xs
xsm
sm
md
lg

100 ปี “สะพานรัษฎาภิเศก” แลนด์มาร์กทรงเสน่ห์คู่เมืองลำปาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สะพานรัษฎาภิเศก โดดเด่นคู่เมืองลำปาง
เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา “สะพานรัษฎาภิเศก” หรือ “สะพานขาว” ที่เป็นดังแลนด์มาร์กของเมืองรถม้าลำปาง ได้มีอายุครบ 100 ปีแล้ว

เป็นเวลายาวนานที่สะพานสีขาวสะอาดตา โดดเด่นด้วยเส้นโค้งทรงคันธนูรวม 4 โค้งทอดข้ามผ่านแม่น้ำวัง ให้ผู้คนได้ใช้สัญจรผ่านไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำในเขตใจกลางเมืองลำปาง และกลายเป็นดังสัญลักษณ์คู่เมืองที่ชาวลำปางคุ้นตา

แต่ก่อนที่สะพานข้ามแม่น้ำวังแห่งนี้จะกลายมาเป็น “สะพานรัษฎาภิเศก” ที่มีอายุครบ 100 ปี ในวันนี้ ก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเป็นสะพานที่มีการสร้างมาแล้วถึง 3 รุ่นด้วยกัน
ในยามเย็นเคียงคู่พระอาทิตย์ตก
หนังสือ “๒ ฟากแม่วังฝั่งนครลำปาง” เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสะพานรัษฎาฯ ไว้ว่า แต่เดิมการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำวังนั้นยังใช้วิธีการสร้างสะพานไม้ไผ่สานง่ายๆ ที่เรียกว่า “ขัวแตะ” ไว้ใช้ชั่วคราว น้ำไหลเชี่ยวกรากเมื่อไรก็พัดขัวแตะพังไป แต่ต่อมาเมื่อลำปางเจริญด้วยกิจการป่าไม้และการค้าขาย มีชาวต่างชาติทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส พม่า และจีนเข้ามาทำกิจการต่างๆ มากขึ้นจึงมีการสร้างสะพานที่แข็งแรงทนทานเพื่อประโยชน์ในการสัญจร

เมื่อนั้นจึงมีการสร้างสะพานรัษฎาภิเศกรุ่นแรกขึ้นในปี 2436 ในสมัยเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิตเป็นเจ้าผู้ครองนครลำปาง ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่แรกสร้างเป็นสะพานไม้มีความยาว 120 เมตร เชื่อว่าชื่อ “รัษฎาภิเศก” นั้นมีที่มาจากการสร้างสะพานเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษกรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานนาม “รัษฎาภิเศก” ให้กับสะพานแห่งนี้
สะพานประดับด้วยแสงไฟยามค่ำ
แต่ต่อมาในปี 2444 สะพานไม้รุ่นแรกได้พังลงเนื่องจากทนแรงกระแทกจากท่อนซุงในยามน้ำหลากไม่ไหว จึงได้มีการสร้างสะพานขึ้นใหม่เป็นรุ่นที่สอง เป็นสะพานไม้เสริมเหล็กไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสร้างเสร็จเมื่อใด มีเพียงหลักฐานจากกรมโยธาธิการว่าพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นนครไชยศรีสุรเดช เสด็จมาเปิดสะพานเมื่อเดือนมกราคม ปี 2448

แต่สะพานไม้เสริมเหล็กก็ยังคงต้านกระแสน้ำและท่อนซุงไม่ไหว พังลงไปอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงได้มีการก่อสร้างสะพานรุ่นที่ 3 ขึ้นใหม่ในเดือนมีนาคม 2460 คราวนี้สร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยมีพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นผู้ควบคุมดำเนินการก่อสร้าง ส่วนวิศวกรผู้ควบคุมเป็นชาวเยอรมัน
โดดเด่นด้วยเส้นโค้งทรงคันธนูรวม 4 โค้ง
สะพานรัษฎาภิเศกรุ่นที่ 3 นี้ก็คือสะพานอันเป็นเอกลักษณ์ของลำปางในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสะพานสีขาวโดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปทรงโค้งคันธนูรวม 4 โค้ง และมีสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายถึงความเป็นมาอยู่หลายประการได้แก่ “เสาสี่ต้น” ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวสะพานฝั่งละสองต้น เปรียบดังความมั่นคงแข็งแรงและสง่างาม “พวงมาลายอดเสา” บนยอดเสาทั้งสี่ด้านของเสาทั้งสี่ต้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 5

“ครุฑหลวงสีแดง” ประดับอยู่กลางเสาด้านหน้าทุกต้นทั้งสองฝั่งหัวสะพาน บ่งบอกถึงตราสัญลักษณ์แห่งแผ่นดินสยามสมัยรัชกาลที่ 6 และ “ไก่ขาว” ที่ประดับตรงกลางเสาด้านข้างทุกต้นทั้งสองฝั่งหัวสะพาน คือสัญลักษณ์ประจำนครลำปางนั่นเอง
รูปไก่ขาวประดับตรงกลางเสาด้านข้าง
100 ปีผ่านไป สะพานรัษฎาภิเศกยังคงอยู่ยั้งยืนยง เป็นดังสะพานเชื่อมระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เนื่องจากสะพานรถยนต์ข้ามแม่น้ำในลักษณะเดียวกัน รุ่นราวคราวเดียวกันนั้นไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว จึงถือเป็นเอกลักษณ์คู่เมืองลำปางในบรรยากาศย้อนยุคที่อวลไปด้วยกรุ่นไอแห่งอดีต รอให้ผู้มาเยือนได้มาสัมผัสกับเรื่องราวของเมืองลำปางผ่านสะพานแห่งนี้
ครุฑหลวงสีแดงตัดกับสีขาวของสะพาน
ปัจจุบันยังคงให้รถวิ่งผ่านและคนเดินข้ามสัญจรไปมา
*****************************************

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น