“ลานหินสีชมพู” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเป็นที่รู้จักเมื่อไม่นานนัก ตั้งอยู่ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นคนละแห่งกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน แต่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก โดยหากขับรถมาจากศูนย์ศึกษาฯ มุ่งหน้ามาทางหาดเจ้าหลาวบนถนนเฉลิมบูรพาชลทิตอีกประมาณ 8 ก.ม. ก็จะถึงที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน
สำหรับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน ได้ประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเมื่อปี 2542 รับผิดชอบพื้นที่ป่าจำนวน 18.19 ตร.กม. โดยสภาพป่าแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าชายเลน อีกทั้งยังมีสัตว์ป่านานาชนิด และนกอีกกว่า 213 ชนิดอีกด้วย
แต่ไฮไลท์ที่เราจะมาชมกันในวันนี้ก็คือ “ลานหินสีชมพู” โขดหินริมทะเลที่มีสีแดงอมชมพูสดใส โดยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกึ่งผจญภัยภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ที่มีระยะทางรวมราว 1 ก.ม. เป็นเส้นทางวงกลมที่จะเลือกเดินเลียบชายหาดเพื่อไปชมลานหินสีชมพูก่อนก็ได้ หรือจะเดินขึ้นเขาเข้าป่าเพื่อไปชมจุดชมวิวด้านบนเขาก่อนจะลงมาสู่ลานหินสีชมพูก็ได้
จั่วหัวมาว่าเป็นที่เที่ยวหวานๆ นั่นก็หวานเพราะสีชมพู แต่การจะเข้าไปชมเดินทางนั้นขอบอกว่าไม่หวาน เพราะเป็นเส้นทางกึ่งผจญภัย ทางเดินไม่ได้ราบเรียบเดินสบายตลอดเส้นทาง แต่บางช่วงต้องปีนป่ายโขดหินลัดเลาะตามชายหาดไปเรื่อยๆ เรียกว่าเหนื่อยเอาเรื่อง อีกทั้งยังต้องเดินท่ามกลางแสงแดด ไม่ค่อยมีร่มไม้มากนัก ดังนั้นหากใครที่จะเดินให้เต็มเส้นทางจึงควรเตรียมรองเท้าหุ้มส้นที่คล่องตัว เตรียมหมวกและเสื้อแขนยาวกันแดด และน้ำดื่มให้พร้อม หากใครมีเด็กหรือผู้สูงอายุมาด้วยก็ต้องคอยช่วยเหลือให้ดี หากเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยกันได้เลย
เราเลือกเดินเลาะไปทางชายหาดเพื่อไปชมลานหินสีชมพูก่อน ซึ่งจริงๆ แล้วบริเวณจุดเริ่มต้นของเส้นทางก็สามารถมองเห็นหินสีชมพูได้ แต่จะไม่สวยอลังการเท่ากับช่วงกลางๆ ของเส้นทาง โดยหินสีชมพูนี้เป็นหินทรายสีแดงอมชมพูที่เรียกว่าหินทรายอาร์โคส เนื่องจากมีส่วนผสมของแร่เหล็กมากจึงทำให้หินมีสีแดงอมชมพู ยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสงแดดจ้าก็ยิ่งออกสีชมพูสดใส แม้จะร้อนไปสักนิดแต่ถ้าได้แดดแรงๆ รับรองถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน
เส้นทางเดินช่วงแรกยังเดินกันสบายๆ เป็นเส้นทางวนขวาลัดเลาะไปตามโขดหินริมทะเลเรื่อยๆ มีหาดทรายเล็กๆ คั่นเป็นบางช่วง มีป้ายชี้เส้นทางเดินเป็นระยะๆ แต่ไม่ระบุระยะทางจึงอาจไม่ทราบว่าเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว แต่โขดหินสีชมพูที่เห็นเริ่มใหญ่โตและสีสันสวยงามขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
มาถึงช่วงกลางๆ เส้นทางเริ่มเดินยากขึ้น มีช่วงที่ต้องเกาะป่ายปีนโขดหิน มีช่วงที่บางครั้งไม่แน่ใจว่าเดินมาถูกทางหรือไม่เพราะยิ่งเดินต่อก็เหมือนยิ่งเจอโขดหินไม่มีที่สิ้นสุด แต่ก็ขอให้แน่ใจว่ามาถูกทางแล้ว เพราะมีเส้นทางเดินเส้นทางเดียวคือเลาะทะเลไปเรื่อยๆ นั่นเอง จะมีจุดสังเกตคือเมื่อเดินมาถึงช่วงกึ่งกลางของเส้นทาง เราจะมองเห็นเกาะกลางทะเลอยู่ใกล้ๆ ทางซ้ายมือนั่นคือ "เกาะช่องสะบ้า" ตรงนี้จะเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ต้องออกแรงเดินกันหน่อยจึงจะได้ภาพสวยๆ ที่มุมนี้
จากบริเวณจุดนี้เดินไต่โขดหินไปอีกสักพักก็จะเจอเส้นทางตัดขึ้นเขา ซึ่งสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวบ่อเตย ชมวิวทะเลสีฟ้าครามสดใสที่ในยามเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม จากบนเขาจะมีเส้นทางเดินตัดลงมายังจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ รวมระยะทางของการเดินเลาะริมทะเลประมาณ 500 ม. และเส้นทางเดินบนเขาอีกประมาณ 500 ม. นั่นเอง ซึ่งใครจะใช้เวลาเดินเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับพละกำลังและระยะเวลาในการแวะถ่ายรูป แต่รวมๆ แล้วก็อยู่ราวๆ 1.30-2 ชม.
มีข้อควรระวังอย่างหนึ่งก็คือ ให้เช็คเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง ก่อนออกเดินทาง เพราะหากมาเดินในช่วงน้ำขึ้นก็อาจลำบากและเป็นอันตรายในการไต่โขดหินได้ แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากล่าวว่า ในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ช่วงน้ำลงจะเป็นตอนกลางวัน ดังนั้นจึงสามารถมาเที่ยวในตอนกลางวันได้ตลอดทั้งวัน แต่ใครที่จะมาเที่ยวหลังจากเดือน ก.ค. เป็นต้นไปคงต้องโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมอีกครั้ง จะได้เดินชมลานหินสีชมพูแบบสบายใจ ถ่ายรูปสนุกกันไปเลย
* * * * * * * * *
“เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน” ตั้งอยู่ที่ 31 หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็กและผู้สูงอายุเข้าฟรี มีลานกางเต็นท์และบ้านพักให้บริการ สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงได้ที่ โทร.08 7833 7568 (เวลาราชการ) หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักที่จันทบุรีได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลระยอง, จันทบุรี) โทร.0 3865 5420-1
* * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
