โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
วสันต์ฤดู
ฟ้าชื้น ฝนฉ่ำ ดินชุ่ม เขียวชอุ่มพงไพรพฤกษ์
ทุกๆปีเมื่อฤดูฝนมาเยือนคราใด ในช่วงราวเดือนมิถุนายน-สิงหาคม มวลหมู่ดอกกระเจียวในจังหวัดชัยภูมิที่เคยหลับใหล ต่างพากันเติบโตงอกงาม ผลิยอดแตกใบ ก่อนจะค่อยๆทยอยออกดอกเบ่งบานดารดาษเต็มท้องทุ่ง
เกิดเป็นทุ่งดอกกระเจียวแสนงาม เปลี่ยนบริเวณนั้นให้เป็นท้องทุ่งสีชมพู ที่ดูแล้วน่าเพริศแพร้วกระไรปานนั้น
กระเจียวฟีเว่อร์
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับขมิ้น อยู่ในวงขิง, ข่า, ขมิ้น ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน กระเจียวจะจำศีลหลับใหลอยู่ใต้ดิน แต่พอถึงฤดูฝนพวกมันก็จะพากันออกดอกผลิบานเริงร่าท้าทายสายฝนที่โปรยสายลงมา
ดอกกระเจียวจึงได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” เพราะเป็นหนึ่งในดอกไม้งามที่มาพร้อมๆกับสายฝนอย่างแท้จริง
ในเมืองไทยมีแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวเลื่องชื่ออยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งในปีนี้(2560) หลังจากมีการโพสต์และแชร์ภาพของทุ่งดอกกระเจียวที่ชัยภูมิกันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์และในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดเป็นกระแส“กระเจียวฟีเว่อร์”ขึ้น ซึ่งถือเป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้ใครต่อหลายคนอยากไปชมความงามของท้องทุ่งสีชมพูของดอกกระเจียวแห่งชัยภูมิกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่จังหวัดชัยภูมินั้นมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือที่ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม”(อ.เทพสถิต) และ“อุทยานแห่งชาติไทรทอง”(อ.หนองบัวระเหว-อ่านว่า หนอง-บัว-ระ-เว๋)
ทั้งสองแห่งต่างก็มีความงามอันแตกต่างของทุ่งดอกกระเจียวที่เกิดจากธรรมชาติสรรค์สร้าง ซึ่งหนึ่งปีมีให้เที่ยวชมกันเพียงครั้งเดียว เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น
ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม
ทุ่งดอกกระเจียว“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 22 เส้นทางชมดอกไม้แสนงามทั่วไทยจากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น ความฝันผลิบาน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามมีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 100 ไร่ ถือเป็นทุ่งดอกกระเจียวผืนใหญ่ผืนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
ดอกกระเจียวที่ป่าหินงามมีสีชมพูอมม่วงอ่อน ยามที่มันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง สีชมพูอมม่วงของมันจะตัดกับสีเขียวสดของทุ่งหญ้าเพ็ก โดยมีต้นไม้ ก้อนหินใหญ่น้อย และผืนป่าเต็งรังที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ หลายต้นมีรูปทรงหงิกงอ ขึ้นแทรกแซมเป็นระยะดูสวยงามน่าประทับใจไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่(ของวันอากาศเป็นใจ) ยามเมื่อมีสายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งเข้ามาปกคลุมแบบพองาม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามจะพากันชูช่อไสว กลีบดอกมีน้ำค้างเกาะพราว ท่ามกลางสายหมอกขาวที่ลอยห่มคลุม ดูงดงามประหนึ่งภาพฝัน อันทำให้เกิดเป็นสโลแกน “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามแห่งนี้
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวที่สะดวกสบายมีรถรางที่ทางอุทยานฯร่วมกับชุมชนวิ่งรับส่งถึงที่(ค่ารถ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท)
ขณะที่ในพื้นที่เที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวก็มีมีเส้นทางเดินยกระดับเตี้ยๆจากพื้นดินทอดยาวไปตลอดเส้นทางรวมระยะทางประมาณ 1 กม. เพื่อกำหนดทิศทางการเดินชมและป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปสัมผัสกับดอกกระเจียว
แต่กระนั้นก็ยังไม่วายมีนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึกบางคนพยายามที่เดินออกนอกลู่นอกทางลงไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวอยู่บ่อยครั้ง บางคนแม้เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะเป่านกหวีดเตือนแล้วก็ยังไม่เชื่อฟัง แถมยังหันมาโวยวายจนท.อีกต่างหาก (อย่างนี้มันน่าโดนจับ ปรับ เสียให้เข็ด)
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว อช.ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” หรือ “ผาสุดแผ่นดิน” บนระดับความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ใกล้ๆกับทุ่งดอกกระเจียว(ช่วงบน)
จุดชมวิวสุดแผ่นดินเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย เป็นรอยต่อระหว่างภาคอีสานกับภาคกลาง เมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าซับลังกาในเบื้องล่างได้อย่างสวยงามกว้างไกล รวมถึงที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกชั้นดีที่ใครไปเยือนป่าหินงามไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ที่ อช.ป่าหินงาม ยังมี“ลานหินงาม”เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ บนพื้นที่ลานหินที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินธรรมชาติรูปร่างประหลาดแปลกตา ชวนให้จินตนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หินถ้วยฟีฟ่า หินปราสาท หินแม่ไก่ยักษ์ หินถ้ำมอง หิน(ฐาน)เรดาร์ สัญลักษณ์แห่งป่าหินงาม และ หิน“มอหำตั้ง” ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานแต่ว่าด้วยชื่อที่โดน ทำให้มอหำตั้งที่มีรูปร่างสมดังชื่อมาแรงไม่เบา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดในป่าหินงามที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก
ทุ่งดอกกระเจียว ไทรทอง
จากทุ่งดอกกระเจียวอช.ป่าหินงาม ไปต่อกันที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมทุ่งดอกกระเจียวเลื่องชื่อของเมืองไทย
ทุ่งดอกกระเจียวที่อช.ไทรทอง ปกติจะออกดอกบานช้ากว่าที่อช.ป่าหินงามประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่บางปีก็จะออกดอกบานพร้อมๆกับที่ป่าหินงามเหมือนดังเช่นปีนี้(2560)
ดอกกระเจียวที่อช.ไทรทองจะมีสีชมพูอมม่วงที่สดเข้มกว่ากว่าที่ป่าหินงาม อีกทั้งที่นี่ยังมี“ดอกกระเจียวสีขาว”(เทพอัปสร) ที่มีดอกเล็กกว่ากระเจียวสีชมพูขึ้นแซมอยู่ในหลายจุดให้ชมกันอีกด้วย
สำหรับการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอช.ไทรทอง ผู้ที่ใช้รถยนต์ทั่วไปให้นำรถจอดไว้ แล้วใช้บริการรถกระบะที่ทางอุทยานฯได้ร่วมมือกับชุมชนจัดเตรียมไว้วิ่งบริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว(ค่ารถไป-กลับ คนละ 60 บาท) สู่จุดเดินชมทุ่งดอกกระเจียวที่อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 10 กม.
ส่วนถ้าใครนำรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ทางอุทยานฯอนุญาตให้ขับรถขึ้นไปยังจุดออกเดินชมทุ่งดอกกระเจียวได้ เนื่องจากเส้นทางมีสภาพสูงชันและบางช่วงต้องผ่านลำธารน้ำ จึงจำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะสมรรถนะดีที่ทางอุทยานฯจัดเตรียมไว้
เมื่อนั่งรถขึ้นเขามาถึงยังลานจอดรถรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว เราต้องเดินเท้าไป-กลับ อีกประมาณ 5 กม. เพื่อไปชมความงามของทุ่งดอกระเจียว โดยระหว่างทางในช่วงแรกจะมีจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆให้เที่ยวชมกัน อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์ และ“ผาหำหด” ที่มีชื่อสะดุดหู
ผาหำหด เป็นชะง่อนหินเล็กๆและแคบ ยื่นล้ำออกจากหน้าผาเข้าไปในหุบเหวเบื้องล่างที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าเขียวขจี และบ้านเรือนในอำเภอภักดีชุมพลได้อย่างสวยงาม
ผาหำหด แม้จะเป็นผาสูงสุดเสียวที่เมื่อหลายๆคนไปยืนแล้วจะรู้สึก(ใจ)หดสมชื่อ แต่ว่าก็เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปนั่ง-ยืนวัดใจที่หน้าผาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก(สามารถขึ้นไปยืน-นั่งบนหน้าผาได้ครั้งละไม่เกิน 3 คน) แต่อย่างไรก็ตามใครที่จะไปยืนหรือนั่งถ่ายรูปที่หน้าผาแห่งนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นชะง่อนผาเล็กแคบ และสูงชัน ตกไปรับรองดูไม่จืดแน่นอน
นอกจากจุดชมวิวตามหน้าผาต่างๆแล้ว ในระหว่างทางเดินสู่ทุ่งดอกกระเจียวยังมีพืชพันธุ์ไม้อันหลากหลายให้ชม โดยเฉพาะต้นปรงน้อย-ใหญ่ที่มีให้ชมกันเป็นจำนวนมากใน 2 ข้างทางเดินช่วงแรกๆก่อนที่จะถึงยังจุดชมทุ่งดอกกระเจียว
สำหรับทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง มี 5 แปลงใหญ่ๆ ให้เดินชมกันท่ามกลางบรรยากาศผืนป่าเขียวขจี น่าตื่นตาตื่นใจไปกับทุ่งดอกกระเจียวสีม่วงอมชมพูเข้มที่พากันออกดอกชูช่อเด่นหราตัดกับท้องทุ่งหญ้าสีเขียว ดูงดงามน่าประทับใจ
โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวแปลง 1 จะมีความพิเศษของต้นไม้ลักษณะหงิกๆงอๆ(คล้ายที่ป่าหินงาม)ของป่าเต็งรังแคระ และสภาพพื้นที่ของทุ่งที่เป็นที่ลาดเอียงบนเขา เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งที่ราบและบ้านเรือนในเบื้องล่างของอำเภอหนองบัวระเหว มาช่วยเสริมให้ท้องทุ่งดอกกระเจียวที่นี่ดูงดงามมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ทุ่งดอกกระเจียว อช.ไทรทอง แต่ละปีจะไม่ได้บานพร้อมกันทีเดียวหมดทั้ง 4 แปลง แต่จะค่อยๆบานทยอยไล่ไปเป็นแปลงๆ และไม่ได้บานไล่เรียงลำดับจากแปลง 1 ไป แปลง 4 หากแต่การบานของทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะไม่แน่นอน บางปีดอกกระเจียวแปลง 1 อาจบานก่อน บางปีดอกกระเจียวแปลง 3 หรือแปลง 4 อาจบานก่อน ขึ้นอยู่กับการจัดสรรของธรรมชาติในปีนั้นๆ
ทุ่งดอกกระเจียว ต้องเที่ยวชมอย่างมีสำนึก
“ปรี๊ดๆๆ”
เสียงนกหวีดดังลั่นทุ่งดอกกระเจียว(แปลง 1) แห่ง อุทยานฯไทรทอง
นี่เป็นเสียงนกหวีดครั้งที่ 7 แล้ว ในเวลาชั่วไม่ถึง 1 ชั่วโมง ของช่วงวันหยุดยาว(อาสาฬบูชา-เข้าพรรษา)ที่ผ่านมาที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทองกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง แม้จะมีคนมาเที่ยวชมกันเยอะมาก แต่ทางอช.ไทรทอง ก็มีการจัดการที่ดีเป็นระบบ สามารถช่วยแก้ปัญหาความวุ่นวายต่างๆที่เกิดจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ดีพอสมควร
แต่ที่แก้ไม่ได้!!! และเป็นที่มาของเสียงนกหวีดดังอยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือ สามัญสำนึกของนักท่องเที่ยวบางคนบางกลุ่ม(ย้ำว่าบางคนบางกลุ่ม) ที่ยังคงมีพฤติกรรมท่องเที่ยวแบบไร้สำนึกและเห็นแก่ตัว พยายามที่จะก้าวข้ามรั้วเข้าไปเหยียบย่ำทุ่งดอกกระเจียว เพื่อให้ตัวเองจะได้เซลฟี่หรือถ่ายรูปคู่กับดอกกระเจียวอย่างแนบชิด
ทั้งๆที่อช.ไทรทอง ได้จัดเส้นทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวไว้เป็นเส้นทางเดินชัดเจน ขณะที่ทุ่งดอกกระเจียวแปลงที่ 1 ที่ช่วงนี้กำลังออกดอกเบ่งบานชมพูสะพรั่งสวยงาม ทางอุทยานฯไทรทอง ได้ทำเส้นทาง มีรั้วไม้กั้นเตี้ยๆไว้ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและถ่ายรูปคู่กับทุ่งดอกกระเจียวได้ในระยะใกล้ รวมถึงมีการกันพื้นที่เป็นเวิ้งวงกลม ภายในนั้นมีแปลงดอกกระเจียวเล็กๆขึ้นอยู่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด
ใครที่อยากถ่ายรูปหรือเซลฟี่คู่กับดอกกระเจียวในระยะประชิด หรือต้องการถ่ายแบบหน้าแนบชิดติดดอกกระเจียว ก็ให้มาถ่ายในเวิ้งวงกลมนี้ที่ทาง อช.ไทรทอง จัดไว้ให้(แต่ห้ามไปเด็ดดึงทึ้งดอกกระเจียวเด็ดขาด)
แต่กระนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางคนบางกลุ่ม พยายามเดินเข้าไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวแปลงใหญ่ แบบไม่สนใจในกฎเกณฑ์ที่ทางอช.ไทรทอง ติดป้ายประกาศเตือนไว้แต่อย่างใด
บางคนอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่.อุทยานฯเผลอ เดินลงไปในแปลงทุ่งดอกกระเจียว เพื่อให้ตัวเองได้รูปตามที่ต้องการ หรือในบางช่วงที่รั้วพังไปแล้ว เกิดเป็นช่องเล็กๆ ก็มีนักท่องเที่ยวบางคนแกล้งตีมึน เดินเข้าไปโดยอ้างว่า นึกว่าเป็นทางเดินเข้าไปในทุ่งดอกกระเจียว เพราะไม่มีรั้วกั้นไว้ (การที่รั้วพัง น่าจะเกิดจากนักท่องเที่ยวไปนั่งกันเป็นจำนวนมากจนหักพัง)
ครั้นเมื่อถูกเจ้าหน้าที่จับได้ มีการเป่านกหวีดเตือน มีการตำหนิกัน บ้างคนบอกว่ามองไม่เห็นป้ายห้าม บางคนแถว่าก็ตรงจุดที่เดินเข้าไปไม่มีป้ายติดห้ามบอกไว้หนิ(ทางอช.ไทรทอง มีป้ายบอกห้ามเข้าไว้เป็นจุดๆ)
หรือบางคนก็บอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็น่าจะมีบ้างที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ อย่างพวกเด็กน้อยที่พ่อแม่เผลอก็วิ่งเข้าไป แต่สำหรับวัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ที่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์นี่น่าจะฟังไม่ขึ้น(แล้วเคสแบบนี้ก็เลยเกิดมาหลายครั้งในโซเชียลมีเดียให้ชาวเน็ตก่นด่าประณามกันแล้ว)
สำหรับการเดินรุกล้ำลงไปเหยียบในแปลงทุ่งดอกกระเจียว ซึ่งบางคนบอกเขาเพียงแต่เดินลงไปเหยียบต้นหญ้า(เพ็ก) ไม่ได้ไปเหยียบดอกกระเจียว เหยียบต้นกระเจียวสักหน่อย ทำไมทางอุทยานฯถึงต้องมาเข้มงวด เหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองกันด้วย
เรื่องนี้ทางหัวหน้า“วรพล ดีปราสัย” หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรทอง บอกกับผมว่า ทุ่งดอกกระเจียวมีต้นหญ้าเพ็กเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เสริมส่งกันอยู่ ดอกกระเจียวที่อช.ไทรทอง(และป่าหินงาม)จะเติบโตออกดอกสวยงามบนพื้นที่หญ้าเพ็ก ถ้าไม่มีต้นทุ่งหญ้าเพ็กก็ไม่มีทุ่งดอกกระเจียว(ตามธรรมชาติ)
“บางทีเราเห็นแค่เฉพาะกอหญ้าเพ็กขึ้นอยู่ แต่ใต้กอหญ้านั้นมีหัวของกระเจียวกำลังแตกหน่ออยู่ หรือมีช่อดอกเล็กๆกำลังเติบโต ถ้าเราเหยียบหญ้าก็เท่ากับไปเหยียบกระเจียวต้นน้อยๆที่รอวันเติบโต จนมันบอบช้ำ พิการ บางต้นถึงกับตายไปเลย” หัวหน้าวรพล กล่าว
จากที่ หน.วรพล ทำให้ผมอดนึกถึงปรากฏการณ์ทุ่งหญ้าหิมะที่เกิดเป็นดราม่าโด่งดังในโซเชียลมีเดีย เมื่อปีที่แล้วไม่ได้ เพราะถ้าอุทยานฯไม่กั้นพื้นที่ กำหนดเส้นทางเดินชม ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินลงไปในทุ่งดอกกระเจียวแบบตามใจฉัน ทั้งดอกกระเจียวและทุ่งหญ้าเพ็กคงถูกเหยียบย่ำทำลายกันแบบดูไม่จืด ส่วนเรื่องเด็ดดึงทึ้งดอกกระเจียวนี่ห้ามกันชัดเจนอยู่แล้ว ใครแอบไปหักเด็ดดึงมาเป็นของตัวเอง ถ้าถูกเจ้าหน้าที่จับได้ ต้องโดนจับปรับตามกม.ของอุทยานฯ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราต้องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวกันอย่างมีจิตสำนึก ไม่ลงไปเดินเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียว ไม่เด็ดดึงทึ้งทำลายดอกกระเจียว หรือแอบลักดอกกระเจียวมาเป็นของตัวเองรวมถึงไม่ไปทำร้าย ทำลาย สร้างความบอบช้ำให้กับธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงแค่ทุ่งดอกกระเจียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงการท่องเที่ยวในด้านอื่นๆทั้งหมดด้วย ที่ต้องเที่ยวอย่างคนมีสำนึกด้วยเช่นกัน
เพราะผู้มีจิตสำนึกนั้นย่อมมีจิตวิญญาณความเป็นคนมากกว่าผู้ขาดจิตสำนึก
******************************************
ทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ในช่วงวันหยุดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาที่ผ่านมา(8-10 ก.ค.60) ออกดอกเบ่งบานแล้วประมาณ 80%
การขึ้นไปเที่ยวชมต้องนั่งรถรางที่ทางอุทยานฯร่วมกับชุมชนจัดเตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยว(ค่ารถ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท) โดยจะมีวิ่งรับ-ส่ง ทั้งที่ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม และลานหินหน่อ ซึ่งจะมีรถเวียนวิ่งบริการอยู่ตลอดเวลาเป็นระยะๆ
นักท่องเที่ยวสามารถมาพักค้างที่บ้านพักอุทยานฯ และมากางเต็นท์นอนในอุทยานฯป่าหินงามได้
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลการบานของทุ่งดอกกระเจียว บ้านพัก ที่กางเต็นท์ และข้อมูลการท่องเที่ยวในอช.ป่าหินงาม ได้ที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร. 0-4405-6141
ทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ในช่วงวันหยุดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา(8-10 ก.ค.60) ที่ผ่านมา ที่แปลง 1 ออกดอกเบ่งบานเต็มที่แล้วประมาณ 80-90% ส่วนที่แปลง 2-5 เริ่มทยอยออกดอก แต่ยังไม่มาก
การขึ้นไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง เนื่องจากเส้นทางมีสภาพสูงชันและบางช่วงต้องผ่านลำธารน้ำ นักท่องเที่ยวที่ขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ มาเอง ทางอช.ไทรทอง อนุญาตให้ขับขึ้นไปจอดยังจุดลงเดินดูทุ่งดอกระเจียวได้ ส่วนผู้ที่มาด้วยรถยนต์ธรรมดา หรือรถตู้ ให้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอช.ไทรทอง แล้วใช้บริการรถกระบะที่ทางอุทยานฯได้ร่วมมือกับชุมชนจัดเตรียมไว้วิ่งบริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ค่ารถไป-กลับ คนละ 60 บาท สู่จุดเดินชมทุ่งดอกกระเจียวที่อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 10 กม.
นักท่องเที่ยวสามารถมาพักค้างที่บ้านพักอุทยานฯ และมากางเต็นท์นอนในอุทยานฯไทรทองได้
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลการบานของทุ่งดอกกระเจียว บ้านพัก ที่กางเต็นท์ และข้อมูลการท่องเที่ยว ใน อช.ไทรทอง ได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. 0-89282-3437
สำหรับผู้ที่ต้องการไปถ่ายภาพทุ่งดอกกระเจียวท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงาม แนะนำให้ไปในวันธรรมดาจะเหมาะสมที่สุด เนื่องคนน้อยกว่าช่วงวันหยุดที่มีคนพลุกพล่าน
นอกจากทุ่งดอกระเจียวแล้ว จังหวัดชัยภูมิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆอีก อาทิ น้ำตกตาดโตน, มอหินขาว, ศาลเจ้าพ่อพญาแล} ปรางค์กู่, วัดศิลาอาสน์ ภูพระ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และเขื่อนจุฬาภรณ์ เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดชัยภูมิ ได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมา,ชัยภูมิ) โทร. 0-4421-3030,0-4421-3666
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
วสันต์ฤดู
ฟ้าชื้น ฝนฉ่ำ ดินชุ่ม เขียวชอุ่มพงไพรพฤกษ์
ทุกๆปีเมื่อฤดูฝนมาเยือนคราใด ในช่วงราวเดือนมิถุนายน-สิงหาคม มวลหมู่ดอกกระเจียวในจังหวัดชัยภูมิที่เคยหลับใหล ต่างพากันเติบโตงอกงาม ผลิยอดแตกใบ ก่อนจะค่อยๆทยอยออกดอกเบ่งบานดารดาษเต็มท้องทุ่ง
เกิดเป็นทุ่งดอกกระเจียวแสนงาม เปลี่ยนบริเวณนั้นให้เป็นท้องทุ่งสีชมพู ที่ดูแล้วน่าเพริศแพร้วกระไรปานนั้น
กระเจียวฟีเว่อร์
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับขมิ้น อยู่ในวงขิง, ข่า, ขมิ้น ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน กระเจียวจะจำศีลหลับใหลอยู่ใต้ดิน แต่พอถึงฤดูฝนพวกมันก็จะพากันออกดอกผลิบานเริงร่าท้าทายสายฝนที่โปรยสายลงมา
ดอกกระเจียวจึงได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” เพราะเป็นหนึ่งในดอกไม้งามที่มาพร้อมๆกับสายฝนอย่างแท้จริง
ในเมืองไทยมีแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวเลื่องชื่ออยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งในปีนี้(2560) หลังจากมีการโพสต์และแชร์ภาพของทุ่งดอกกระเจียวที่ชัยภูมิกันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์และในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดเป็นกระแส“กระเจียวฟีเว่อร์”ขึ้น ซึ่งถือเป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้ใครต่อหลายคนอยากไปชมความงามของท้องทุ่งสีชมพูของดอกกระเจียวแห่งชัยภูมิกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่จังหวัดชัยภูมินั้นมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือที่ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม”(อ.เทพสถิต) และ“อุทยานแห่งชาติไทรทอง”(อ.หนองบัวระเหว-อ่านว่า หนอง-บัว-ระ-เว๋)
ทั้งสองแห่งต่างก็มีความงามอันแตกต่างของทุ่งดอกกระเจียวที่เกิดจากธรรมชาติสรรค์สร้าง ซึ่งหนึ่งปีมีให้เที่ยวชมกันเพียงครั้งเดียว เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น
ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม
ทุ่งดอกกระเจียว“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 22 เส้นทางชมดอกไม้แสนงามทั่วไทยจากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น ความฝันผลิบาน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามมีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 100 ไร่ ถือเป็นทุ่งดอกกระเจียวผืนใหญ่ผืนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
ดอกกระเจียวที่ป่าหินงามมีสีชมพูอมม่วงอ่อน ยามที่มันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง สีชมพูอมม่วงของมันจะตัดกับสีเขียวสดของทุ่งหญ้าเพ็ก โดยมีต้นไม้ ก้อนหินใหญ่น้อย และผืนป่าเต็งรังที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ หลายต้นมีรูปทรงหงิกงอ ขึ้นแทรกแซมเป็นระยะดูสวยงามน่าประทับใจไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่(ของวันอากาศเป็นใจ) ยามเมื่อมีสายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งเข้ามาปกคลุมแบบพองาม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามจะพากันชูช่อไสว กลีบดอกมีน้ำค้างเกาะพราว ท่ามกลางสายหมอกขาวที่ลอยห่มคลุม ดูงดงามประหนึ่งภาพฝัน อันทำให้เกิดเป็นสโลแกน “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามแห่งนี้
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวที่สะดวกสบายมีรถรางที่ทางอุทยานฯร่วมกับชุมชนวิ่งรับส่งถึงที่(ค่ารถ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท)
ขณะที่ในพื้นที่เที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวก็มีมีเส้นทางเดินยกระดับเตี้ยๆจากพื้นดินทอดยาวไปตลอดเส้นทางรวมระยะทางประมาณ 1 กม. เพื่อกำหนดทิศทางการเดินชมและป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปสัมผัสกับดอกกระเจียว
แต่กระนั้นก็ยังไม่วายมีนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึกบางคนพยายามที่เดินออกนอกลู่นอกทางลงไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวอยู่บ่อยครั้ง บางคนแม้เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะเป่านกหวีดเตือนแล้วก็ยังไม่เชื่อฟัง แถมยังหันมาโวยวายจนท.อีกต่างหาก (อย่างนี้มันน่าโดนจับ ปรับ เสียให้เข็ด)
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว อช.ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” หรือ “ผาสุดแผ่นดิน” บนระดับความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ใกล้ๆกับทุ่งดอกกระเจียว(ช่วงบน)
จุดชมวิวสุดแผ่นดินเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย เป็นรอยต่อระหว่างภาคอีสานกับภาคกลาง เมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าซับลังกาในเบื้องล่างได้อย่างสวยงามกว้างไกล รวมถึงที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกชั้นดีที่ใครไปเยือนป่าหินงามไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ที่ อช.ป่าหินงาม ยังมี“ลานหินงาม”เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ บนพื้นที่ลานหินที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินธรรมชาติรูปร่างประหลาดแปลกตา ชวนให้จินตนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หินถ้วยฟีฟ่า หินปราสาท หินแม่ไก่ยักษ์ หินถ้ำมอง หิน(ฐาน)เรดาร์ สัญลักษณ์แห่งป่าหินงาม และ หิน“มอหำตั้ง” ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานแต่ว่าด้วยชื่อที่โดน ทำให้มอหำตั้งที่มีรูปร่างสมดังชื่อมาแรงไม่เบา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดในป่าหินงามที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก
ทุ่งดอกกระเจียว ไทรทอง
จากทุ่งดอกกระเจียวอช.ป่าหินงาม ไปต่อกันที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมทุ่งดอกกระเจียวเลื่องชื่อของเมืองไทย
ทุ่งดอกกระเจียวที่อช.ไทรทอง ปกติจะออกดอกบานช้ากว่าที่อช.ป่าหินงามประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่บางปีก็จะออกดอกบานพร้อมๆกับที่ป่าหินงามเหมือนดังเช่นปีนี้(2560)
ดอกกระเจียวที่อช.ไทรทองจะมีสีชมพูอมม่วงที่สดเข้มกว่ากว่าที่ป่าหินงาม อีกทั้งที่นี่ยังมี“ดอกกระเจียวสีขาว”(เทพอัปสร) ที่มีดอกเล็กกว่ากระเจียวสีชมพูขึ้นแซมอยู่ในหลายจุดให้ชมกันอีกด้วย
สำหรับการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอช.ไทรทอง ผู้ที่ใช้รถยนต์ทั่วไปให้นำรถจอดไว้ แล้วใช้บริการรถกระบะที่ทางอุทยานฯได้ร่วมมือกับชุมชนจัดเตรียมไว้วิ่งบริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว(ค่ารถไป-กลับ คนละ 60 บาท) สู่จุดเดินชมทุ่งดอกกระเจียวที่อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 10 กม.
ส่วนถ้าใครนำรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ทางอุทยานฯอนุญาตให้ขับรถขึ้นไปยังจุดออกเดินชมทุ่งดอกกระเจียวได้ เนื่องจากเส้นทางมีสภาพสูงชันและบางช่วงต้องผ่านลำธารน้ำ จึงจำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะสมรรถนะดีที่ทางอุทยานฯจัดเตรียมไว้
เมื่อนั่งรถขึ้นเขามาถึงยังลานจอดรถรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว เราต้องเดินเท้าไป-กลับ อีกประมาณ 5 กม. เพื่อไปชมความงามของทุ่งดอกระเจียว โดยระหว่างทางในช่วงแรกจะมีจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆให้เที่ยวชมกัน อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์ และ“ผาหำหด” ที่มีชื่อสะดุดหู
ผาหำหด เป็นชะง่อนหินเล็กๆและแคบ ยื่นล้ำออกจากหน้าผาเข้าไปในหุบเหวเบื้องล่างที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าเขียวขจี และบ้านเรือนในอำเภอภักดีชุมพลได้อย่างสวยงาม
ผาหำหด แม้จะเป็นผาสูงสุดเสียวที่เมื่อหลายๆคนไปยืนแล้วจะรู้สึก(ใจ)หดสมชื่อ แต่ว่าก็เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปนั่ง-ยืนวัดใจที่หน้าผาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก(สามารถขึ้นไปยืน-นั่งบนหน้าผาได้ครั้งละไม่เกิน 3 คน) แต่อย่างไรก็ตามใครที่จะไปยืนหรือนั่งถ่ายรูปที่หน้าผาแห่งนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นชะง่อนผาเล็กแคบ และสูงชัน ตกไปรับรองดูไม่จืดแน่นอน
นอกจากจุดชมวิวตามหน้าผาต่างๆแล้ว ในระหว่างทางเดินสู่ทุ่งดอกกระเจียวยังมีพืชพันธุ์ไม้อันหลากหลายให้ชม โดยเฉพาะต้นปรงน้อย-ใหญ่ที่มีให้ชมกันเป็นจำนวนมากใน 2 ข้างทางเดินช่วงแรกๆก่อนที่จะถึงยังจุดชมทุ่งดอกกระเจียว
สำหรับทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง มี 5 แปลงใหญ่ๆ ให้เดินชมกันท่ามกลางบรรยากาศผืนป่าเขียวขจี น่าตื่นตาตื่นใจไปกับทุ่งดอกกระเจียวสีม่วงอมชมพูเข้มที่พากันออกดอกชูช่อเด่นหราตัดกับท้องทุ่งหญ้าสีเขียว ดูงดงามน่าประทับใจ
โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวแปลง 1 จะมีความพิเศษของต้นไม้ลักษณะหงิกๆงอๆ(คล้ายที่ป่าหินงาม)ของป่าเต็งรังแคระ และสภาพพื้นที่ของทุ่งที่เป็นที่ลาดเอียงบนเขา เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งที่ราบและบ้านเรือนในเบื้องล่างของอำเภอหนองบัวระเหว มาช่วยเสริมให้ท้องทุ่งดอกกระเจียวที่นี่ดูงดงามมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ทุ่งดอกกระเจียว อช.ไทรทอง แต่ละปีจะไม่ได้บานพร้อมกันทีเดียวหมดทั้ง 4 แปลง แต่จะค่อยๆบานทยอยไล่ไปเป็นแปลงๆ และไม่ได้บานไล่เรียงลำดับจากแปลง 1 ไป แปลง 4 หากแต่การบานของทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะไม่แน่นอน บางปีดอกกระเจียวแปลง 1 อาจบานก่อน บางปีดอกกระเจียวแปลง 3 หรือแปลง 4 อาจบานก่อน ขึ้นอยู่กับการจัดสรรของธรรมชาติในปีนั้นๆ
ทุ่งดอกกระเจียว ต้องเที่ยวชมอย่างมีสำนึก
“ปรี๊ดๆๆ”
เสียงนกหวีดดังลั่นทุ่งดอกกระเจียว(แปลง 1) แห่ง อุทยานฯไทรทอง
นี่เป็นเสียงนกหวีดครั้งที่ 7 แล้ว ในเวลาชั่วไม่ถึง 1 ชั่วโมง ของช่วงวันหยุดยาว(อาสาฬบูชา-เข้าพรรษา)ที่ผ่านมาที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทองกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง แม้จะมีคนมาเที่ยวชมกันเยอะมาก แต่ทางอช.ไทรทอง ก็มีการจัดการที่ดีเป็นระบบ สามารถช่วยแก้ปัญหาความวุ่นวายต่างๆที่เกิดจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ดีพอสมควร
แต่ที่แก้ไม่ได้!!! และเป็นที่มาของเสียงนกหวีดดังอยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือ สามัญสำนึกของนักท่องเที่ยวบางคนบางกลุ่ม(ย้ำว่าบางคนบางกลุ่ม) ที่ยังคงมีพฤติกรรมท่องเที่ยวแบบไร้สำนึกและเห็นแก่ตัว พยายามที่จะก้าวข้ามรั้วเข้าไปเหยียบย่ำทุ่งดอกกระเจียว เพื่อให้ตัวเองจะได้เซลฟี่หรือถ่ายรูปคู่กับดอกกระเจียวอย่างแนบชิด
ทั้งๆที่อช.ไทรทอง ได้จัดเส้นทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวไว้เป็นเส้นทางเดินชัดเจน ขณะที่ทุ่งดอกกระเจียวแปลงที่ 1 ที่ช่วงนี้กำลังออกดอกเบ่งบานชมพูสะพรั่งสวยงาม ทางอุทยานฯไทรทอง ได้ทำเส้นทาง มีรั้วไม้กั้นเตี้ยๆไว้ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและถ่ายรูปคู่กับทุ่งดอกกระเจียวได้ในระยะใกล้ รวมถึงมีการกันพื้นที่เป็นเวิ้งวงกลม ภายในนั้นมีแปลงดอกกระเจียวเล็กๆขึ้นอยู่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด
ใครที่อยากถ่ายรูปหรือเซลฟี่คู่กับดอกกระเจียวในระยะประชิด หรือต้องการถ่ายแบบหน้าแนบชิดติดดอกกระเจียว ก็ให้มาถ่ายในเวิ้งวงกลมนี้ที่ทาง อช.ไทรทอง จัดไว้ให้(แต่ห้ามไปเด็ดดึงทึ้งดอกกระเจียวเด็ดขาด)
แต่กระนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางคนบางกลุ่ม พยายามเดินเข้าไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวแปลงใหญ่ แบบไม่สนใจในกฎเกณฑ์ที่ทางอช.ไทรทอง ติดป้ายประกาศเตือนไว้แต่อย่างใด
บางคนอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่.อุทยานฯเผลอ เดินลงไปในแปลงทุ่งดอกกระเจียว เพื่อให้ตัวเองได้รูปตามที่ต้องการ หรือในบางช่วงที่รั้วพังไปแล้ว เกิดเป็นช่องเล็กๆ ก็มีนักท่องเที่ยวบางคนแกล้งตีมึน เดินเข้าไปโดยอ้างว่า นึกว่าเป็นทางเดินเข้าไปในทุ่งดอกกระเจียว เพราะไม่มีรั้วกั้นไว้ (การที่รั้วพัง น่าจะเกิดจากนักท่องเที่ยวไปนั่งกันเป็นจำนวนมากจนหักพัง)
ครั้นเมื่อถูกเจ้าหน้าที่จับได้ มีการเป่านกหวีดเตือน มีการตำหนิกัน บ้างคนบอกว่ามองไม่เห็นป้ายห้าม บางคนแถว่าก็ตรงจุดที่เดินเข้าไปไม่มีป้ายติดห้ามบอกไว้หนิ(ทางอช.ไทรทอง มีป้ายบอกห้ามเข้าไว้เป็นจุดๆ)
หรือบางคนก็บอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็น่าจะมีบ้างที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ อย่างพวกเด็กน้อยที่พ่อแม่เผลอก็วิ่งเข้าไป แต่สำหรับวัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ที่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์นี่น่าจะฟังไม่ขึ้น(แล้วเคสแบบนี้ก็เลยเกิดมาหลายครั้งในโซเชียลมีเดียให้ชาวเน็ตก่นด่าประณามกันแล้ว)
สำหรับการเดินรุกล้ำลงไปเหยียบในแปลงทุ่งดอกกระเจียว ซึ่งบางคนบอกเขาเพียงแต่เดินลงไปเหยียบต้นหญ้า(เพ็ก) ไม่ได้ไปเหยียบดอกกระเจียว เหยียบต้นกระเจียวสักหน่อย ทำไมทางอุทยานฯถึงต้องมาเข้มงวด เหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองกันด้วย
เรื่องนี้ทางหัวหน้า“วรพล ดีปราสัย” หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรทอง บอกกับผมว่า ทุ่งดอกกระเจียวมีต้นหญ้าเพ็กเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เสริมส่งกันอยู่ ดอกกระเจียวที่อช.ไทรทอง(และป่าหินงาม)จะเติบโตออกดอกสวยงามบนพื้นที่หญ้าเพ็ก ถ้าไม่มีต้นทุ่งหญ้าเพ็กก็ไม่มีทุ่งดอกกระเจียว(ตามธรรมชาติ)
“บางทีเราเห็นแค่เฉพาะกอหญ้าเพ็กขึ้นอยู่ แต่ใต้กอหญ้านั้นมีหัวของกระเจียวกำลังแตกหน่ออยู่ หรือมีช่อดอกเล็กๆกำลังเติบโต ถ้าเราเหยียบหญ้าก็เท่ากับไปเหยียบกระเจียวต้นน้อยๆที่รอวันเติบโต จนมันบอบช้ำ พิการ บางต้นถึงกับตายไปเลย” หัวหน้าวรพล กล่าว
จากที่ หน.วรพล ทำให้ผมอดนึกถึงปรากฏการณ์ทุ่งหญ้าหิมะที่เกิดเป็นดราม่าโด่งดังในโซเชียลมีเดีย เมื่อปีที่แล้วไม่ได้ เพราะถ้าอุทยานฯไม่กั้นพื้นที่ กำหนดเส้นทางเดินชม ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินลงไปในทุ่งดอกกระเจียวแบบตามใจฉัน ทั้งดอกกระเจียวและทุ่งหญ้าเพ็กคงถูกเหยียบย่ำทำลายกันแบบดูไม่จืด ส่วนเรื่องเด็ดดึงทึ้งดอกกระเจียวนี่ห้ามกันชัดเจนอยู่แล้ว ใครแอบไปหักเด็ดดึงมาเป็นของตัวเอง ถ้าถูกเจ้าหน้าที่จับได้ ต้องโดนจับปรับตามกม.ของอุทยานฯ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราต้องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวกันอย่างมีจิตสำนึก ไม่ลงไปเดินเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียว ไม่เด็ดดึงทึ้งทำลายดอกกระเจียว หรือแอบลักดอกกระเจียวมาเป็นของตัวเองรวมถึงไม่ไปทำร้าย ทำลาย สร้างความบอบช้ำให้กับธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงแค่ทุ่งดอกกระเจียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงการท่องเที่ยวในด้านอื่นๆทั้งหมดด้วย ที่ต้องเที่ยวอย่างคนมีสำนึกด้วยเช่นกัน
เพราะผู้มีจิตสำนึกนั้นย่อมมีจิตวิญญาณความเป็นคนมากกว่าผู้ขาดจิตสำนึก
******************************************
ทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ในช่วงวันหยุดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาที่ผ่านมา(8-10 ก.ค.60) ออกดอกเบ่งบานแล้วประมาณ 80%
การขึ้นไปเที่ยวชมต้องนั่งรถรางที่ทางอุทยานฯร่วมกับชุมชนจัดเตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยว(ค่ารถ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท) โดยจะมีวิ่งรับ-ส่ง ทั้งที่ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม และลานหินหน่อ ซึ่งจะมีรถเวียนวิ่งบริการอยู่ตลอดเวลาเป็นระยะๆ
นักท่องเที่ยวสามารถมาพักค้างที่บ้านพักอุทยานฯ และมากางเต็นท์นอนในอุทยานฯป่าหินงามได้
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลการบานของทุ่งดอกกระเจียว บ้านพัก ที่กางเต็นท์ และข้อมูลการท่องเที่ยวในอช.ป่าหินงาม ได้ที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร. 0-4405-6141
ทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ในช่วงวันหยุดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา(8-10 ก.ค.60) ที่ผ่านมา ที่แปลง 1 ออกดอกเบ่งบานเต็มที่แล้วประมาณ 80-90% ส่วนที่แปลง 2-5 เริ่มทยอยออกดอก แต่ยังไม่มาก
การขึ้นไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอช.ไทรทอง เนื่องจากเส้นทางมีสภาพสูงชันและบางช่วงต้องผ่านลำธารน้ำ นักท่องเที่ยวที่ขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ มาเอง ทางอช.ไทรทอง อนุญาตให้ขับขึ้นไปจอดยังจุดลงเดินดูทุ่งดอกระเจียวได้ ส่วนผู้ที่มาด้วยรถยนต์ธรรมดา หรือรถตู้ ให้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอช.ไทรทอง แล้วใช้บริการรถกระบะที่ทางอุทยานฯได้ร่วมมือกับชุมชนจัดเตรียมไว้วิ่งบริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ค่ารถไป-กลับ คนละ 60 บาท สู่จุดเดินชมทุ่งดอกกระเจียวที่อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 10 กม.
นักท่องเที่ยวสามารถมาพักค้างที่บ้านพักอุทยานฯ และมากางเต็นท์นอนในอุทยานฯไทรทองได้
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลการบานของทุ่งดอกกระเจียว บ้านพัก ที่กางเต็นท์ และข้อมูลการท่องเที่ยว ใน อช.ไทรทอง ได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. 0-89282-3437
สำหรับผู้ที่ต้องการไปถ่ายภาพทุ่งดอกกระเจียวท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงาม แนะนำให้ไปในวันธรรมดาจะเหมาะสมที่สุด เนื่องคนน้อยกว่าช่วงวันหยุดที่มีคนพลุกพล่าน
นอกจากทุ่งดอกระเจียวแล้ว จังหวัดชัยภูมิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆอีก อาทิ น้ำตกตาดโตน, มอหินขาว, ศาลเจ้าพ่อพญาแล} ปรางค์กู่, วัดศิลาอาสน์ ภูพระ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และเขื่อนจุฬาภรณ์ เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดชัยภูมิ ได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมา,ชัยภูมิ) โทร. 0-4421-3030,0-4421-3666
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com