โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)

“ระนอง” แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” ที่มีฝนตกชุกมากที่สุดของเมืองไทย แต่ในยามที่ถึงช่วงไฮต์ซีซั่น หรือฤดูท่องเที่ยวทางทะเล(ราว กลาง เดือน ต.ค. ไปจนถึงราวกลางเดือน พ.ค.) ที่ไร้มรสุม ปลอดฝน(หรือมีฝนตกบ้าง) ท้องทะเลระนองจะเปล่งมนต์ขลังพลังแห่งความงามออกมา ให้คนรักทะเลได้ไปสัมผัสทัศนาชื่นชมในความงามกัน
โดยเฉพาะกับ “หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว” ที่วันนี้ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงแห่งจังหวัดระนอง ซึ่งทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานภูมิภาค ภาคเหนือ” จึงได้จัดทริปพิเศษ พา“นักท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิง” ออกเดินทางข้ามภาคล่องใต้ไปเที่ยวจังหวัด “ชุมพร-ระนอง” โดยไม่พลาดที่จะพาพวกเราออกท่องทะเลระนองไปสัมผัสกับความงามของ “หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว” ที่ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมไฮไลท์สำคัญของทริป
เกาะค้างคาว

หลังโปรแกรมใน 2 วันแรกของทริป คณะเลดี้ทริปได้ไปทำกิจกรรม ล่องแพพะโต๊ะ ที่ จ.ชุมพร ล่องเรือในเส้นทางย้อนยุค ท่องทะเลสีทอง ที่ จ.ระนอง และการออกไปสัมผัสกับความสวยงามของ“หมู่เกาะมังกร” แห่งท้องทะเลพม่าอันน่าตื่นตาตื่นใจ
มาถึงในวันที่สาม ช่วงสายๆของวันเราเดินทางจากที่พักในตัวเมืองระนองมายัง “หาดบางเบน” เพื่อที่จะออกทะเลมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว

หาดบางเบนตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติแหลมสม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ที่นี่นอกจากจะเป็นท่าเทียบเรือท่องเที่ยวไปยังเกาะต่างๆแล้ว ยังเป็นหาดที่มีความสงบงามและคงความเป็นธรรมชาติอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นจุดจอดเรือประมง ที่ยังคงภาพวิถีของชาวประมงพื้นบ้านริมชายฝั่งที่ใช้ชีวิตคืบก็ทะเลศอกก็ทะเลให้เราได้สัมผัสกัน
จากหาดบางเบนเรานั่งเรือหัวโทงนำเที่ยวประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงยัง “เกาะค้างคาว” สถานที่ไฮไลท์ของเราในทริปนี้

เกาะค้างคาว ตั้งอยู่ใน อ.กะเปอร์ (อยู่ใกล้ๆกับหมู่เกาะกำทางด้านทิศเหนือ) เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสวยใสแจ๋ว สีของน้ำทะเลค่อยๆไล่โทนจากสีเขียวอ่อนในแนวชายหาดช่วงน้ำตื้น ออกไปสู่ท้องทะเลเป็นสีฟ้าอ่อน และสีน้ำเงินเข้มของน้ำทะเลลึกแห่งอันดามัน
บริเวณหัวเกาะค้างคาวมีจุดดำน้ำตื้น ที่แม้ปะการังและปลาจะไม่มากมาย แต่ว่าก็มีให้ชมกันพอสมควร โดยเฉพาะปลาการ์ตูนนีโม่ที่น่ารักน่าชม ที่นี่ก็มีแหวกว่ายอยู่ในกอดอกไม้ทะเลให้เห็นกันพอเป็นสีสันประดับให้เกาะค้างคาวมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น

จากในท้องทะเลขึ้นมาสู่บนเกาะค้างคาวกันบ้าง หลังเรือได้แล่นเข้ามาเทียบเกาะ แต่ละคนในคณะเราก็ไม่รีรอ หามุมเฉพาะของแต่ละคน บ้างลงเล่นน้ำ บ้างเดินชายหาด ส่วนที่ชอบกันเป็นพิเศษก็คือการหามุมสวยๆบนหาดทรายเดินถ่ายรูป เซลฟี่กันแบบไม่กลัวร้อน
สำหรับหาดทรายบนเกาะค้างคาวนั้นได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดหาดทรายของเมืองไทย เพราะนอกจากจะมีความสวยงาม มีน้ำทะเลสวยใส ทอดตัวเป็นแนวยาวแล้ว ที่พิเศษเป็นจุดเด่นของหาดทรายเกาะค้างคาวก็คือ เป็นหาดทรายที่เกิดจากการย่อยสลายของปะการัง ที่ธรรมชาติใช้เวลาอย่างยาวนานย่อยสลายจนกลายเป็นหาดทรายแสนสวย ผืนทรายที่นี่มีเนื้อทรายละเอียดยิบดุจแป้งผัดหน้าสาว ยามเดินจะเนียนนุ่มแน่นแสนเพลินเท้า จนทำให้เกาะค้างคาวได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในจังหวัดระนอง

นอกจากหาดทรายแล้วบนเกาะค้างคาวยังมี “หาดหิน” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของเกาะเป็นแนวต่อเนื่องไปกับแนวหาดทรายหน้าเกาะ
หาดหินบนเกาะค้างคาว เต็มไปด้วยก้อนหินกลมมน แบน รี สีสันอ่อนๆ ขาว น้ำตาล เทา จำนวนมากผสมกลมกลืนกันไป แลดูสวยงาม จนบริเวณนี้ได้รับการเรียกขานให้เป็น “หาดหินงาม”ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นบนเกาะค้างคาวที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

อ้อ!!! หาดหินงามที่นี่ แม้ไม่มีคำสาปแช่งเหมือนที่ “หาดหินงาม”(เกาะหินงาม) แห่งหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ที่เจ้าพ่อตะรุเตาท่านได้สาปแช่ง ผู้ที่แอบขโมยหินบนหาดหินงามกลับไปให้ประสบกลับเภทภัยมีอันเป็นไปนั้น แต่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะค้างคาวก็ต้องห้ามหยิบฉวย(ขโมย)หินก้อนสวยๆงามๆบนหาดแห่งนี้กลับไป
เพราะนั่นถือเป็นการทำลายทำร้ายธรรมชาติอย่างร้ายกาจ ซึ่งถึงแม้จะไม่มีเจ้าพ่อสาปแช่งดังเช่นที่ตะรุเตา แต่ตัวเรานั้นรู้อยู่แก่ใจ
และผมก็จะเป็นคน(ร่วม)สาปแช่งพวกขโมยหินเหล่านั้นด้วยอีกคน

เกาะกำตก-อ่าวเขาควาย
หลังเล่นน้ำ ถ่ายรูป เดินทอดย่ำทราย เกลือกกลิ้งบนชายหาด บนเกาะค้างคาวกันเป็นที่เพลิดเพลินแล้ว คณะเราออกเดินทางสู่ “เกาะกำตก” ที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญแห่งหมู่เกาะกำ

หมู่เกาะกำ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแหลมสน ในเขตน่านน้ำ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ประกอบด้วยกลุ่มเกาะกำต่างๆ ได้แก่ เกาะกำใหญ่ กำนุ้ย กำตก(หรืออ่าวเขาควาย) กำใต้ กำกลาง(เกาะญี่ปุ่น) ร่วมด้วยเกาะนมสาว(เกาะล้าน) เกาะนกควัก(หรือเกาะนกกวัก) และเกาะไฟแว่บ เป็นต้น
สำหรับที่มาของชื่อเกาะกำนั้น “บังโอ๋ : วิษณุพงษ์ ม่งเก” ผู้เป็นกัปตันเรือพาเราออกท่องทะเลครั้งในนี้ ได้เคยเล่าให้ผมฟังว่า ชื่อ“เกาะกำ” มีที่มา 2 ทางด้วยกัน

หนึ่งนั้นเชื่อว่าสมัยก่อนบนเกาะเคยมีต้นระกำ(หวาน)อยู่เยอะ ส่วนอีกหนึ่งเชื่อว่า “กำ” มาจาก “กรรม” ที่ภาษาถิ่นหมายถึง “ห้าม” โดยมีเรื่องเล่าว่า ใครที่มาถึงที่เกาะนี้ห้ามพูดจาไม่ดี ห้ามพูดจาไม่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งชาวประมงที่มาหาปลาที่เกาะนี้ หากพูดว่าจะมาจับปลาให้ได้เต็มลำก็จะจับปลาไม่ได้ แต่หากไม่พูดอะไรก็จะจับปลาได้
และนี่ก็เป็นเรื่องเล่าขานสืบต่อๆกันมาของที่มาของชื่อเกาะกำแห่งนี้ ซึ่งผมขอย้ำว่านี่เป็นข้อมูลเรื่องเล่าในแบบมุขปาฐะ ที่ข้อเท็จจริงนั้นใครอยากรู้คงต้องไปสืบค้นเจาะลึกกันอีกที

หลังนั่งเรือประมาณ 20 นาทีจากเกาะค้างคาว พวกเราก็มาถึงยัง “เกาะกำตก” หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “อ่าวเขาควาย” เนื่องจากมีโค้งอ่าวที่มีหาดทรายสวย น้ำใส ทอดตัวเป็นแนวโค้งยาวครึ่งวงกลมคล้ายเขาควาย ทอดตัวจากเหนือจรดใต้ของเกาะ แลดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และชวนให้ลงแหวกว่ายเล่นน้ำยิ่งนัก

แต่อ่าวเขาควายที่เราเห็นเป็นที่สวยงามในวันนี้ ครั้งหนึ่งเคยถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดซัดขาดออกจากกัน แยกอ่าวเขาควาย-เกาะกำตกออกเป็นสองส่วน
แต่หลังจากนั้นธรรมชาติก็ได้ฟื้นฟูตัวเอง พัดพาเนินทรายมารวมกันเชื่อมต่อเกาะกำตกเป็นหนึ่งเดียว พร้อมสร้างสรรค์ความงามโฉมใหม่ให้อ่าวเขาควาย ซึ่งวันนี้ทางอุทยานฯแหลมสนได้ไปปรับปรุงให้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อน สันทนาการ นักท่องเที่ยว คณะทัวร์ สามารถนำอาหารไปรับประทานบนเกาะได้ แต่ต้องเก็บทุกสิ่งทุกอย่างนำกลับมาทิ้งบนฝั่ง ห้ามทิ้งขยะบนเกาะเด็ดขาด ย้ำว่าห้ามทิ้งขยะบนเกาะเด็ดขาด!!!

นอกจากนี้บนเกาะกำตกยังมีการพัฒนาพื้นที่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินชมวิวอ่าวเขาควาย ที่มีทั้งในส่วนของจุดชมวิวผาตะวันตก และจุดชมวิวเวิ้งอ่าวเขาควายให้เราเดินขึ้นไปชมความสวยงามในคนละมุมฝั่งของเกาะ
ขณะที่หาดทรายในฝั่งตรงข้ามของอ่าวเขาควายนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสวยงามของเกาะกำตก ที่มีลักษณะเป็นแนวหาดทรายกว้างยาว น้ำทะเลสวยใส งามตาดีแท้

หลังรับประทานอาหารกลางวันบนเกาะกำตก เล่นน้ำ ชมวิว และพักผ่อนบนเกาะกำตกกันจนได้เวลาอันสมควรแล้ว พวกเราเดินทางต่อไปยังเกาะสุดท้ายในโปรแกรมทัวร์ คือ “เกาะญี่ปุ่น” หรือ “เกาะกำกลาง” ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะกำตก (อยู่ใกล้ๆกับเกาะกำนุ้ยทางด้านทิศเหนือ)

เกาะญี่ปุ่นเดิมชื่อ“เกาะมันมารง” เพราะมีหัวมันมารงอยู่มาก ซึ่งชาวเลนิยมขุดมากิน ต่อมาตอนหลังเรียกว่าเกาะญี่ปุ่น เพราะมี 2 ที่มา คือ บ้างก็ว่าในสมัยสงครามโลกญี่ปุ่นเคยมาตั้งฐานทัพ ฐานเสบียงที่นี่ ส่วนบ้างก็ว่าเคยมีนักธุรกิจญี่ปุ่นมาเลี้ยงหอยมุขที่นี่ก่อนที่จะเลิกราไป ซึ่งวันนี้ยังมีร่องรอยหลักฐานเป็นที่พักของชาวญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่

เกาะญี่ปุ่นเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีชายหาดเล็กๆน้ำใสแจ๋วให้เล่นกันแถวหัวเกาะใต้ต้นสนอันร่มรื่น เกาะญี่ปุ่น ถือเป็น 1 ใน 3 เกาะ แห่งเส้นทางท่องเที่ยว หมู่เกาะกำ-เกาะค้างคาวของบรรดาเรือทัวร์หรือทริปทัวร์ที่มักจะพานักท่องเที่ยวมาพักเล่นน้ำที่นี่
นับเป็นเกาะปิดท้ายทริปเที่ยวทะเลระนอง และเป็นไฮไลท์ส่งท้ายทริปผู้หญิงเที่ยว ซึ่งสำหรับความสวยงาม สิ่งน่าสนใจ และมนต์เสน่ห์ของหมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว แห่งท้องทะเลระนองนั้น วันนี้ด้วยความที่ที่นี่ยังคงไว้ด้วยธรรมชาติอันสวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่กำลังมาแรง ดังนั้นจำเป็นที่ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ชุมชน และอุทยานฯแหลมสน จะต้องช่วยกันเก็บรักษาเกาะแห่งนี้ไว้ตราบนานเท่านาน

นักท่องเที่ยว ต้องท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก ผู้ประกอบการต้องทำธุรกิจท่องเที่ยวอย่างรู้รับผิดชอบ จนท.รัฐ ต้องตั้งใจ ใส่ใจ และจริงใจในการดูแลพื้นที่
อย่าให้เกาะค้างคาว และหมู่เกาะกำ ต้องประสบ “ชะตากรรม”เหมือนกับท้องทะเลรุ่นพี่ๆของไทยในหลายๆแห่งที่ผ่านมา ซึ่งถูกการท่องเที่ยวแบบกอบโกยกระทำชำเราจนธรรมชาติชอกช้ำเสียศูนย์ ยากต่อการกอบกู้ฟื้นฟูให้คืนกลับมาเหมือนเช่นดังเดิม

**************************************************
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง “ชุมพร, ระนอง” ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร (พื้นที่รับผิดชอบชุมพร ระนอง) โทร. 0-7750-2775-6, 0-7750-1831
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“ระนอง” แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” ที่มีฝนตกชุกมากที่สุดของเมืองไทย แต่ในยามที่ถึงช่วงไฮต์ซีซั่น หรือฤดูท่องเที่ยวทางทะเล(ราว กลาง เดือน ต.ค. ไปจนถึงราวกลางเดือน พ.ค.) ที่ไร้มรสุม ปลอดฝน(หรือมีฝนตกบ้าง) ท้องทะเลระนองจะเปล่งมนต์ขลังพลังแห่งความงามออกมา ให้คนรักทะเลได้ไปสัมผัสทัศนาชื่นชมในความงามกัน
โดยเฉพาะกับ “หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว” ที่วันนี้ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงแห่งจังหวัดระนอง ซึ่งทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานภูมิภาค ภาคเหนือ” จึงได้จัดทริปพิเศษ พา“นักท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิง” ออกเดินทางข้ามภาคล่องใต้ไปเที่ยวจังหวัด “ชุมพร-ระนอง” โดยไม่พลาดที่จะพาพวกเราออกท่องทะเลระนองไปสัมผัสกับความงามของ “หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว” ที่ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมไฮไลท์สำคัญของทริป
เกาะค้างคาว
หลังโปรแกรมใน 2 วันแรกของทริป คณะเลดี้ทริปได้ไปทำกิจกรรม ล่องแพพะโต๊ะ ที่ จ.ชุมพร ล่องเรือในเส้นทางย้อนยุค ท่องทะเลสีทอง ที่ จ.ระนอง และการออกไปสัมผัสกับความสวยงามของ“หมู่เกาะมังกร” แห่งท้องทะเลพม่าอันน่าตื่นตาตื่นใจ
มาถึงในวันที่สาม ช่วงสายๆของวันเราเดินทางจากที่พักในตัวเมืองระนองมายัง “หาดบางเบน” เพื่อที่จะออกทะเลมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว
หาดบางเบนตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติแหลมสม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ที่นี่นอกจากจะเป็นท่าเทียบเรือท่องเที่ยวไปยังเกาะต่างๆแล้ว ยังเป็นหาดที่มีความสงบงามและคงความเป็นธรรมชาติอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นจุดจอดเรือประมง ที่ยังคงภาพวิถีของชาวประมงพื้นบ้านริมชายฝั่งที่ใช้ชีวิตคืบก็ทะเลศอกก็ทะเลให้เราได้สัมผัสกัน
จากหาดบางเบนเรานั่งเรือหัวโทงนำเที่ยวประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงยัง “เกาะค้างคาว” สถานที่ไฮไลท์ของเราในทริปนี้
เกาะค้างคาว ตั้งอยู่ใน อ.กะเปอร์ (อยู่ใกล้ๆกับหมู่เกาะกำทางด้านทิศเหนือ) เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสวยใสแจ๋ว สีของน้ำทะเลค่อยๆไล่โทนจากสีเขียวอ่อนในแนวชายหาดช่วงน้ำตื้น ออกไปสู่ท้องทะเลเป็นสีฟ้าอ่อน และสีน้ำเงินเข้มของน้ำทะเลลึกแห่งอันดามัน
บริเวณหัวเกาะค้างคาวมีจุดดำน้ำตื้น ที่แม้ปะการังและปลาจะไม่มากมาย แต่ว่าก็มีให้ชมกันพอสมควร โดยเฉพาะปลาการ์ตูนนีโม่ที่น่ารักน่าชม ที่นี่ก็มีแหวกว่ายอยู่ในกอดอกไม้ทะเลให้เห็นกันพอเป็นสีสันประดับให้เกาะค้างคาวมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
จากในท้องทะเลขึ้นมาสู่บนเกาะค้างคาวกันบ้าง หลังเรือได้แล่นเข้ามาเทียบเกาะ แต่ละคนในคณะเราก็ไม่รีรอ หามุมเฉพาะของแต่ละคน บ้างลงเล่นน้ำ บ้างเดินชายหาด ส่วนที่ชอบกันเป็นพิเศษก็คือการหามุมสวยๆบนหาดทรายเดินถ่ายรูป เซลฟี่กันแบบไม่กลัวร้อน
สำหรับหาดทรายบนเกาะค้างคาวนั้นได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดหาดทรายของเมืองไทย เพราะนอกจากจะมีความสวยงาม มีน้ำทะเลสวยใส ทอดตัวเป็นแนวยาวแล้ว ที่พิเศษเป็นจุดเด่นของหาดทรายเกาะค้างคาวก็คือ เป็นหาดทรายที่เกิดจากการย่อยสลายของปะการัง ที่ธรรมชาติใช้เวลาอย่างยาวนานย่อยสลายจนกลายเป็นหาดทรายแสนสวย ผืนทรายที่นี่มีเนื้อทรายละเอียดยิบดุจแป้งผัดหน้าสาว ยามเดินจะเนียนนุ่มแน่นแสนเพลินเท้า จนทำให้เกาะค้างคาวได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในจังหวัดระนอง
นอกจากหาดทรายแล้วบนเกาะค้างคาวยังมี “หาดหิน” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของเกาะเป็นแนวต่อเนื่องไปกับแนวหาดทรายหน้าเกาะ
หาดหินบนเกาะค้างคาว เต็มไปด้วยก้อนหินกลมมน แบน รี สีสันอ่อนๆ ขาว น้ำตาล เทา จำนวนมากผสมกลมกลืนกันไป แลดูสวยงาม จนบริเวณนี้ได้รับการเรียกขานให้เป็น “หาดหินงาม”ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นบนเกาะค้างคาวที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
อ้อ!!! หาดหินงามที่นี่ แม้ไม่มีคำสาปแช่งเหมือนที่ “หาดหินงาม”(เกาะหินงาม) แห่งหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ที่เจ้าพ่อตะรุเตาท่านได้สาปแช่ง ผู้ที่แอบขโมยหินบนหาดหินงามกลับไปให้ประสบกลับเภทภัยมีอันเป็นไปนั้น แต่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะค้างคาวก็ต้องห้ามหยิบฉวย(ขโมย)หินก้อนสวยๆงามๆบนหาดแห่งนี้กลับไป
เพราะนั่นถือเป็นการทำลายทำร้ายธรรมชาติอย่างร้ายกาจ ซึ่งถึงแม้จะไม่มีเจ้าพ่อสาปแช่งดังเช่นที่ตะรุเตา แต่ตัวเรานั้นรู้อยู่แก่ใจ
และผมก็จะเป็นคน(ร่วม)สาปแช่งพวกขโมยหินเหล่านั้นด้วยอีกคน
เกาะกำตก-อ่าวเขาควาย
หลังเล่นน้ำ ถ่ายรูป เดินทอดย่ำทราย เกลือกกลิ้งบนชายหาด บนเกาะค้างคาวกันเป็นที่เพลิดเพลินแล้ว คณะเราออกเดินทางสู่ “เกาะกำตก” ที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญแห่งหมู่เกาะกำ
หมู่เกาะกำ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแหลมสน ในเขตน่านน้ำ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ประกอบด้วยกลุ่มเกาะกำต่างๆ ได้แก่ เกาะกำใหญ่ กำนุ้ย กำตก(หรืออ่าวเขาควาย) กำใต้ กำกลาง(เกาะญี่ปุ่น) ร่วมด้วยเกาะนมสาว(เกาะล้าน) เกาะนกควัก(หรือเกาะนกกวัก) และเกาะไฟแว่บ เป็นต้น
สำหรับที่มาของชื่อเกาะกำนั้น “บังโอ๋ : วิษณุพงษ์ ม่งเก” ผู้เป็นกัปตันเรือพาเราออกท่องทะเลครั้งในนี้ ได้เคยเล่าให้ผมฟังว่า ชื่อ“เกาะกำ” มีที่มา 2 ทางด้วยกัน
หนึ่งนั้นเชื่อว่าสมัยก่อนบนเกาะเคยมีต้นระกำ(หวาน)อยู่เยอะ ส่วนอีกหนึ่งเชื่อว่า “กำ” มาจาก “กรรม” ที่ภาษาถิ่นหมายถึง “ห้าม” โดยมีเรื่องเล่าว่า ใครที่มาถึงที่เกาะนี้ห้ามพูดจาไม่ดี ห้ามพูดจาไม่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งชาวประมงที่มาหาปลาที่เกาะนี้ หากพูดว่าจะมาจับปลาให้ได้เต็มลำก็จะจับปลาไม่ได้ แต่หากไม่พูดอะไรก็จะจับปลาได้
และนี่ก็เป็นเรื่องเล่าขานสืบต่อๆกันมาของที่มาของชื่อเกาะกำแห่งนี้ ซึ่งผมขอย้ำว่านี่เป็นข้อมูลเรื่องเล่าในแบบมุขปาฐะ ที่ข้อเท็จจริงนั้นใครอยากรู้คงต้องไปสืบค้นเจาะลึกกันอีกที
หลังนั่งเรือประมาณ 20 นาทีจากเกาะค้างคาว พวกเราก็มาถึงยัง “เกาะกำตก” หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “อ่าวเขาควาย” เนื่องจากมีโค้งอ่าวที่มีหาดทรายสวย น้ำใส ทอดตัวเป็นแนวโค้งยาวครึ่งวงกลมคล้ายเขาควาย ทอดตัวจากเหนือจรดใต้ของเกาะ แลดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และชวนให้ลงแหวกว่ายเล่นน้ำยิ่งนัก
แต่อ่าวเขาควายที่เราเห็นเป็นที่สวยงามในวันนี้ ครั้งหนึ่งเคยถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดซัดขาดออกจากกัน แยกอ่าวเขาควาย-เกาะกำตกออกเป็นสองส่วน
แต่หลังจากนั้นธรรมชาติก็ได้ฟื้นฟูตัวเอง พัดพาเนินทรายมารวมกันเชื่อมต่อเกาะกำตกเป็นหนึ่งเดียว พร้อมสร้างสรรค์ความงามโฉมใหม่ให้อ่าวเขาควาย ซึ่งวันนี้ทางอุทยานฯแหลมสนได้ไปปรับปรุงให้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อน สันทนาการ นักท่องเที่ยว คณะทัวร์ สามารถนำอาหารไปรับประทานบนเกาะได้ แต่ต้องเก็บทุกสิ่งทุกอย่างนำกลับมาทิ้งบนฝั่ง ห้ามทิ้งขยะบนเกาะเด็ดขาด ย้ำว่าห้ามทิ้งขยะบนเกาะเด็ดขาด!!!
นอกจากนี้บนเกาะกำตกยังมีการพัฒนาพื้นที่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินชมวิวอ่าวเขาควาย ที่มีทั้งในส่วนของจุดชมวิวผาตะวันตก และจุดชมวิวเวิ้งอ่าวเขาควายให้เราเดินขึ้นไปชมความสวยงามในคนละมุมฝั่งของเกาะ
ขณะที่หาดทรายในฝั่งตรงข้ามของอ่าวเขาควายนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสวยงามของเกาะกำตก ที่มีลักษณะเป็นแนวหาดทรายกว้างยาว น้ำทะเลสวยใส งามตาดีแท้
หลังรับประทานอาหารกลางวันบนเกาะกำตก เล่นน้ำ ชมวิว และพักผ่อนบนเกาะกำตกกันจนได้เวลาอันสมควรแล้ว พวกเราเดินทางต่อไปยังเกาะสุดท้ายในโปรแกรมทัวร์ คือ “เกาะญี่ปุ่น” หรือ “เกาะกำกลาง” ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะกำตก (อยู่ใกล้ๆกับเกาะกำนุ้ยทางด้านทิศเหนือ)
เกาะญี่ปุ่นเดิมชื่อ“เกาะมันมารง” เพราะมีหัวมันมารงอยู่มาก ซึ่งชาวเลนิยมขุดมากิน ต่อมาตอนหลังเรียกว่าเกาะญี่ปุ่น เพราะมี 2 ที่มา คือ บ้างก็ว่าในสมัยสงครามโลกญี่ปุ่นเคยมาตั้งฐานทัพ ฐานเสบียงที่นี่ ส่วนบ้างก็ว่าเคยมีนักธุรกิจญี่ปุ่นมาเลี้ยงหอยมุขที่นี่ก่อนที่จะเลิกราไป ซึ่งวันนี้ยังมีร่องรอยหลักฐานเป็นที่พักของชาวญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่
เกาะญี่ปุ่นเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีชายหาดเล็กๆน้ำใสแจ๋วให้เล่นกันแถวหัวเกาะใต้ต้นสนอันร่มรื่น เกาะญี่ปุ่น ถือเป็น 1 ใน 3 เกาะ แห่งเส้นทางท่องเที่ยว หมู่เกาะกำ-เกาะค้างคาวของบรรดาเรือทัวร์หรือทริปทัวร์ที่มักจะพานักท่องเที่ยวมาพักเล่นน้ำที่นี่
นับเป็นเกาะปิดท้ายทริปเที่ยวทะเลระนอง และเป็นไฮไลท์ส่งท้ายทริปผู้หญิงเที่ยว ซึ่งสำหรับความสวยงาม สิ่งน่าสนใจ และมนต์เสน่ห์ของหมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว แห่งท้องทะเลระนองนั้น วันนี้ด้วยความที่ที่นี่ยังคงไว้ด้วยธรรมชาติอันสวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่กำลังมาแรง ดังนั้นจำเป็นที่ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ชุมชน และอุทยานฯแหลมสน จะต้องช่วยกันเก็บรักษาเกาะแห่งนี้ไว้ตราบนานเท่านาน
นักท่องเที่ยว ต้องท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก ผู้ประกอบการต้องทำธุรกิจท่องเที่ยวอย่างรู้รับผิดชอบ จนท.รัฐ ต้องตั้งใจ ใส่ใจ และจริงใจในการดูแลพื้นที่
อย่าให้เกาะค้างคาว และหมู่เกาะกำ ต้องประสบ “ชะตากรรม”เหมือนกับท้องทะเลรุ่นพี่ๆของไทยในหลายๆแห่งที่ผ่านมา ซึ่งถูกการท่องเที่ยวแบบกอบโกยกระทำชำเราจนธรรมชาติชอกช้ำเสียศูนย์ ยากต่อการกอบกู้ฟื้นฟูให้คืนกลับมาเหมือนเช่นดังเดิม
**************************************************
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง “ชุมพร, ระนอง” ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร (พื้นที่รับผิดชอบชุมพร ระนอง) โทร. 0-7750-2775-6, 0-7750-1831
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com