xs
xsm
sm
md
lg

เย็นสุด สุขที่“เลย”...เที่ยวเลาะชายแดนแสนฟิน หลงรัก“เชียงคาน”เมืองงามริมฝั่งโขง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผาหล่มสัก ภูกระดึง ตำนานภูคู่เมืองเลย
“เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู”

คำขวัญจังหวัด“เลย” หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่นไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ท่ามกลางทะเลภูเขาแวดล้อม มีอากาศที่สดชื่นเย็นสบาย มีวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลาย ดึงดูดให้ผู้มาเยือนล้วนต่างประทับใจ พร้อมทั้งเกิดความรู้สึก“รักแล้วรักเลย”ที่อยากกลับมาเยือนเมืองเลยอีกสักครั้ง หรือหลายๆครั้ง
ภูลมโล แหล่งปลูกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
ด้วยเหตุนี้ทาง“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)” จึงยกให้เลยเป็น 1 ใน 12 “เมืองต้องห้าม...พลาด” ภายใต้แนวคิด“เย็นสุด...สุขที่เลย”

นับเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้เราอยากออกไปสัมผัสกับเมืองเลยในแบบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เป็นการ“ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ไปเยือนได้ไม่รู้เบื่อ

ไฮไลท์“ผี-ภู” คู่เมืองเลย
ภูป่าเปาะ จุดชมวิวภูหอ ฟูจิเมืองเลย
หากพูดถึงเสน่ห์เมืองเลยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หลายๆคนรู้จักกันดีนั่นก็คือ ความเป็น “เมืองแห่งผี” และ “เมืองแห่งทะเลภูเขา” ที่เป็นดังแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนเมืองเลยแบบไม่เลยผ่านกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับความเป็นเมืองแห่งผีนั้นไม่ใช่ในเรื่องของภูตผีปีศาจ หากแต่เป็นงานเทศกาลประเพณีเกี่ยวกับผีที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลย ซึ่งมีอยู่ 2 งานดัง ได้แก่
ผีขนน้ำ(แมงหน้างาม) อ.เชียงคาน อีกหนึ่งประเพณีเกี่ยวกับผีอันโดดเด่นของ จ.เลย
“ผีขนน้ำ” หรือ “แมงหน้างาม” ที่จัดขึ้นในช่วงงานบุญเดือนหก(หลังวันวิสาขบูชา)ของชาว ต.นาซ่าว จ.เชียงคาน เพื่อตอบแทนบุญคุณแก่ผีบรรพบุรุษ รำลึกถึงบุญคุณของวัว ควาย ขอฟ้าขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และเกิดความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่
ผีตาโขน ประเพณีอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ อ.ด่านซ้าย
ส่วนอีกงานหนึ่งคือ “ผีตาโขน”การละเล่นพื้นบ้านของชาวอำเภอด่านซ้าย ที่จัดขึ้นทุกปีเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงเดือน 7 (ไทย) ภายในงาน มีกิจกรรมเด่นๆ อาทิ พิธีบายศรีสู่ขวัญเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียม พิธีแห่ขบวนแห่พระเวสสันดรและนางมัทรีเข้าเมือง และไฮไลท์คือขบวนแห่ผีตาโขนอันน่าตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยสีสันความคึกคักสนุกสนาน
พระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเลย
สำหรับปีนี้ งานประเพณีผีตาโขนมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24-26 มิ.ย.60 ณ วัดโพนชัยและหน้าที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย ซึ่งหากใครมีโอกาสได้ไปร่วมงานผีตาโขน ก็ไม่ควรพลาดการเที่ยวชมสิ่งน่าสนใจอื่นๆ ใน อ.ด่านซ้าย อาทิ “พระธาตุศรีสองรัก”พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเลย, “วัดเนรมิตวิปัสสนา”(วัดหัวนายูง)ที่สิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัดล้วนสร้างด้วยศิลาแลงอันสวยงาม และ“พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นผีตาโขน” ที่วัดโพนชัย
ภูหลวง ดินแดนมหัศจรรย์พรรณไม้อันสวยงาม
จากเมืองแห่งผีมาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์“เมืองแห่งทะเลภูเขา”ของจังหวัดเลยกันบ้าง

ด้วยความเป็นเมืองแห่งทะเลภูเขา ทำให้เลยมีแหล่งท่องเที่ยวประเภท“ภู”(เขา)สวยๆงามๆที่ชวนให้ไปสัมผัสมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ภูกระดึง”ภูเขายอดตัดรูปหัวใจปฐมบทแห่งตำนานของนักเดินทางผู้พิชิต, “ภูเรือ”ดินแดนแห่งสายหมอกดอกไม้,“ภูหลวง” ดินแดนมหัศจรรย์พรรณไม้
ภูบ่อบิด จุดชมวิวกลางเมืองเลย
ภูลมโล” แหล่งปลูกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย, “ภูป่าเปาะ” จุดชมวิวภูหอ"ฟูจิเมืองเลย”ที่มาแรง และ “ภูบ่อบิด” จุดชมวิวกลางเมืองเลยที่ยามค่ำคืนสามารถมองเห็นความงามของ“ดาวบนดิน”จากแสงไฟตามบ้านเรือนได้อย่างชัดเจน

นับเป็นสีสันแห่งเมืองทะเลภูเขา ที่ต่างก็มีความโดดเด่นชวนชมแตกต่างกันออกไป ซึ่งสำหรับ“ตะลอนเที่ยว”แล้ว ขอบอกเลยว่า “สวยทุกภู”

เที่ยว“นาแห้ว”แล้วจะติดใจ
ทิวทัศน์ อ.นาแห้ว
ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเลยก็คือเป็นจังหวัดชายแดน มีอาณาเขตทางตอนเหนือติดต่อกับ สปป.ลาว มีแม่น้ำ 2 สาย ไหลกั้นเป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว คือ“แม่น้ำเหือง”และ“แม่น้ำโขง” ที่มากไปด้วยสิ่งน่าสนใจอันหลากหลายในพื้นที่อำเภอชายแดน ให้“ตะลอนเที่ยว”ได้เที่ยวเลาะตะเข็บชายแดนสัมผัสในมนต์เสน่ห์ความงามกัน

เริ่มจากอำเภอ“นาแห้ว”(ชายแดนด้านตะวันตกสุดของเลย) ที่มีแม่น้ำเหืองไหลเลาะเลียบเป็นเส้นกั้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว
น้ำตกตาดเหือง หรือ น้ำตกสองแผ่นดิน ภูสวนทราย
อำเภอนาแห้วมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือ “ภูสวนทราย” หรือ“อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย” ที่มีไฮไลท์คือ“น้ำตกตาดเหือง” หรือ “น้ำตกสองแผ่นดิน” ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลผ่ากลางแนวรอยต่อของไทย-ลาว เกิดเป็นน้ำตกมิตรภาพที่น่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
จุดชมวิวภูผาหมวก อ.นาแห้ว
ขณะที่ในตัวอำเภอนาแห้วนั้นก็มี “วัดโพธิ์ชัยนาพึง” อันเป็นที่ประดิษฐานของ“พระองค์แสน” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนาแห้ว นอกจากนี้ก็ยังมีจุดชมวิว “ภูผาหมวก” และ “ภูผาหนอง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรง เดินทางเข้าถึงง่าย ในวันที่ฟ้าเป็นใจสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม
นาแห้ววันนี้ มีสตรอว์เบอร์รี่สดๆรสหวานฉ่ำให้ลิ้มลอง
ในอำเภอนาแห้วยังมีอีกหนึ่งของดีให้ชม ชิม ช้อปกันนั่นก็คือ“ไร่สตรอว์เบอร์รี” ที่“บ้านห้วยน้ำผัก”ในตำบลแสงภา ที่มีการปลูกสตรอว์เบอร์รีแบบครบวงจร(ในช่วงเว้นว่างการทำนา) ใครที่ผ่านไปแถวนาแห้ว ไม่ควรพลาดการลองลิ้มชิมรสสตรอว์เบอร์รีสดๆรสอร่อยด้วยประการทั้งปวง

“ท่าลี่” ประตูสู่หลวงพระบาง
พระธาตุสัจจะ อ.ท่าลี่
จากนาแห้วเมื่อเดินทางเลาะเลียบตะเข็บชายแดนตามสายน้ำเหืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านอำเภอด่านซ้าย-ภูเรือ สู่ “อำเภอท่าลี่” ที่ถือเป็นเมืองแห่งธรรมะ ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี ซึ่งมี “พระธาตุสัจจะ” ที่ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดลาดปู่ทรงธรรม” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

พระธาตุสัจจะ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2519 แล้วเสร็จปี 2522 มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม เนื่องจากเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นเพื่อต่อชะตาให้กับองค์พระธาตุพนมที่พังทลายลงเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2518 ด้วยเหตุนี้องค์พระธาตุสัจจะจึงมีรูปลักษณะงดงามคล้ายกับองค์พระธาตุพนม
ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง อ.ท่าลี่
นอกจากนี้อำเภอท่าลี่ยังเป็นที่ตั้งของด่านพรมแดน(ถาวร)“บ้านนากระเซ็ง”-“เมืองแก่นท้าว”(แขวงไชยะบุลี สปป.ลาว) ที่มี “สะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว” ทอดตัวข้ามลำน้ำเหืองเชื่อมเส้นทางระหว่างไทย-ลาว ซึ่งถือเป็นเส้นทางสู่หลวงพระบางทางถนนด้วยรถยนต์รถโดยสารที่สะดวกสบายที่สุด มีระยะทางจาก จ.เลย สู่หลวงพระบางประมาณ 394 กม. (ใช้เวลาเดินทาง 12 ชม.)

นับเป็นอีกหนึ่งประตูสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบางที่วันนี้หลังเปิดเขตเศรษฐกิจอาเซียนหรือ“เออีซี”ด่านแห่งนี้ก็ยิ่งทวีความคึกคักมากยิ่งขึ้น และทำให้อำเภอท่าลี่โตวันโตคืนตามไปด้วย

“เชียงคาน” เมืองงามริมฝั่งโขง
จุดที่แม่น้ำเหือง(ซ้าย)ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง(ขวา)ที่ อ.เชียงคาน
แม่น้ำเหืองที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาใน อ.นาแห้ว นอกจากจะไหลเลาะเลียบชายแดนเป็นเส้นแบ่งกั้นพรมแดนไทย-ลาว ตามธรรมชาติแล้ว ยังไหลไปบรรจบกับ“แม่น้ำโขง” ที่อำเภอ“เชียงคาน” หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแห่งยุคสมัย
ถนนชายโขงยามเย็น
เชียงคานเป็นชายแดนแสนงามริมฝั่งโขง ที่อวลไปด้วยวิถีอันทรงเสน่ห์ ทั้งวิถีอันเรียบง่ายของผู้คนเชียงคานดั้งเดิม และวิถีในบรรยากาศของการท่องเที่ยวบนถนนคนเดินอันคึกคัก
ตักบาตรข้าวเหนียว สิ่งไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเยือนเชียงคาน
ทุกๆเช้าที่เชียงคานจะมี การ“ตักบาตรข้าวเหนียว”อันขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ กับภาพของพระ-เณรที่ออกเดินบิณฑบาตเป็นแถวยาว ให้ทั้งชาวเชียงคานและนักท่องเที่ยวใส่บาตรกันด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบเปี่ยมศรัทธา
สีสันถนนคนเดินเชียงคาน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอยู่ไม่สร่างซา
นอกจากนี้เชียงคานยังมี “ถนนชายโขง”เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ต้องห้ามพลาด กับบรรยากาศของวัดวาอารามต่างๆ และอาคารบ้านเรือนไม้เก่าแก่สุดคลาสสิก ที่วันนี้บ้านเรือนไม้ส่วนหนึ่งบนถนนชายโขงจึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นโรงแรม เกสต์เฮาส์ โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น
ริมโขงเชียงคาน ยามตะวันลับขอบฟ้า
ส่วนบริเวณทางเดินริมฝั่งโขง ที่นอกจากจะเป็นจุดวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง และเมืองสานะคาม สปป.ลาว ที่อย่างฝั่งตรงข้ามได้อย่างเพลินตาแล้ว ในยามเย็นที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลาลับของฟ้าในเวิ้งโค้งแม่น้ำโขงที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย
พระใหญ่ ภูคกงิ้ว
ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวเด่นๆที่อยู่นอกตัวเมืองเชียงคานที่ไม่ควรพลาดก็อย่างเช่น “ภูทอก” จุดชมวิวและชมทะเลหมอกอันงดงามยามเช้า,“แก่งคุดคู้”แก่งใหญ่กลางแม่น้ำโขงอันน่ายล และ“พระใหญ่ภูคกงิ้ว”พระพุทธรูปยืนองค์โตที่ประดิษฐานอยู่บนเขา บริเวณจุดที่แม่น้ำเหืองกับแม่น้ำโขงไหลมาบรรจบกัน ผู้มาเยือนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของสองสายน้ำ และบ้านเรือนในฝั่ง สปป.ลาว ได้อย่างสวยงามน่ารื่นรมย์

เลย plus ชัยภูมิ

จากเลยเมื่อเดินทางลงมาทางใต้ผ่านขอนแก่นจะเข้าสู่จังหวัด“ชัยภูมิ” ซึ่งทาง ททท. ได้คัดสรรให้ เลยและชัยภูมิ เป็นหนึ่งใน“เมืองต้องห้ามพลาด plus” พร้อมเชื่อมโยงมนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวในสองจังหวัดเข้าไว้ด้วยกัน
รูปปั้นครอบครัวกระซู่ที่อยู่หน้าทางเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
ชัยภูมิเป็นอีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยว เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ อาทิ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว” หรือผืน“ป่าภูเขียว”ที่ยังคงสภาพอุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด, “เขื่อนจุฬาภรณ์” ที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี, “น้ำตกตาดโตน” น้ำตกงามที่มีสายน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี,“มอหินขาว” อันซีนชัยภูมิที่ดูน่าทึ่งไปกับประติมากรรมธรรมชาติก้อนหินใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตา สวยงาม ชวนให้จินตนาการ
ทุ่งดอกกระเจียว ราชินีแห่งป่าฝน หนึ่งในสัญลักษณ์แห่ง จ.ชัยภูมิ
และ“ทุ่งดอกกระเจียว”ไฮไลท์แห่งทุ่งดอกไม้ป่าหน้าฝน ที่สามารถสร้างชื่อและเอกลักษณ์ให้กับจังหวัดชัยภูมิ จนถูกยกให้เป็น“เมืองแห่งทุ่งดอกกระเจียว”อันลือลั่น

ทุกๆปีในช่วงหน้าฝน ราวเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ถือเป็นช่วงเวลาทองของดอกกระเจียวในจังหวัดชัยภูมิที่ต่างก็พากันออกดอกชูช่อบานสะพรั่งสวยงามเต็มท้องทุ่ง สำหรับจุดชมทุ่งดอกกระเจียวแสนสวยในจังหวัดชัยภูมินั้นมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่
ทุ่งดอกกระเจียว อช.ไทรทอง มีดอกกระเจียวขาวให้ชมกันด้วย
อุทยานแห่งชาติไทรทอง”(อ.หนองบัวระเหว)ที่มีดอกกระเจียวให้ชมกัน 5 ทุ่งใหญ่ ให้เดินเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม อีกทั้งยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆ อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์ และ“ผาหำหด” ที่มีชื่อสะดุดหู กับหน้าผาสูงสุดเสียวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปนั่ง-ยืนวัดใจที่หน้าผาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก
สายหมอกบางๆลงปกคลุมเหนือทุ่งดอกกระเจียว อช.ป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ
ส่วนแห่งที่สองคือ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม”(อ.เทพสถิต) ที่ถือเป็นไฮไลท์ของจุดชมทุ่งดอกกระเจียวอันโด่งดังของเมืองไทย กับแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวขนาดใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งทางอุทยานฯได้จัดสร้างทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวไว้เป็นอย่างดี

ในยามเช้าที่มีสายหมอกขาวโพลนลอยมาทักทาย ทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะอวลไปด้วยเสน่ห์ของสายหมอกและทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามชวนฝัน จนเกิดเป็นสโลแกน“หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งดอกกระเจียวที่ป่าหินงามได้เป็นอย่างดี
หินรูปถ้วยฟีฟ่าที่ลานหินงาม
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” และ “ลานหินงาม”แหล่งหินรูปร่างแปลกตาชวนให้จินตนาการ ไม่ว่าจะเป็น หินถ้วยฟีฟ่า หินเรดาห์ หินตะปู หินแม่ไก่ยักษ์ หินปราสาท ฯลฯ

และนี่ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งน่าสนใจอันหลากหลายในเส้นทางท่องเที่ยว “เลย plus ชัยภูมิ” ที่หากใครได้ออกไปสัมผัส ก็จะพบกับมนต์เสน่ห์ความงามที่จะชวนให้เราหลงรักเลยและชัยภูมิ

รวมถึงทำให้เราหลงรักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
******************************************

หมายเหตุ : ช่วงเวลาและปริมาณการบานของทุ่งดอกกระเจียวในแต่ละปีจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง เมืองต้องห้าม...พลาด plus “เลย plus ชัยภูมิ” เพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812, 0-4281-1405 และ ททท. สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมา,ชัยภูมิ) โทร. 0-4421-3030,0-4421-3666
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น