นครศรีธรรมราช หมายถึง “นครอันเป็นสง่า แห่งพระราชาผู้ทรงธรรม”
นครศรีธรรมราช เป็นอาณาจักรโบราณที่มีประวัติศาสตร์ความรุ่งเรืองมายาวนาน ในฐานะเมืองศูนย์กลางและเมืองท่าสำคัญแห่งแหลมมลายู อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นไปด้วยศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้นครศรีธรรมราชยังเป็นจังหวัดที่มากไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันหลากหลาย ทั้งภูเขา ป่าไม้ ทะเล รวมถึงเป็นเมืองสำคัญทางพุทธศาสนาที่พลังแห่งศรัทธายังคงเปี่ยมล้นแนบแน่นนับจากอดีตสู่ปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้ทาง“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)” จึงคัดสรรให้จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น 1 ใน “12 เมืองต้องห้าม...พลาด” ภายใต้แนวคิด “นครสองธรรม” อันเนื่องมาจากความโดดเด่นทั้งในเรื่องของ“ธรรมะ”และ“ธรรมชาติ” ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้ผู้มาเยือนเมืองนครศรีชวนหลงรักและประทับใจอยู่มิรู้คลาย
ท่องแหล่งธรรม เมืองนครศรี
จังหวัดนครศรีธรรมราชมี “พระบรมธาตุเมืองนคร” ที่ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราช และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของพุทธศาสนิกชน ซึ่งผู้มาเยือนเมืองนครศรีไม่ควรพลาดการไปกราบสักการะด้วยประการทั้งปวง
พระบรมธาตุเมืองนคร หรือ “พระมหาธาตุเมืองนคร” หรือ “พระบรมธาตุเจดีย์” ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” เนื่องจากปลียอดหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม แต่ในยามที่แสงแดดตกต้ององค์พระธาตุ เหลื่อมเงากลับทาบทอไม่ถึงพื้นจนดูเหมือนพระธาตุไม่มีเงา จึงได้รับการเรียกขานว่าเป็น“พระธาตุไร้เงา”อีกฉายาหนึ่ง
ทุกๆปีที่พระบรมธาตุเมืองนครจะมีการจัดงานประเพณีสำคัญนั่นก็คือ งาน“แห่ผ้าขึ้นธาตุ”ขึ้น ปีละ 2 ครั้ง ช่วงวันมาฆบูชา(15 ค่ำ เดือน 3) และช่วงวันวิสาขบูชา(15ค่ำ เดือน 6) โดยจะมีการนำผ้า“พระบฏ” ผ้าผืนยาว(นิยมใช้สีขาว เหลือง แดง)ไปห่มรอบองค์พระธาตุ พร้อมจัดขบวนแห่แหนกันอย่างยิ่งใหญ่
ขณะที่สิ่งน่าสนใจอื่นๆภายในวัดพระมหาธาตุฯ นอกเหนือจากองค์พระบรมธาตุเมืองนครนั้นก็มี “พระวิหารหลวง”ที่ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนีศรีธรรมราชอันงดงามเปี่ยมศรัทธา, “วิหารม้า” ที่โดดเด่นไปด้วยภาพพระม้าขนาดใหญ่ รวมถึงมีเท้าขัตตุคาม-รามเทพ ที่เชื่อว่าคือท้าวจตุคามรามเทพอันลือลั่น และ “พระแอด” หรือ “พระกัจจายนะ” ที่เชื่อกันว่าผู้ที่มากราบไหว้ขอพรท่าน ผู้หญิงที่อยากมีลูกจะได้ลูกสมหวัง อีกทั้งพระแอดยังช่วยในเรื่องสุขภาพ ช่วยให้หายจากความเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดตัว ปวดหลัง
ส่วนที่บริเวณถนนราชดำเนินด้านหน้าวัดพระมหาธาตุฯ วันนี้ได้มีการเปิด “หลาดหน้าพระธาตุ”ขึ้น เป็นตลาดที่ผสมผสาน ความเป็นพื้นถิ่น ประเพณี และวิถีชาวนครต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ศิลปะการแสดง งานหัตถศิลป์ งานภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่นำมารวมกันไว้ที่หลาดหน้าพระธาตุ โดยจะมีการจัดขึ้นในทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-21.00 น. (ได้ทำการเปิดตัวขายของครั้งแรกไปเมื่อวันเสาร์ที่ 15 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา) นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจแห่งใหม่ในเมืองนครศรีที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช นอกจากวัดพระมหาธาตุที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเมืองนครศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีแล้ว ก็ยังมีศาสนสถานที่น่าสนใจอีกหลากหลาย อาทิ “ศาลหลักเมือง” ภายในประดิษฐานองค์เสาหลักเมือง ยอดเสาสลักรูปจตุคามรามเทพ(สี่พักตร์) ส่วนตัวศาลด้านนอกสร้างด้วยศิลปะศรีวิชัยสีขาวเด่น “หอพระพุทธสิหิงค์” ที่ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์ หนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของเมืองไทย อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญในศาสนาพราหมณ์ คือ “หอพระนารายณ์” และ “หอพระอิศวร-เสาชิงช้า” ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกันคนละฟากถนน
ส่วนถ้าออกจากตัวเมืองนครศรี มุ่งหน้าไปยัง อ.ช้างกลาง ที่นี่จะมี “วัดธาตุน้อย” ที่มีองค์เจดีย์ที่จำลองมาจากพระบรมธาตุเมืองนคร ภายในเจดีย์บรรจุสรีระไม่เน่าเปื่อยของ “พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์” พระเกจิชื่อดัง นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่เมืองนครที่ไม่ควรพลาดการไปสักการะ
เขาหลวง-คีรีวง
จากแหล่งท่องเที่ยวธรรมะ ไปสัมผัสกับธรรมชาติแห่งขุนเขาป่าไพรกันที่ “อุทยานแห่งชาติเขาหลวง” ที่เป็นแนวเทือกเขาสลับซับซ้อนมี“ยอดเขาหลวง” บนความสูง 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาสูงสุดของผืนป่าเขาหลวงและยอดเขาสูงสุดของภาคใต้ ทำให้เขาหลวงได้รับการขนานนามว่าเป็น “หลังคาแดนใต้”
อุทยานแห่งชาติเขาหลวงเป็นผืนป่าดิบชื้นและป่าดิบเขาอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นนำ และแหล่งน้ำตกอันสวยงามแห่งแดนใต้ อาทิ น้ำตกอ้ายเขียว น้ำตกกะโรม น้ำตกพรหมโลก และ “น้ำตกกรุงชิง” น้ำตกใหญ่อันสวยงามมีมากมายหลายชั้น แต่ทางอุทยานฯเขาหลวงเปิดให้เที่ยวชม 7 ชั้นด้วยกัน โดยในชั้นที่ 2 หรือที่เรียกกันว่า“หนานฝนแสนห่า” นั้นเป็นชั้นที่สวยงามที่สุด
นอกจากนี้บริเวณเชิงเขาหลวงยังเป็นที่ตั้งของ “บ้านคีรีวง”(ต.กำโลน อ.ลานสกา) หมู่บ้านในแวดล้อมของขุนเขา ที่มี“คลองท่าดี” เป็นเส้นเลือดหลักไหลผ่านกลางหมู่บ้าน หมู่บ้านคีรีวงนอกจากจะมีวิวทิวทัศน์อันสวยงามดูเขียวชอุ่มชุ่มเย็นสบายตาแล้ว ยังเป็นหมู่บ้านที่มีอากาศดีมากในอันดับต้นๆของเมืองไทย
ชาวบ้านคีรีวงดำรงวิถีอย่างเรียบง่าย อยู่อาศัยกันแบบญาติพี่น้อง มีอาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้แบบสวนผสม(สวนสมรม) นอกจากนี้ก็ยังมีการดำเนินกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเป็นอาชีพเสริม ภายในหมู่บ้านคีรีวงมีการจัดตั้งแบ่งออกกลุ่มต่างๆตามความถนัด อาทิ กลุ่มมัดย้อม กลุ่มลูกไม้ กลุ่มสมุนไพร กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มแปรรูปผลไม้ กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลา เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสกับวิถีแห่งคีรีวงในรูปแบบการท่องเที่ยวไทยเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้เลือกมาพักค้างแบบโฮมสเตย์ที่คีรีวง และปั่นจักรยานเที่ยวชมบรรยากาศของหมู่บ้านกลางหุบเขา พร้อมร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มต่างๆ ที่นอกจากจะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังเป็นการเรียนรู้เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปสร้างสรรค์พัฒนาต่อยอดได้เป็นอย่างดี
ทะเลขนอม
จากขุนเขาเราไปลงทะเล เพื่อสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งท้อง “ทะเลขนอม” ที่ อ.ขนอม กันบ้าง
ทะเลขนอม นอกจากจะงดงามไปด้วยแนวชายหาด ผาหิน และน้ำทะเลสวยใสแล้ว ทะเลขนอมยังมีธรรมชาติอันแปลกตาน่าทึ่งให้สัมผัสกัน ได้แก่
“เขาพับผ้า” หรือที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า “Pancake Rock” เป็นประติมากรรมที่เกิดธรรมชาติสรรค์สร้าง มีอายุกว่า 265 ล้านปี มีลักษณะเป็นแนวแผ่นหินผาวางทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ดูราวกับ ผืนผ้าขนาดยักษ์ที่ถูกพับซ้อนกันเป็นชั้นๆดูสวยงามแปลกตา
“บ่อน้ำจืดกลางทะเล” หรือที่หลายคนเรียกกันว่า“รอยเท้าหลวงปู่ทวด” ที่ตั้งอยู่บน“เกาะหลวงปู่ทวด” หรือ “เกาะนุ้ยนอก” มีลักษณะเป็นบ่อน้ำจืดตามธรรมชาติที่แม้ในยามน้ำขึ้นจะถูกน้ำทะเลท่วมจมมิดหาย แต่เมื่อถึงยามน้ำลดบ่อน้ำแห่งนี้ก็ยังคงมีรสชาติจืดไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งชาวบ้านแถบนี้เชื่อกันว่านี่คือรอยเท้าของหลวงปู่ทวด อันเป็นที่มาของตำนาน “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”
นอกจากนี้ท้องทะเลขนอมยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือ กิจกรรมล่องเรือชมโลมา ที่มีทั้งโลมาสีเทา และดาวเด่นสำคัญคือ “โลมาสีชมพู” ที่นักท่องเที่ยวมักจะพบพวกมันพากันออกแหวกว่ายหากิน มีทั้งมาเดี่ยว มาเป็นกลุ่ม หรือมาเป็นฝูง ให้เราได้สอดส่ายสายตามองหากันแบบลุ้นระทึกไปตลอดเส้นทาง
ปากพนัง
นครศรีธรรมราชมีอำเภอ“ปากพนัง” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ และเป็นหนึ่งในพื้นที่โครงการพระราชดำริสำคัญใต้ร่มพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9
อำเภอปากพนัง มี“แม่น้ำปากพนัง”เป็นเส้นเลือดหลัก ในอดีตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเคยเป็นแหล่งปลูกข้าวและผลิตข้าวส่งขายที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ แต่หลังจากที่เกษตรกรพากันหันมาทำนากุ้ง ได้ก่อให้เกิดปัญหาน้ำเสีย น้ำเค็มรุกน้ำจืด และอีกหลากหลายปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวปากพนังไม่น้อย
แต่ด้วยพระบารมี ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง “โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หรือ “โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ” หรือ “เขื่อนปากพนัง”ขึ้น
ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ มีความหมายว่า “ประตูระบายน้ำที่ให้ประสบความสำเร็จในการแยกน้ำ” สามารถแก้ปัญหาในเรื่อง น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำเค็ม ให้กับชาวปากพนังเป็นอย่างดี อาทิ ช่วยป้องกันน้ำเค็มไม่ให้รุกล้ำเข้าไปทำลายพื้นที่เกษตร เป็นแหล่งกักเก็บน้ำจืดและลำน้ำสาขาไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเพาะปลูก อีกทั้งยังช่วยบรรเทาเรื่องอุทกภัยได้เป็นอย่างดี ยังผลให้ชาวลุ่มน้ำปากพนังและพื้นที่ใกล้เคียงล้วนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นยิ่งนัก
นอกจากประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ที่ปัจจุบันถือเป็นไฮไลท์สำคัญของเมืองปากพนังที่มีคนเดินทางมาตามรอยพ่อใต้ร่มพระบารมีกันไม่ได้ขาดแล้ว ในเมืองปากพนังยังมีเส้นทางล่องเรือชมทิวทัศน์แม่น้ำปากพนัง และเส้นทางเดินเที่ยวชมในตัวเมืองปากพนัง ซึ่งมีสิ่งน่าสนใจเด่นๆ ได้แก่ “ตลาด 100 ปี เมืองปากพนัง” ที่อุดมไปด้วยสินค้าอันหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสด-แห้ง และของกิน,“คอนโดนกนางแอ่น”ที่เป็นการสร้างตึกไว้ให้นกนางแอ่นมาอาศัยอยู่แล้วเก็บรังนกขาย
และ“แม่น้ำปากพนัง” ที่ปัจจุบันมีกิจกรรมล่องเรือชมทิวทิวทัศน์ สัมผัสวิถีแห่งลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งในระหว่างทางจะได้ชมภาพวิถีชีวิตริมแม่น้ำปากพนัง การทำประมงพื้นบ้าน ป่าชายเลนผืนใหญ่ ฝูงนกที่บินออกหากิน ปล่องโรงสีข้าวโบราณ และเมื่อล่องไปถึงบริเวณปากอ่าว ยังสามารถมองเห็น“แหลมตะลุมพุก” ที่เห็นอยู่ไกลๆในสุดปลายอ่าวได้อีกด้วย
นครศรี plus พัทลุง
จากนครศรีธรรมราชล่องใต้ลงมาสู่จังหวัด“พัทลุง” ในเส้นทาง“นครศรีธรรมราช plus พัทลุง” จากโครงการ “12 เมืองต้องห้ามพลาดplus”(12 เมืองต้องห้ามพลาดพลัส) ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่โดดเด่นไปด้วยมนต์เสน่ห์ของดินแดนแห่งธรรมะและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆงามๆ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิต อันชวนประทับใจ
พัทลุงแม้จะเป็นเมืองเล็กอันสบงาม แต่ว่าก็มากไปด้วยสิ่งน่าสนใจอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมะ อย่าง “พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ” หรือที่เรียกกันว่า “พระสี่มุมเมือง”, “ถ้ำสุมโน”, “ถ้ำพุทธโคดม” และ“วัดเขียนบางแก้ว” ที่ตั้งอยู่ที่ ต.จองถนน อ.เขาชัยสน
วัดเขียนบางแก้ว เป็นวัดโบราณเก่าแก่ ภายในวัดประดิษฐาน“พระมหาธาตุเจดีย์บางแก้ว” หรือ “พระธาตุบางแก้ว” นั้นถือเป็นพระธาตุสำคัญคู่บ้านคู่เมืองพัทลุง
จากมนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวธรรมะ เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังในพัทลุงนั่นก็คือ “ทะเลน้อย” ที่ตั้งอยู่ใน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ทะเลน้อยก็คือการล่องเรือชมทะเลน้อย ซึ่งหากไปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ก็จะได้สัมผัสกับความงดงามของ“ดอกบัวสาย” หรือ “ดอกบัวแดง” ที่พากันออกดอกบานสะพรั่งดุจดัง“ทะเลบัว”สีชมพูสดใสเต็มท้องน้ำ นอกจากนี้ในเส้นทางล่องเรือจะได้พบกับนกประจำถิ่นและนกอพยพเป็นจำนวนมาก
ทะเลน้อยยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญนั่นก็คือ “ควายน้ำ” ที่เดิมเป็น“ควายเลี้ยง”ทั่วๆไปของชาวบ้านในละแวกนั้น แต่ครั้นพอถึงหน้าน้ำที่ในทะเลน้อยมีปริมาณน้ำขึ้นสูง ท่วมทุ่งหญ้าแหล่งหากินของควายเหล่านี้ พวกมันจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมากินพืชน้ำอย่างสายบัว ใบบัว หรือสาหร่าย ในน้ำแทน โดยพวกมันจะพากันว่ายน้ำชูคอลงไปหากินในน้ำ หรือไม่ก็ดำลงไปกินสาหร่ายหรือสายบัว จนถูกเรียกขานให้เป็น “ควายน้ำ” อันแสนน่ารักและน่าทึ่ง
นอกจากนี้ในบริเวณใกล้ๆกับทะเลน้อยยังมี “คลองปากประ”(บ้านปากประ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน) เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญ
คลองปากประเป็นลำคลองมีสายน้ำเชื่อมโยงกับทะเลน้อย ในช่วงเช้ามืดชาวบ้านที่คลองปากประจะพากันออกมายกยอ ท่ามกลางพระอาทิตย์ดวงกลมโตที่ค่อยๆลอยโผล่เหนือผืนน้ำดูสวยงามน่าประทับใจ จนคลองปากประถูกยกให้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีภาพวิถีชีวิตที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเมืองต้องห้ามพลาด “นครศรีธรรมราช” ดินแดนแห่ง “นครสองธรรม” ที่สามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับเส้นทางเมืองต้องห้ามพลาดplus “นครศรีธรรมราช plus พัทลุง” ซึ่งนอกจากจะมากไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆงามๆอันหลากหลายแล้ว พลังจากธรรมะและธรรมชาติของเมืองทั้งสองนั้น สามารถสร้างพลังให้กับชีวิต และสร้างพลังแห่งความสุขให้กับผู้ที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี
******************************************
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส “นครศรีธรรมราช plus พัทลุง” เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครศรีธรรมราช (พื้นที่รับผิดชอบ นครศรีธรรมราช, พัทลุง) โทร. 0-7534-6515-6
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com