xs
xsm
sm
md
lg

“ทุเรียนพบพระ” อร่อยแทบไร้กลิ่น สุดฟินของดีสิ่งใหม่ใน จ.ตาก/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
ทุเรียนพบพระ เนื้อเยอะ รสอร่อย ของดีสิ่งใหม่ใน จ.ตาก
“พบพระ”

เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดตาก

ชื่ออำเภอพบพระ ไม่ได้มีที่มาจากการพบเจอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หากแต่มาจากคำว่า “ขี้เปรอะเพอะพะ” ที่หมายถึงขี้โคลนเปรอะเลอะเทอะ

สมัยก่อนเส้นทางคมนาคมที่อำเภอพบพระยังเป็นถนนดินลูกรัง พอถึงช่วงหน้าฝนมีฝนตกชุก ถ้าหากใครผ่านไปแถวนั้น แข้งขาจะมีแต่ขี้โคลนเปรอะเลอะเทอะ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า“ขี้เปรอะเพอะพะ” ทำให้พื้นที่ในอำเภอแห่งนี้ได้ชื่อว่า “บ้านเพอะพะ”

ต่อมาทางการเห็นว่าชื่อฟังไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นชื่อ“เพอะพะ” เป็น “พบพระ” ที่ฟังแล้วดูเป็นสิริมงคลดี
ดอกดาวเรือง อีกหนึ่งผลิตผลทางการเกษตรขึ้นชื่อของ อ.พบพระ
ปัจจุบันอำเภอพบพระถือเป็นหนึ่งในพื้นที่การเกษตรชั้นดีของเมืองไทย เนื่องจากมีอากาศดี ดินดี มีฝนตกชุก(จากลมมรสุมทะเลอันดามันฝั่งพม่า) ทำให้สามารถปลูกพืชผักผลไม้และดอกไม้ต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ “กุหลาบ” ซึ่งปัจจุบันอำเภอพบพระเป็นแหล่งผลิตดอกกุหลาบส่งขายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

กุหลาบพบพระมีส่งขายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะกุหลาบที่ปากคลองตลาด ส่วนใหญ่จะมาจากอำเภอพบพระแทบทั้งนั้น

กุหลาบมหัศจรรย์
ไร่กุหลาบปฐมเพชร ผู้บุกเบิกท่องเที่ยวเชิงเกษตรยุคแรกๆใน จ.ตาก
สำหรับหนึ่งแหล่งผลิตกุหลาบชื่อดังของอำเภอพบพระก็คือ “ไร่ปฐมเพชร” หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม “ไร่กุหลาบปฐมเพชร” ที่ตั้งอยู่ที่ ม.6 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก

คุณ“ภราดร กานดา” เจ้าของไร่กุหลาบปฐมเพชร และรองประธานหอการค้าจังหวัดตาก เล่าให้ผมฟังว่า ชื่อไร่ปฐมเพชร มาจากชื่อของคุณภราดรที่เป็นคนนครปฐม และชื่อของภรรยา(คุณทุเรียน กานดา)ที่เป็นคนเพชรบุรี จึงรวมกันเป็น “ไร่ปฐมเพชร”
ชมความสวยงามของกุหลาบหลากสีสันได้ในไร่กุหลาบปฐมเพชร
คุณภราดร เดิมปลูกกุหลาบอยู่ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว พอย้ายมาอยู่ที่ อำเภอพบพระ ในปี พ.ศ. 2538 จึงเริ่มต้นด้วยการทำไร่กุหลาบ จากนั้นก็มีการพัฒนาไร่เรื่อยมา จนกลายเป็นหนึ่งในไร่ดังที่มีชื่อเสียงรู้จักกันอย่างกว้างขวาง

ไร่ปฐมเพชร เป็นผู้บุกเบิกในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการบุกเบิกกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นยุคแรกๆใน จ.ตาก ด้วยการเปิดไร่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม พร้อมพาเที่ยวชมไร่ และให้ความรู้ต่างๆทางด้านการเกษตร โดยเฉพาะกุหลาบ
กุหลาบอบแห้ง คงความสวยงามได้นานนับสิบปีจนได้ชื่อว่าเป็น กุหลาบมหัศจรรย์
นอกจากนี้ไร่ปฐมเพชรยังเป็นผู้บุกเบิกการแปรรูปกุหลาบด้วยนวัตกรรมการทำ “ดอกกุหลาบอบแห้ง” ที่สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย ด้วยการนำดอกกุหลาบสีสันสวยงามต่างๆไปอบไล่ความชื้นออก โดยไม่ทำให้ดอกกุหลาบแห้งเหี่ยว

จากนั้นจึงนำดอกกุหลาบที่ผ่านการไล่ความชื้นไปบรรจุไว้ในภาชนะสุญญากาศ เช่น ขวดโหล ถ้วยแก้ว เพื่อให้กลายเป็นกุหลาบอมตะ ที่คงรูปทรงความสวยงาม ไม่เหี่ยวไม่แห้ง และสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานนับสิบปี กลายเป็นสินค้ายอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก จนได้ชื่อว่าเป็น“กุหลาบมหัศจรรย์
คนงานในไร่ปฐมเพชรกำลังตัดดอกกุหลาบ
ทุเรียนพบพระ

ปัญหาเรื้อรังอย่างหนึ่งของเกษตรกรไทยก็คือในเรื่องของราคาผลผลิตตกต่ำ และการกดราคาของพ่อค้าคนกลาง นั่นจึงทำให้ในช่วงราวปี 2545 คุณภราดรได้เดินตามรอยพ่อหลวง ด้วยการนำทฤษฎีเกษตรผสมผสานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ที่ไร่ปฐมเพชร โดยได้ทดลองนำผลไม้ต่างๆมาปลูกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น กล้วยหอม กล้วยเล็บมือนาง มะม่วง ชมพู่ ทับทิม ละมุด กาแฟ ปาล์มน้ำมัน รวมไปถึง “ทุเรียนพบพระ” ที่วันนี้ถือเป็นของดีสิ่งใหม่ในจังหวัดตาก
ทุเรียบพบพระไร่ปฐมเพชร เป็นพันธุ์หมอนทอง จากชุมพร
ทุเรียนในอำเภอพบพระ ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกกันประมาณ 2 พันกว่าไร่ หนึ่งในนั้นก็คือทุเรียนไร่ปฐมเพชร ที่เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการปลูกทุเรียนรุ่นแรกๆของอำเภอพบพระ ซึ่งหลังจากคุณภราดรนำทุเรียนมาทดลองปลูกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทุเรียนไร่ปฐมเพชรได้เริ่มออกผลผลิตให้เก็บเกี่ยวส่งขายได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีที่แล้ว(2559)
ภราดร กานดา เจ้าของไร่กุหลาบปฐมเพชร
มาในปีนี้ทุเรียนไร่ปฐมเพชรยังคงออกผลผลิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่เริ่มเป็นที่รู้จักในปีที่แล้ว ปีนี้ทุเรียนพบพระเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น มีคนเข้ามาสั่งจองที่ไร่ปฐมเพชรกันไม่น้อย

สำหรับทุเรียนไร่ปฐมเพชรที่นำมาปลูกและขายคือ พันธุ์“หมอนทอง”จากชุมพร ซึ่งคุณภราดรบอกว่า เนื่องจากมีสภาพอากาศใกล้เคียงกัน คือพบพระตั้งอยู่พื้นที่สูง อยู่ใกล้ทะเลอันดามันของพม่า และมีฝนตกชุก จึงได้ในเรื่องของน้ำ เรื่องของอากาศ

ทุเรียนไร่ปฐมเพชร เป็นการปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี จึงมีผิวไม่สวย แต่นี่กลับกลายเป็นข้อดีที่ไม่เพียงปลอดภัยต่อร่างกายคนเราหากยังส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อม
ชัยวัฒน์ ประเสริฐธรรม เจ้าของสวนกาญจนศักดิ์ กำลังปอกทุเรียนพบพระให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง
นอกจากทุเรียนไร่ปฐมเพชรแล้ว ในอำเภอพบพระยังมีทุเรียนในไร่ในสวนอื่นๆอีกหลากหลาย อย่างเช่น ทุเรียน“สวนกาญจนศักดิ์” ซึ่ง คุณชัยวัฒน์ ประเสริฐธรรม หรือ “พี่น้อย” เจ้าของสวนได้นำทุเรียนพันธุ์หมอนทองจากชุมพรมาทดลองปลูกที่อำเภอพบพระตั้งแต่ประมาณเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้ก็ได้ให้ผลผลิตที่ดีมีคนมาสั่งจองกันเป็นจำนวนมาก
ธนาพนต์ ไชยนอก เจ้าของสวนเมืองหนาว กับทุเรียนพันธุ์พวงมณี
ส่วนที่ “สวนเมืองหนาว” ที่มีคุณ“ธนาพนต์(เสรี) ไชยนอก” เป็นเจ้าของสวน ซึ่งปลูกทุเรียนมาประมาณ 7 ปี วันนี้ก็ได้ให้ผลผลิตที่ดี โดยนอกจากทุเรียนพันธุ์หมอนทอง แล้วก็ยังมีพันธุ์ก้านยาว และพวงมณีที่นำพันธุ์มาจากเมืองจันทน์ให้คนรักทุเรียนได้ลิ้มรสในความอร่อยกัน
ทุเรียนพบพระ เม็ดเล็กลีบ เนื้อเยอะ
สำหรับจุดเด่นของทุเรียนพบพระคือ เม็ดเล็กลีบ เนื้อเยอะฟู รสชาติอร่อย หวานเนียน มัน ลูกโต ต้นเตี้ยเก็บผลง่าย ส่วนข้อด้อยคือ เนื้อทุเรียนมีสีซีด และเนื่องจากวันนี้ยังเป็นทุเรียนสาวอยู่ จึงมีเปลือกหนา ไส้หนา

นอกจากนี้ทุเรียนพบพระยังมีจุดเด่นสำคัญ อีก 2 ข้อ คือ ข้อแรก เป็นทุเรียนทวาย หรือ ทุเรียนนอกฤดู ที่ออกผลช้ากว่าฤดูทุเรียนปกติในภาคตะวันออก ทุเรียนที่นี่จะออกผลให้เก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ต.ค. ข้อสองคือ ทุเรียนพบพระ กลิ่นไม่แรง บางลูกถ้าไม่แกะหรือปอกเปลือกจะไม่ได้กลิ่นเลย
ทุเรียนพบพระเป็นทุเรียนนอกฤดู กลิ่นไม่แรง รสชาติหวานมัน กินอร่อย
ตัวผมเองมีโอกาสได้ลิ้มลองทุเรียนพบพระ ไร่ปฐมเพชรรุ่นแรกของปีนี้มาแล้ว บอกเลยว่าอร่อย ฟินมาก และเป็นทุเรียนที่กลิ่นไม่แรงเลย บางลูกแกะแล้วยังแทบจะไร้กลิ่นด้วยซ้ำ

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งของดีสิ่งใหม่แห่งเมืองตาก ที่หากใครได้ไปเที่ยวไร่ เที่ยวสวน ในอำเภอพบพระในช่วง มิ.ย.-ต.ค. ย่อมมีโอกาสสูงที่จะได้ลิ้มลองทุเรียนพบพระ รสชาติอร่อย แต่นั่นต้องเป็นช่วงที่ทางสวนเก็บผล และที่สำคัญคือยังพอมีทุเรียนเหลือให้เราได้กิน เนื่องจากส่วนใหญ่มีคนจองกันหมดแล้ว

เที่ยวพบพระ
สวนส้มร่มเกล้าจะมีส้มหมุนเวียนกันออกทั้งปี
นอกจากไร่ปฐมเพชรแล้ว อำเภอพบพระยังมี“สวนส้มร่มเกล้า” (ม.4 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ) เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจ

สวนส้มร่มเกล้าปลูกส้มพันธุ์สายน้ำผึ้งและพันธุ์โอเชี่ยน ภายในสวนจะมีส้มให้กินและส้มส่งขายสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นช่วงตลอดทั้งปี
อะโวคาโด ออกลูกดกที่สวนส้มร่มเกล้า
ขณะที่พืชผลเด่นๆอื่นๆที่สวนส้มแห่งนี้นั้นก็มี มัลเบอร์รี(หม่อน) เสาวรส แมคคาเดเมีย และอะโวคาโด เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันทางสวนร่มเกล้าได้นำพืชผลเหล่านี้ไปแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันทางสวนส้มร่มเกล้าได้มีการปลูกดอกไม้แซมประดับอย่างสวยงามให้บรรยากาศคล้ายรีสอร์ตดูเก๋ไก๋ไม่น้อย
น้ำตกพาเจริญ
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแล้ว อำเภอพบพระยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามให้สัมผัสเที่ยวชมกัน นำโดย “น้ำตกพาเจริญ”(อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ) ที่เป็นหนึ่งในน้ำตกขึ้นชื่อของจังหวัดตาก
น้ำตกพาเจริญ
น้ำตกพาเจริญเป็นน้ำตกหินปูนที่เกิดจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกับน้ำซับบนเขา แล้วไหลเป็นสายน้ำตกลงสู่เบื้องล่าง มีลักษณะเป็นชั้นใหญ่ชั้นเดียว แต่มีชั้นเล็กๆน้อยๆอีกจำนวนมาก นับรวมกันได้มากถึง 97 ชั้น

สายน้ำตกพาเจริญ จะไหลลดหลั่นผ่านชั้นหินดูคล้ายบันไดขาวฟูฟ่องสวยงามมาจนถึงแอ่งลำธารเบื้องล่างที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ในท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของแมกไม้อันร่มรื่น
ดอกกระเจียวส้ม บริเวณน้ำตกพาเจริญ
ใครที่ไปเที่ยวน้ำตกพาเจริญในช่วงฤดูฝนราวเดือน ส.ค.-ต.ค. จะได้พบกับ“ดอกฉัตรทอง” หรือ “ดอกกระเจียวส้ม” สีสดสวย มีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น ในพื้นที่ 10 กว่าไร่ ที่ทางอุทยานฯปลูกประดับไว้เป็นจำนวนมาก ในพื้นที่รอบบริเวณน้ำตก มองเห็นเป็นสีส้มสดตัดกับสีเขียวของต้นกระเจียวและต้นไม้ใบหญ้าอื่นๆดูงดงามไม่น้อย นับเป็นเสน่ห์พิเศษของน้ำตกพาเจริญที่พบได้เฉพาะในหน้าฝนเท่านั้น
น้ำตกป่าหวาย
ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญยังมี “น้ำตกป่าหวาย” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวอันโดดเด่น ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกพาเจริญประมาณ 14 กม. จากจุดจอดรถจะมีทางเดินลงสู่ตัวน้ำตก ผ่านลำธารแมกไม้อันร่มรื่น

น้ำตกป่าหวายเป็นน้ำตกหินปูนที่เกิดจากลำห้วยป่าหวาย มีสายน้ำไหลอยู่ตลอดทั้งปี บริเวณน้ำตกมีต้นหวายขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อ “น้ำตกป่าหวาย
น้ำตกป่าหวาย
น้ำตกป่าหวาย มีชั้นหลักๆทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นแบ่งเป็นชั้นย่อยๆอีกจำนวนมาก นับรวมแล้วเกินกว่าร้อยชั้น ซึ่งตัวน้ำตกแต่ละชั้นจะมีสายน้ำไหลฟูฟ่องลดหลั่นลงมาตามชั้นหินน้อยใหญ่ ในตัวน้ำตกมีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นแซม ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นสวยงาม
บ่อน้ำร้อนห้วยน้ำนัก
นอกจากนี้อำเภอพบพระยังมี “บ่อน้ำร้อนห้วยน้ำนัก” เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ปราศจากกลิ่นกำมะถัน มีอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส ในเอกสารของอุทยานฯ น้ำตกพาเจริญระบุว่า น้ำในบ่อน้ำร้อนมีแร่ธาตุสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งปัจจุบันทางอุทยานฯ ได้พัฒนาปรับปรุงพื้นที่สำหรับการแช่น้ำร้อนเพื่อสุขภาพ ผ่อนคลาย และเพื่อการท่องเที่ยว พร้อมชูเป็น “ออนเซนเมืองตาก” ให้ผู้สนใจได้มาสัมผัสกัน

และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของอำเภอพบพระ ที่หากใครได้ไปพบพระแล้ว จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ชวนให้เพลิดเพลินไม่น้อย

******************************************

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในอำเภอพบพระ และในจังหวัดตากเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานจังหวัดตาก โทร.0-5551-4341 -3
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 



กำลังโหลดความคิดเห็น