"จันทบุรี" ถือว่าเป็นจังหวัดที่ครบเครื่องไม่น้อยในด้านการท่องเที่ยว เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก ธรรมชาติป่าไม้เขียวขจี ย่านเก่าชุมชนเก๋ๆ ก็มีให้เที่ยวกันเพลินใจ อาหารการกินนั้นไม่ต้องพูดถึง อุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารทะเลและผลไม้นานาชนิด
ที่เที่ยวริมทะเลของจันทบุรีก็มีทีเด็ดไม่น้อย วันนี้เราจึงขอพาลัดเลาะเลียบชายฝั่งเมืองจันท์ พาไปชมจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ริมทะเลของเมืองจันท์ที่รวบรวมมาให้ตามไปเที่ยว 9 แห่งด้วยกัน โดยแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวนี้อยู่บนเส้นทาง "ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต" ถนนที่ได้ชื่อว่ามีทิวทัศน์สวยที่สุดเส้นหนึ่งของไทยและของภาคตะวันออก มีเส้นทางส่วนใหญ่อยู่ใกล้ทะเล และเส้นทางบางช่วงเป็นถนนเลียบทะเล แต่ละแห่งก็สวยเด็ดน่าสนใจไม่แพ้กัน ไปชมกันเลย
1. หาดคุ้งวิมาน อ.นายายอาม
"หาดคุ้งวิมาน" อยู่ในเขตอำเภอนายายอาม เป็นชายหาดเงียบสงบของจันทบุรี มีโรงแรมและรีสอร์ทที่ค่อนข้างหรูอยู่หลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารให้เลือกชิมหลายร้าน และที่ต้องลองชิมก็คือปลาหมึกย่างที่รถสามล้อวิ่งมาขาย ปลาหมึกทั้งแห้งและสตัวใหญ่ๆ น้ำจิ้มแซบๆ มีให้ชิมหลายร้านด้วยกัน หาดคุ้งวิมานนี้ค่อนข้างสงบสะอาด น้ำทะเลใส แม้ทรายจะไม่ขาวแต่ก็ดูสะอาดตา ในบริเวณใกล้เคียงยังมีหาดเก็บตะวัน จุดชมวิวพระสังกัจจายน์ รวมถึงจุดชมวิวเนินนางพญาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกด้วย
2. จุดชมวิวเนินนางพญา อ.นายายอาม
“จุดชมวิวเนินนางพญา” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนายายอาม จุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินริมทะเลใกล้กับหาดคุ้งวิมานและปากอ่าวคุ้งกระเบน ปัจจุบันบริเวณจุดชมวิวได้จัดทำสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มีลานจอดรถ มีจุดบริการนักท่องเที่ยว มีบันไดทางขึ้นสู่จุดชมวิว และทำรั้วกั้นเพื่อความปลอดภัย
ทิวทัศน์เมื่อมองจากจุดชมวิวเนินนางพญาจะเห็นถนนชล-จันท์โค้งเป็นลอนคลื่นเลาะเลียบริมทะเล ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นภูเขาสูง มองเห็นความงามของทั้งทะเล ภูเขาและถนนคดโค้งอย่างลงตัว อีกทั้งที่จุดชมวิวเนินนางพญาในช่วงเย็นย่ำยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วย
3. อ่าวคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่
"อ่าวคุ้งกระเบน" เป็นอีกหนึ่งอ่าวในทะเลเมืองจันท์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถือเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญในภาคตะวันออก ที่ช่วยพลิกฟื้นป่าชายเลนอันเสื่อมโทรม ให้กลับกลายมาเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประมงและการเกษตรที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย
มาที่อ่าวคุ้งกระเบนแล้วสามารถเข้าไปเที่ยวชม "เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน" อันร่มรื่นไปด้วยป่าชายเลน มาชมอะควาเรียมเล็กๆ แต่น่าตื่นตาที่ "สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา" ซึ่งจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำเค็มที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน อีกทั้งยังสามารถมาให้อาหารปลาฉลามกันที่ "หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำภายในอ่าวคุ้งกระเบน" ซึ่งเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง โดยมีทั้งปลาฉลาม ปลากะพง ปลาเก๋า เต่าทะเล หอย ฯลฯ
4. หาดเจ้าหลาว อ.ท่าใหม่
"หาดเจ้าหลาว" เป็นอีกหนึ่งหาดสงบสวยงามที่เต็มไปด้วยโรงแรมรีสอร์ทหลายระดับให้เลือกพัก เป็นหาดที่มีโรงแรมมากที่สุดในจันทบุรีก็ว่าได้ หาดทรายที่นี่กว้างขวางและมีความยาวหลายกิโล เต็มไปด้วยโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านขายของ ในทะเลก็มีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการเล่นบานานาโบท เจ็ทสกี มีความคึกคักตลอดทั้งวัน
5. หินสีชมพู อ.ท่าใหม่
ตรงปลายสุดของหาดเจ้าหลาว เป็นที่ตั้งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ (คนละแห่งกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อยู่ห่างกัน 8 ก.ม.) ซึ่งที่นี่มี “ลานหินสีชมพู” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวริมชายฝั่งของจันทบุรี โดยที่นี่มีความโดดเด่นคือโขดหินริมทะเลจะมีสีแดงอมชมพูสดใส นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมไดโดยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกึ่งผจญภัยภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ มีระยะทางราว 1 ก.ม.
ในช่วงนี้ไปจนถึงเดือน ก.ค. เราสามารถมาเที่ยวชมหินสีชมพูได้ตลอดวัน แต่หลังจากนั้นน้ำจะขึ้นช่วงกลางวัน ดังนั้นจึงต้องโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมก่อนจะเดินทางไปชมหินสีชมพูกัน
6. ปากน้ำแขมหนู อ.ท่าใหม่
ถัดมาจากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน จะต้องข้าม "สะพานเฉลิมพระเกียรติ" หรือที่คนมักเรียกกันว่า "สะพานปากน้ำแขมหนู" สะพานแห่งนี้สร้างข้ามคลองวังโตนดช่วงบริเวณที่ไหลออกสู่ปากอ่าว บริเวณใต้สะพานได้ทำเป็นจุดชมวิวและจุดพักรถ เราสามารถแวะถ่ายรูปชมวิวทะเลกว้างไกลได้บริเวณนี้
7. ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อ.แหลมสิงห์
เลาะชายฝั่งเข้าสู่อำเภอแหลมสิงห์กันบ้าง มายัง "ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" ที่แหลมสิงห์กันบ้าง ตำหนักแห่งนี้อยู่ในเขตของวนอุทยานเขาแหลมสิงห์ อยู่ในบริเวณแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล อันเป็นที่มาของชื่อ "แหลมสิงห์" ตัวศาลนั้นสามารถขับรถเข้าไปจอดและเดินขึ้นไปบนตำหนักเพื่อกราบสักการะกรมหลวงชุมพรฯ ได้ ตัวตำหนักหันหน้าออกสู่ทะเล สามารถมองเห็นสะพานตากสินมหาราชได้ไกลๆ และหากได้สักการะกรมหลวงชุมพรฯ แล้ว ใครอยากจะเดินไปชมประภาคารแหลมสิงห์ ไปชมสิงโตหิน (ที่มาของชื่อแหลมสิงห์) หรือจุดชมวิว ก็ต้องเดินเท้าจากตรงนี้ไปอีกราวๆ 400 เมตร
8. สะพานตากสินมหาราช อ.แหลมสิงห์
สะพานตากสินมหาราช หรือสะพานแหลมสิงห์ อยู่ไม่ไกลจากตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สะพานแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก มีความยาว 1.06 ก.ม. ทอดข้ามแม่น้ำจันทบุรีบริเวณปากอ่าวออกสู่ทะเล ทำให้สามารถชมบรรยากาศได้ทั้งสองฝั่ง หากมองย้อนไปทางแม่น้ำ จะเห็นป่าชายเลนเขียวชอุ่มสองฟากฝั่ง และมองเห็นกระท่อมกลางน้ำของชาวประมง รวมถึงกระชังปลาและหอยที่เลี้ยงไว้กลางแม่น้ำ ส่วนทางฝั่งทะเลมองเห็นเรือประมงน้อยใหญ่จอดริมฝั่ง เห็นท้องทะเลสีครามกว้างไกล ขอบอกว่าควรแวะชมวิวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตรงช่วงกลางสะพานได้มีพื้นที่สำหรับจอดรถแวะชมวิวได้ แต่ต้องระมัดระวังเวลาข้ามถนนไปถ่ายรูปกันด้วย
9. หาดแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์
ชายหาดแหลมสิงห์ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแหลมสิงห์ของจันทบุรี มีความยาวประมาณ 1.5 ก.ม. ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำจันทบุรี เป็นชายหาดที่เงียบสงบและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในแถบนี้ อีกทั้งยังมีรีสอร์ทเล็กๆ ราคาย่อมเยาให้เลือกพักหลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารทะเลรสเด็ดราคาไม่แพงก็มีให้ไปลองชิม นอกจากนั้น แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ หาดแหลมสิงห์นั้นก็มีหลายแห่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ตึกแดง อาคารที่สร้างขึ้นในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครองจันทบุรี ใช้เป็นกองบัญชาการและที่พักนายทหารฝรั่งเศส คุกขี้ไก่ หรือป้อมในสมัยฝรั่งเศสเข้ามายึดจันทบุรี เป็นต้น นับเป็นอีกหนึ่งหาดที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจและน่ามาพักผ่อนไม่น้อย
ใครสนใจอยากไปเที่ยวทั้ง 9 จุดท่องเที่ยวนี้หรือสนใจแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดจันทบุรี สอบถามได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลระยอง, จันทบุรี) โทร.0 3865 5420-1
* * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
