นี่มีทั้งสวนสนุก ชายหาด พิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงที่พัก และร้านอาหารชื่อดังมากมาย ส่วนการเดินทางข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซา สามารถใช้บริการรถบัส หรือใช้ Sentosa Express ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ต่อมาจากสถานี Harbourfront

และอีกหนึ่งวิธีก็คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Cable Car) ข้ามมายังเกาะเซ็นโตซา ซึ่งวิธีนี้จะทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ ในมุมสูง สามารถชมวิวสวยๆ ระหว่างข้ามเกาะได้ด้วย

เรามาใช้บริการเคเบิลคาร์ จากสถานี Faber Peak ที่ “เมาท์ เฟเบอร์” (Mount Faber) โดยจุดนี้จะมีทั้งจุดขายตั๋ว มีร้านอาหาร และมีมุมให้ถ่ายรูปชมวิวด้วย ก่อนจะขึ้นกระเช้า ก็ขอแวะมาสั่นกระดิ่ง Bell of Happiness ที่อยู่ด้านหลังร้านอาหาร แล้วที่นี่ก็ยังมีกระดิ่งใบเล็กๆ ให้เขียนชื่อ แล้วแขวนไว้ คล้ายๆ กับไปล็อกกุญแจที่เกาหลีเลยทีเดียว

ได้เวลาขึ้นเคเบิลคาร์ ข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซา ระหว่างทางก็ชมความงามด้านล่าง ผ่านตึกรามบ้านช่อง และแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ จนมาถึงฝั่งเซ็นโตซา จากนั้นก็ลงจากเคเบิลคาร์ แล้วแวะมาถ่ายรูปกับ “Sentosa Merlion” เมอร์ไลออนตัวใหญ่ที่อยู่บนเกาะเซ็นโตซา ก่อนจะเดินทางไปทำกิจกรรมสนุกๆ กันต่อ

ใครที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะบินได้ ที่บนเกาะเซ็นโตซามีกิจกรรมหนึ่งที่สามารถทำให้ฝันนั้นเป็นจริงได้ นั่นคือ “iFly Singapore” ที่จะให้ประสบการณ์เหมือนได้กระโดดร่มเหินเวหาที่ความสูง 12,000-3,000 ฟุต ในอุโมงค์ลมความเร็วสูง

มาถึงที่แล้วก็ต้องจองคิวเล่นเป็นรอบๆ โดยเมื่อถึงเวลา ก็จะมีวีดีโอสาธิตการเล่น และมีครูฝึกมาอธิบายการเล่นและเทคนิคต่างๆ พร้อมกับช่วยฝึกซ้อม จากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุดให้พร้อมออกศึก พอถึงเวลาเล่นจริง ครูฝึกก็จะสอนประกบตัว พาบินล่องลอยไปในอากาศด้วยความเร้าใจ และหลังจากบินเสร็จแล้ว ก็ยังมีใบประกาศมอบมาให้เป็นหลักฐานอีกด้วย


Pulau Ubin จากสูงสุดคืนสู่ธรรมชาติ
ใครจะเชื่อว่าที่สิงคโปร์จะมีเกาะที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและความเงียบสงบ แต่ที่นี่ก็มีอยู่จริง และเกาะแห่งนี้มีชื่อว่า “Pulau Ubin” (ปูเลา อูบิน) คำว่า Pulau หมายถึง เกาะ ในขณะที่ Ubin หมายถึง หินแกรนิต ซึ่งบนเกาะนี้ในสมัยก่อนก็มีการทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่หินแกรนิต

การเดินทางมายัง Pulau Ubin สามารถมาขึ้นเรือได้ที่ Changi Point Ferry Terminal จากนั้นนั่งเรือข้ามมายังเกาะ ค่าโดยสารเที่ยวละ 3 เหรียญ และเรือหนึ่งลำสามารถนั่งได้ 12 คน โดยใช้เวลาข้ามเรือเพียง 10 นาที ก็จะมาถึงเกาะที่ยังคงมีเสน่ห์จากความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบ

บนเกาะนั้นยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และเป็นบ้านแบบพื้นเมืองเมื่อสมัยก่อนที่จะตั้งเป็นประเทศสิงคโปร์ หรือเมื่อ 50 กว่าปีก่อน เมื่อข้ามมาถึงเกาะแล้ว หากเดินไปทางขวา ผ่านป่าโปร่งไปเล็กน้อย ก็จะเป็นจุดที่รวบรวมพันธุ์ไม้และสมุนไพรต่างๆ ปลูกไว้ให้เป็นที่ศึกษา ส่วนจุดอื่นๆ บนเกาะก็ยังมีป่า ซึ่งเป็นป่าจากธรรมชาติดั้งเดิมที่ยังเหลืออยู่

หากใครที่อยากสำรวจ Pulau Ubin สามารถใช้บริการรถตู้เพื่อให้พาชมรอบๆ เกาะ หรือถ้ามีแรง ก็สามารถเช่าจักรยานมาปั่นรอบๆ เกาะได้ (คิดเป็นรายชั่วโมงและรายวัน) ซึ่งหากจะปั่นรอบๆ เกาะ ก็ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพราะจะต้องปั่นจักรยานผ่านป่า ผ่านหมู่บ้านของชาวบ้าน ลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ร่มรื่น ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ บนเกาะนี้ก็คือ “เชคจาวา” (Chek Jawa) อันเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยบริเวณเชคจาวา มีทั้งทางเดินไม้ที่ลัดเลาะไปตามป่าโกงกาง มีหอสังเกตการณ์ที่สามารถมองเห็นพื้นที่ในมุมสูงได้ และบริเวณนี้ยังมีสัตวป่าและนกหายากอีกด้วย

อย่างที่บอกว่า “สิงคโปร์” ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกหลายอย่างให้เลือกทำ ไม่ว่าจะมากันเป็นครอบครัว มาเที่ยวกันเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือแบบคู่รัก หรือแม้แต่จะฉายเดี่ยว มาเที่ยวคนเดียว ที่สิงคโปร์ก็มีความสนุกทุกรูปแบบตามความชอบแต่ละสไตล์ให้เลือกได้แบบไม่มีเบื่อ

* * * * * * * * * * * * * * * * *

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทสสิงคโปร์ได้ที่ www.visitsingapore.com/th หรือที่ Facebook : VisitSingapore
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com