xs
xsm
sm
md
lg

โรแมนติกฉ่ำฝนบน“ภูหินร่องกล้า”...ดอกไม้งามเริงร่า สวยแปลกตา“ลานหินปุ่ม”/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
ลานหินปุ่ม มหัศจรรย์ธรรมชาติสรรค์สร้างแห่งภูหินร่องกล้า
     “เด่นทระนงตระหง่านฟ้าท้าทาย
ศัตรูใดมิอาจกล้ำกรายย่ำยี
หินร่องกล้าประกาศท้าไพรี
สงครามประชานี้มีอานุภาพเกรียงไกร...

เพลง : ภูร่องกล้าปฏิวัติ

อุทยานฯภูหินร่องกล้า

ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง
ผาชูธง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นทั้งในเรื่องธรรมชาติและประวัติศาสตร์
บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย

หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย)
จุดชมวิวบริเวณหน้าผาในโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า
นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ

โรงเรียนการเมืองการทหาร
โรงเรียนการเมืองการทหาร
“ร้อยดาวร้อยเดือนมา ร้อยดวงมาเรียงเป็นวง ร้อยใจสายใยยาว กูเกี่ยวดาวมาไว้ดิน เคียวคาวข้าวข่มขื่น เขาหยัดยืนขึ้นถือธง ร้อยชนที่ชูธรรม ชนจะนำไปชูไทย”

เสียงขับขานบทเพลงของหนุ่มสาวในยุค "ฉันจึงมาหาความหมาย" ต่อต้านอำนาจเผด็จการและการกระทำที่ไม่เป็นธรรมจากอำนาจรัฐ ผุดลอยเข้ามาในจินตนาการ ระหว่างที่ผมเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในยามเช้าตรู่ของวัน

สำหรับที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างผู้มีความคิดต่างทางการเมือง ที่วันนี้ยังคงมีร่องรอยอดีตทางการต่อสู้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากันอยู่หลายจุดโดยเฉพาะที่ “โรงเรียนการเมืองการทหาร” ที่ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการ อช.ภูหินร่องกล้า ประมาณ 6 กม.
โรงเรียนการเมือง การทหาร ยามใบเมเปิ้ลสีแดงร่วงหล่นในช่วงฤดูหนาว
โรงเรียนการเมืองการทหาร เป็นสถานที่ให้การศึกษาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีทั้งห้องเรียน บ้านพัก สถานพยาบาล ครัว ประมาณ 30 หลังกระจายตัวอยู่ใต้แมกไม้ใหญ่ของผืนป่าภูหินร่องกล้า ซึ่งวันนี้รอยอดีตที่ พคท.สร้างโรงเรียนแห่งนี้ไว้ ยังดำรงคงอยู่

ในช่วงหน้าฝนโรงเรียนการเมืองการทหาร จะมีบรรยากาศร่มรื่นเขียวครึ้ม บนหลังคาอาคารที่เป็นแผ่นไม้(แป้นเกล็ด)มีตะไคร้ขึ้นหนาดุจดังพรมกำมะหยี่ผืนใหญ่ดูเขียวชอุ่มนุ่มละมุนตา

ขณะที่ในช่วงฤดูหนาวบรรยากาศของโรงเรียนการเมืองการทหารจะเปลี่ยนไปดูละม้ายคล้ายเมืองนอก เพราะต้นเมเปิ้ลที่บริเวณนี้ จะพร้อมใจกันเปลี่ยนใบเป็นสีแดงย้อมบริเวณนี้ให้เป็นสีแดงสดสวยงาม ทั้งใบเมเปิ้ลที่เปลี่ยนสีอยู่บนต้น ใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นอยู่ตามพื้นดิน และใบเมเปิ้ลที่ปลิวไปตกบนหลังคาอาคารที่มีมอสขึ้นปกคลุมเขียวครึ้ม เกิดเป็นจุดตัดแห่งสีสันระหว่างสีเขียวกับแดงที่ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย
ใบเมเปิ้ล(หล่น)เดียวดายบนหลังคาอาคารโรงเรียนการเมือง การทหาร
นั่นจึงทำให้ในฤดูหนาวช่วงที่เมเปิ้ลพร้อมใจกันเปลี่ยนใบเป็นสีแดง โรงเรียนการเมืองการทหารจึงถือเป็นหนึ่งในจุดไฮไลท์ที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

นอกจากโรงเรียนการเมืองและการทหารแล้ว อช.ภูหินร่องกล้า ยังมีรอยอดีตเด่นๆในยุคที่เป็นสมรภูมิสู้รบให้เที่ยวชมกันอีก อาทิ “พิพิธภัณฑ์การสู้รบ” ที่จัดแสดงนิทรรศการและเรื่องราวการสู้รบ การใช้ชีวิตของพคท. รวมทั้งอาวุธ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ, “สำนักอำนาจรัฐ”อดีตสถานที่ที่ทางพคท. ใช้เป็นที่ดำเนินการทางการปกครองพิจารณาลงโทษผู้กระทำความผิด มีทั้งคุก โรงซ่อมเครื่องจักรกล และที่หลบภัยทางอากาศที่เป็นโพรงถ้ำกว้าง สามารถจุคนได้มากกว่า 200 คน, “กังหันน้ำ” ที่เป็นกังหันน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นนวัตกรรมการนำประโยชน์จากธรรมชาติมาใช้งาน
จุดชมวิวตามแนวหน้าผาต่างๆที่โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า
ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.)
ทุ่งดอกกระดาษที่โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้าในช่วงหน้าหนาว
ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด
สิ่งชวนมองบนเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครกในช่วงหน้าฝน
ขณะที่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก”(ระยะทางประมาณ 2,460 เมตร) ซึ่งถือเป็นหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวไฮไลท์นั้น มีความสวยงามแปลกตาของธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนที่ไหนให้สัมผัสเที่ยวชมไล่เรียงกันไป ได้แก่

ผาหินกบ”กับก้อนหินใหญ่วางเทินกันอยู่ซึ่งเมื่อมองถูกมุมจะดูคล้ายกบเกาะอยู่บนหินไม่น้อย
ผาหัวใจหิน
“ผาหัวใจหิน”กับก้อนหินใหญ่รูปร่างคล้ายหัวใจให้นักท่องเที่ยวไปโพสต์ท่าหัวใจถ่ายรูป เซลฟี่กันเป็นที่เพลิดเพลิน

“ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา
ลานหินปุ่ม
นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่
ผาหินกบ
ซันแครก” หินตามธรรมชาติมีลักษณะเป็นชั้นๆริ้วๆดูคล้ายมีคนนำมาก่อเป็นกำแพง ซึ่งนักธรณีวิทยาระบุว่า ปกติหินลักษณะแบบนี้จะพบเฉพาะที่ใต้ทะเลเท่านั้น แต่ที่มาโผล่อวดความสวยงามอยู่บนภูหินได้อย่างน่าอัศจรรย์นั้น น่าจะเป็นเพราะเกิดความเปลี่ยนแปลงของผิวโลกทำให้หินเหล่านี้ยกตัวขึ้นมาจากใต้ทะเล หรือไม่ก็เป็นลักษณะเฉพาะของหินแถบนี้ที่ไม่เหมือนใครนั่นเอง
หินรูปร่างแปลกตาในเส้นทางลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก
นอกจากจะมากไปด้วยหินรูปร่างแปลกตาแล้ว ในช่วงหน้าฝนเช่นนี้เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ “ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก”ยังมีความพิเศษสุดๆ จากมวลหมู่ดอกไม้ป่านานาพันธุ์ที่พากันออกดอกชูช่อสวยงามรับวสันต์ฤดูอยู่ทั่วไป

โดยบริเวณใกล้ๆกับลานหินปุ่มจะมีดอกไม้กล้วยไม้หลากหลายชนิดให้ชมกันอย่างเพลิดตาเพลินใจ อาทิ “กุหลาบขาว”ที่ออกดอกประปรายสีขาวนวลเด่น,“ลิ้นมังกร”สีส้มสดอยู่ตามพื้นดิน, “เอนอ้า”สีชมพูอมม่วงสดใสที่นอกจากแถวลานหินปุ่มแล้วยังมีให้เห็นกันเกือบตลอดเส้นทาง
ดงเอื้องตาเหินไหว
ส่วน 2 ดาวเด่นประจำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายนี้ก็คือ “เอื้องตาเหินไหว”ที่ออกดอกสีขาวชูช่อเป็นริ้วพลิ้วไหวอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ๆใน 3-4 จุดด้วยกัน และ“ดอกเปราะภู”ดอกสีขาวราวสำลีอยู่ทั่วไปตามพื้นดินริมบริเวณลานหิน โดยจุดที่หนาแน่นที่สุดอยู่บริเวณใกล้ๆกับลานหินปุ่ม
ดอกเปราะภูขาว อีกหนึ่งดาวเด่นยามหน้าฝนแห่งภูหินร่องกล้าในช่วงฤดูฝน
และด้วยมนต์เสน่ห์เฉพาะตัวของดอกเปราะภูขาวที่นี่(ปกติดอกเปราะภูส่วนใหญ่จะเป็นดอกสีชมพูอมขาว) ทำให้ทาง ททท. ยกให้เป็น 1 ใน 22 เส้นทางดูดอกไม้ทั่วไทย จากโครงการ “กาลครั้งนั้น..ความฝันผลิบาน” หรือ “Dream Destination 2” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสีสันแห่งกรีนซีซั่นภาคเหนือตอนล่างที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ลิ้นมังกรสีส้มสด ยามหน้าฝนพบเห็นได้บริเวณใกล้ๆ ลานหินปุ่ม
*****************************************
หมายเหตุ : ปีนี้(2560) ในช่วงหลังวันเข้าพรรษา ดอกเปราะภูขาวที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าได้พากันออกดอกเบ่งบาน บริเวณลานหินแตก และลานหินปุ่ม โดยสามารถชมได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนสิงหาคมนี้

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com


กำลังโหลดความคิดเห็น