xs
xsm
sm
md
lg

อะเมซิ่งเมือง“ตรัง” กินอร่อยตามรอยมังกร...ห้ามพลาด“ถ้ำมรกต-เกาะกระดาน”สวรรค์ของคนรักทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เกาะกระดาน เกาะที่ได้ชื่อว่ามีชายหาดที่สวยที่สุดแห่งท้องทะเลตรัง
“ยุทธจักรความอร่อย”

เป็นสโลแกนกิ๊บเก๋ของ“จังหวัดตรัง” จากโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาด” ของ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”(ททท.) ซึ่งได้สะท้อนถึงความเป็น“เมืองแห่งอาหารการกิน”ของชาวตรังมาได้อย่างเด่นชัด

นอกจากจะเป็นเมืองแห่งอาหารการกินแล้ว ตรังยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ป่าเขา น้ำตก ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ประเพณี และท้อง“ทะเลตรัง”อันงดงามเลื่องชื่อ
หาดปากเมง อีกหนึ่งหาดชื่อดังของจังหวัดตรัง
รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยว“ตามรอยมังกรเมืองตรัง” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันความแตกต่าง ซึ่งในทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” จะขอพาไปตะลอนทัวร์เมืองตรังภายใต้แนวคิด“ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ในเส้นทาง“กินอร่อย ตามรอยมังกร ท่องทะเลตรังแสนงาม”กัน

หรอยแบบตรัง

หนึ่งในการสัมผัสเข้าถึงวิถีคนตรังอย่างลึกซึ้ง นั่นก็คือการ กิน กิน กิน และก็กิน เพราะเมืองตรังนั้นมากไปด้วยของอร่อย และคนตรังนั้นก็มีวัฒนธรรมการกินตั้งแต่เช้ามืดไปยันดึกดื่น
มื้อเช้าแบบตรัง จัดเต็มกับติ่มซำที่เสิร์ฟมาเต็มโต๊ะ
คนตรังกินอาหารกันมากถึง 5-6 มื้อต่อวัน โดยเฉพาะมื้อเช้าแบบตรังอันมีเอกลักษณ์นั้น คนตรังจะจัดเต็มกับ กาแฟตรังที่มีให้เลือกกันหลากหลายสูตร ติ่มซำที่จัดมาเต็มโต๊ะ ทั้ง ขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า เต้าหู้ปลา มะระยัดไส้ บะจ่าง ปูอัดยัดไส้ ฯลฯ และ“หมูย่างเมืองตรัง” อาหารขึ้นชื่อเอกลักษณ์ประจำจังหวัด จนตรังได้ชื่อว่าเป็นเมืองหมูย่างอันลือลั่น

หมูย่างเมืองตรัง เป็นอีกตำนานความอร่อยที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี แต่ละเจ้าแต่ละร้านก็จะมีหมูย่างในสูตรเฉพาะของตัว แต่หลักๆนั้นจะหมักด้วยเครื่องเทศยาจีนและน้ำผึ้ง ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปย่างอย่างพิถีพิถัน จนหมูย่างสุกทั่วถึงกันทั้งตัว ให้หนังกรอบ เนื้อในนุ่มแน่น มีรสหวานนำ กินอร่อยแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม
หมูย่าง อาหารขึ้นชื่อแห่งเมืองตรัง
นอกจากหมูย่างแล้ว ตรังยังมี “เค้กเมืองตรัง” หรือ “เค้กมีรู” เป็นอีกหนึ่งของกินเอกลักษณ์ กับเค้กมีเจาะรูไว้ตรงกลางเพื่อให้เนื้อเค้กสุกทั่วถึง มีเนื้อนุ่มละเอียด กลิ่นหอม รสชาติละมุมหวานกำลังดี ซึ่งต้นตำรับเจ้าแรกของเค้กเมืองตรังนั้นก็คือ “เค้กขุกมิ่ง” ที่ ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด

ขณะที่ของกินเด่นๆอื่นในเมืองตรังยังมี ขนมจีบป้าพิณ ขนมจีน หมี่หุ้นกระดูกหมู ข้าวยำ ราดหน้า อาหารทะเล โรตี ฯลฯ รวมไปถึง “หมี่หนำเหลี่ยว” ที่ทางททท.ชูให้เป็นอาหารถิ่นประจำจังหวัดตรัง จากโครงการ “อาหารถิ่น ตะลุยกินทั่วไทย
หมี่หนำเหลี่ยว อาหารถิ่นต้องห้ามพลาดของ จ.ตรัง
หมี่หนำเหลี่ยว” หรือ “หลอหมี่” เป็นอาหารจีนฮกเกี้ยนมีรสอร่อยกลมกล่อม หน้าตาคล้ายราดหน้า มีวัตถุดิบใส่ผสมรวมกันมากว่า 20 ชนิด นำโดย เส้นหมี่เหลือง(คล้ายโกยซีหมี่)เนื้อปู เนื้อหมู ตับหมู ไข่ไก่ กะหล่ำปลี เห็ดหอม เป็นต้น

เดิมชาวตรังจะนิยมกินหมี่หนำเหลี่ยวกันเฉพาะในวันพิธีสำคัญและวันงานส่งศพของชาวจีน ที่เปรียบดังการส่งผู้ตายสู่สวรรค์ เนื่องจากหมี่หนำเหลี่ยวนั้นต้องปรุงกันนานและพิถีพิถันในการทำมาก อย่างไรก็ดีในปัจจุบันได้มีร้านอาหารบางร้านทำหมี่หนำเหลี่ยวขายเป็นเมนูเด็ด ดังเช่น ร้านสีฟ้า ไลฟ์สไตล์ฟู๊ด ร้านยำป้าหลุย เป็นต้น ซึ่งหากใครมีโอกาสไปเยือนเมืองตรัง หมี่หนำเหลี่ยวถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารถิ่นที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ลอดท้องมังกร ถ้ำเลเขากอบ
หินงอกหินย้อยภายในถ้ำเลเขากอบ
หลังชวนไปท่องยุทธจักรความอร่อยกับของกินนานาชนิดแล้ว ต่อไป“ตะลอนเที่ยว” จะขอชวนไปสัมผัสกับเส้นทางตามรอยมังกร ที่ถือเป็นอีกหนึ่งของดีเมืองตรังอันมากไปด้วยมนต์เสน่ห์ชวนค้นหา

ลำดับแรกเราไปลอดท้องมังกร(สมมุติ)ตามธรรมชาติกันที่ “ถ้ำเลเขากอบ”ที่ตั้งอยู่ที่ ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด หนึ่งในไฮไลต์คู่เมืองตรังกับความมหัศจรรย์จากธรรมชาติสรรค์สร้างจนถูกยกให้เป็นหนึ่งใน“อันซีนไทยแลนด์”อันโด่งดัง
หินย้อยรูปหลอดกาแฟในถ้ำเลเขากอบ
ถ้ำเลเขากอบเป็นถ้ำน้ำลอดขนาดใหญ่ ภายในมีการแบ่งเป็นถ้ำย่อยห้องต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมแบบดูแต่ตามืออย่าต้อง ไม่ว่าจะเป็น ถ้ำท้องพระโรง ถ้ำรากไทร ถ้ำคนธรรพ์ และถ้ำเจ้าสาว ซึ่งแต่ละห้องดูงดงามไปหินงอกหินย้อยอันชวนให้จินตนาการ ไม่ว่าจะเป็น หินหลอดกาแฟ หินรูปไม้เสียบลูกชิ้น หินรูปเป็ดย่าง เป็นต้น
การเข้าถ้ำเลเขากอบ ต้องนั่งเรืออย่างลุ้นระทึกลอดใต้ท้องถ้ำเข้าไป
สำหรับการเข้าไปเที่ยวในถ้ำเลเขากอบ เราจะต้องนั่งเรือท้องแบนมุดใต้ท้องถ้ำเข้าไป ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นดังการลอดท้องมังกรเสริมสิริมงคล และเป็นการเข้าถ้ำที่ไม่ธรรมดาเอามากๆ เพราะระหว่างทางในการนั่งเรือ ในบางช่วง(ช่วงยาวๆ)เราจำเป็นต้องนอนหงายราบให้ชิดติดกับท้องเรือมากที่สุด และห้ามผงกหัวลุกขึ้นมาเด็ดขาด เนื่องจากใต้ท้องถ้ำนอกจากจะแคบมากแล้ว ยังมีเพดานถ้ำต่ำเตี้ยมากๆ ชนิดในบางช่วงบางตอนหินย้อยที่เพดานถ้ำ มันจะเฉียดพุง เฉียดสันจมูก ไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

นับเป็นการลอดท้องมังกรเข้าถ้ำที่ตื่นเต้นหวาดเสียว และต้องลุ้นระทึกกันอย่างใจหายใจคว่ำ แต่ก็สามารถสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

ลอดท้องมังกร วังเทพธาโร
ประติมากรรมมังกรสร้างจากไม้เทพธาโร ที่วังเทพธาโร
จากถ้ำเลเขากอบไปอีกประมาณ 2 กม. ที่ หมู่ 5 บ้านนาเหมร ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จะเป็นที่ตั้งของ “วังเทพทาโร” อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นชวนทึ่งของจังหวัดตรัง

วังเทพธาโร เกิดจากการสร้างสรรค์ของนาย“จรูญ แก้วละเอียด” หรือ “ครูจรูญ”(ครูวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนห้วยยอด) ที่ได้ไปกว้านซื้อไม้“เทพธาโร”(ไม้จวงหอม) ไม้มงคลเนื้อไม้มีกลิ่มหอม ซึ่งชาวบ้านได้ตัดทิ้งขุดทิ้งจนเหลือแต่ซากเหลือแต่ตอรอวันเผาทิ้ง มาสร้างสรรค์เป็นประติมากรรมมังกรอันสวยงามจำนวนมาก จนเกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นขึ้นมา
มังกรตัวยาว ใหญ่ มีไฮไล์ 9 ช่องประตูท้องมังกรให้ลอด
ผู้มาเยือนวังเทพธาโรจะได้ยลโฉมประติมากรรมมังกร(ไม้)น้อย-ใหญ่จำนวนมาก ในรูปร่างลักษณะท่าทางแตกต่างกันออกไป นำโดยไฮไลท์ คือ มังกรไม้ตัวยาว ใหญ่ ที่บริเวณส่วนลำตัวหรือส่วนท้อง ทำเป็นช่องทางให้เดินลอดกับทางเดิน “9 ช่องประตูท้องมังกร” โดยแต่ละช่องจะมีความเชื่อในด้านเสริมสิริมงคลแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น พลัง อำนาจ มั่งมี บารมี ยิ่งใหญ่ ฯ ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินลอดท้องมังกรเสริมสิริมงคล และอธิษฐานขอพรกันเป็นจำนวนมาก

ภายในวังเทพธาโรยังมีมังกรพ่นน้ำตัวใหญ่ และมังกรตัวที่ 88 ความยาว 39 เมตรที่ครูจรูญได้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ในหลวง รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสครบรอบ 88 พรรษา เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ
ลอดท้องมังกร 9 ช่องเสริมสิริมงคล
นอกจากมังกรไม้แล้ว วังเทพธาโรยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ อาทิ จิบชาจวงหอม พิสูจน์กลิ่นใบเทพธาโร ศึกษาฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชมการแสดงการตีกลองยาวพร้อมๆกับการร้องเพลงปักษ์ใต้บ้านเราในเวอร์ชั่นภาคภาษาอังกฤษ และการเดินชมบทกลอน คำคม ข้อคิด และแนวทางการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง โดยเฉพาะข้อความ “กราบแผ่นดิน” ที่ตั้งเด่นอยู่ตรงกลางอันเป็นการแสดงความคารวะต่อผืนแผ่นดินแม่ที่ชวนประทับใจ

ตื่นตาสันหลังมังกรกลางทะเล
สันหลังมังกรเหลือง อ.ปะเหลียน
จากมังกรบนบกเปลี่ยนไปตามรอยมังกรในท้องทะเล ด้วยการไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่ง “สันหลังมังกรตรัง”กันบ้าง

สันหลังมังกรเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของท้องทะเล ยามย้ำทะเลลดจนได้ระดับ แนวสันทรายใต้น้ำที่อยู่ในช่วงทะเลน้ำตื้นจะผุดโผล่ขึ้นมา เกิดเป็นแนวยาวทอดยาวคดโค้งอยู่กลางทะเล จนได้รับฉายาเรียกขานให้เป็น“สันหลังมังกร” เพื่อความเป็นสิริมงคล

สันหลังมังกรตรังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานแต่ก็มาแรงไม่น้อย โดยในทะเลตรังมีสันหลังมังกรอยู่ 6 ตัวด้วยกัน(6 แนว) ซึ่งแต่ตัวต่างก็มีรูปร่างและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ได้แก่
สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ อ.ปะเหลียน
มังกรเหลือง”(บ้านหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน) มีลักษณะเป็นแนวสันทรายสีเหลืองนวล

มังกรเกล็ดทองคำ”(บ้านทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน) เป็นแนวสันทรายและเปลือกหอยชนิดใหญ่ ยามต้องแสงแดดจะทอประกายสีทองระยิบระยับ

มังกรหยก”(บริเวณเกาะสุกร) เป็นแนวสันทรายเปลือกหอยและโคลนมีออกสีเขียวหม่นๆคล้ายหยก แต่พิเศษคือมีเกาะสุกรเป็นหัวมังกรด้วย
สันหลังมังกรหยก อ.ปะเหลียน
มังกรทับทิมสยาม”(บริเวณเกาะสุกร) สันหลังมังกรตัวนี้มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในท้องทะเลตรัง คือยาวถึง 5.6 กม. และกว้างถึง 700 เมตร อีกทั้งยังมีปูมดแดงจำนวนมากออกหากิน จึงมองเห็นเป็นสีแดงทับทิมอยู่ทั่วไป

มังกรนิล”(อ.หาดสำราญ) เป็นแนวสันทรายและโคลนให้สีออกดำคล้ำ

และ“มังกรเผือก” (เกาะมดตะนอย) เป็นแนวสันทรายสีขาวกลางทะเล พาดลำตัวทอดไปทงเกาะลิบง มีลักษณะเด่นคือมีแนวสันทรายย่อยเป็นดังขามังกรด้วย
มังกรนิล ปะเหลียน
สันหลังมังกรเหล่านี้รูปร่างของมันแต่ละวันจะเปลี่ยนแปรกันไปตามการพัดพาของน้ำ(แต่ยังคงเค้าโครงหลักอยู่)ยามที่น้ำทะเลลดได้ที่ เราสามารถลงไปเดินเล่นตามแนวสันทรายได้ ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนกับกำลังเดินอยู่กลางทะเลเลยทีเดียว

ท่องทะเลตรัง วันเดียวเที่ยว 4 เกาะ

จากสันหลังมังกรกลางทะเลเราไปชมความงามของ “ท้องทะเลตรัง” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งแดนสวรรค์ของคนรักทะเลกันบ้าง
น้ำทะเลสวยในภายในถ้ำมรกต
สำหรับไฮไลท์ของท้องทะเลตรังก็คือกิจกรรม “วันเดียวเที่ยว 4 เกาะ” ในรูปแบบวันเดย์ทริป(One Day Trip)ไปเช้า-เย็นกลับ ซึ่งปัจจุบันเป็นแพกเกจท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว

วันเดียวเที่ยว 4 เกาะ เริ่มต้นด้วยไฮไลท์สำคัญคือ “ถ้ำมรกต” ที่เป็นส่วนหนึ่งของ“เกาะมุก” ซึ่งเราต้องลอยคอ(เกาะตัวคนข้างหน้า)ค่อยๆว่ายน้ำฝ่าความมืดมืดเข้าไป
ลอยคอเข้าถ้ำมรกต
ครั้นเมื่อถึงภายในถ้ำก็จะพบกับปล่องถ้ำสูงที่มีชายหาดขนาดย่อมอยู่ภายใน ยามแสงอาทิตย์สาดส่อง น้ำทะเลในนี้จะสะท้อนแสงเกิดสีสันสวยงามดุจดังมรกตดูน่าอัศจรรย์ จนทำให้ถ้ำมรกตได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์อันเลื่องชื่อ

ต่อจากนั้นจุดต่อไปคือ “เกาะกระดาน” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทะเลตรังด้วยเช่นกัน เกาะกระดานได้ชื่อว่ามีชายหาดสวยที่สุดแห่งท้องทะเลตรัง กับแนวชายหาดอันสวยงามที่ทอดตัวเป็นแนวยาวหลายร้อยเมตร มีทรายละเอียดยิบดุจแป้ง และน้ำทะเลสวยใสแจ๋วที่น่าลงแหวกว่ายเล่นน้ำยิ่งนัก
เกาะกระดาน เป็นหนึ่งในทะเลต้องห้ามพลาดแห่งจังหวัดตรัง
ส่วนเกาะที่ 3 เป็น “เกาะม้า” หรือ “เกาะแหวน”(ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ) ซึ่งทั้งสองเกาะถือเป็นแหล่งดำน้ำตื้นชั้นดี มีปะการังสวยงามหลากสีสันให้ชม โดยเฉพาะที่เกาะม้านั้นมีปะการังอ่อน 7 สี ให้ชมกันด้วย

ต่อจากนั้นไปปิดท้ายกันที่ “เกาะเชือก” ที่มีกระแสน้ำแรงจึงต้องดำน้ำเกาะเชือก(สมดังชื่อเกาะ)ชมความงามของโลกใต้ทะเล ที่งดงามไปด้วยปะการังอันหลากหลายและฝูงปลาจำนวนมาก ชวนให้ประทับใจเป็นยิ่งนัก
ดำน้ำเกาะเชือก
นอกจากกิจกรรมวันเดียวเที่ยว 4 เกาะแล้ว ท้องทะเลตรังยังมีเกาะและชายหาดสวยๆงามๆให้เที่ยวชมกันอีกหลากหลาย อาทิ หาดปากเมง หาดเจ้าไหม หาดราชมงคล เกาะเหลาเหลียง เกาะสุกร เกาะลิบง เป็นต้น

เสน่ห์ตรัง มนต์ขลังตราตรึง

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทาง“กินอร่อย ตามรอยมังกร ท่องทะเลตรังแสนงาม” แล้วจังหวัดตรังยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ได้แก่
สะพานศึกษาเรือนยอดไม้ สวนพฤกษศาสตร์ฯทุ่งค่าย
-“พิชิตเรือนยอดไม้” ที่“สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้”(ทุ่งค่าย) ที่ตั้งอยู่ที่ ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว กับทางเดิน“สะพานศึกษาเรือนยอดไม้” ที่สร้างขึ้นเป็นแห่งแรกในเมืองไทย เป็นสะพานแขวนลวดสลิงความยาว 175 เมตร สูง 10-14 เมตร มี 6 หอคอย เป็นจุดเชื่อมต่อ จุดแวะพัก ฐานให้ความรู้ และจุดชมวิวอันสวยงาม
สถานีรถไฟกันตัง
-“เที่ยวกันตัง” อำเภอที่มีของดีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย”ที่ได้มีการอนุรักษ์ไว้, “สถานีรถไฟกันตัง” สถานีรถไฟสถานีสุดท้ายบนเส้นทางรถไฟสายอันดามัน อันเก่าแก่คลาสสิก เป็นอาคารไม้ทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และ “พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี” โดยยังคงไว้ซึ่งลักษณะเดิมเหมือนเมื่อครั้งที่พระยารัษฎาฯยังมีชีวิตอยู่
หินงอกหินย้อยในถ้ำเขาช้างหาย
-“เที่ยวถ้ำเมืองตรัง” นอกจากถ้ำเลเขากอบและถ้ำมรกตแล้ว ตรังยังมีถ้ำที่น่าสนใจชวนให้ไปเที่ยวชมกันอีก อาทิ “ถ้ำเจ้าคุณ-ถ้ำเจ้าไหม”ที่มีหลายห้องซับซ้อนภายในงดงามไปด้วยหินงอก-หินย้อย, “ถ้ำเขาปินะ” ภายในแบ่งออกเป็น 8 ถ้ำย่อย ชั้นบนสุดของถ้ำมีลานหินยื่นออกไปชมวิวอันสวยงาม ,“ถ้ำพระพุทธ” มีพระนอนองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ และ“ถ้ำเขาช้างหาย” ที่ภายในมีหินงอกหินย้อยอันสวยงามที่ยังสมบูรณ์อยู่มาก
นั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบเที่ยวเมืองตรัง
-“นั่งตุ๊กๆหัวกบทัวร์ตัวเมืองตรัง” ตุ๊กๆหัวกบเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองตรัง กับรูปลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่น นักท่องเที่ยวสามารถเช่าตุ๊กๆหัวกบทัวร์ตัวเมืองตรัง เที่ยวชมสิ่งน่าสนใจถ่ายรูปเซลฟี่ วีฟี่ กับสถานที่เหล่านั้นๆ อาทิ หมู่ตึกชิโนโปรตุกีส,สตรีทอาร์ต,โบสต์คริสต์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี, หอนาฬิกาตรัง,วงเวียนพะยูน และห้ามพลาดการแวะหาของกินอร่อยๆที่มีอยู่ทั่วไปในตัวเมืองตรัง

ตรัง plus สตูล
ท้องทะเลสวยใสที่เกาะหลีเป๊ะ
จากเมืองตรังหากต่อไปยัง“สตูล”จังหวัดที่อยู่ติดกันถัดลงใต้ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งดินแดนที่มากไปด้วยเสน่ห์อันชวนเที่ยวโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งในทะเลและบนฝั่ง

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนสตูลก็คือ “เกาะหลีเป๊ะ” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ที่โดดเด่นไปด้วยน้ำทะเลสวยใส หาดทรายยาวขาวนวล พื้นทรายละเอียดเดินแน่นนุ่มเท้า
เกาะไข่
นอกจากนี้ทะเลสตูลยังมี “หมู่เกาะตะรุเตา” มรดกแห่งอาเซียน แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับเกาะหลีเป๊ะ ที่งดงามไปด้วยธรรมชาติอันพิสุทธ์และสิ่งน่าสนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “เกาะตะรุเตา”ที่มีอ่าวพันเตมะละกาเป็นไฮไลท์กับแนวหาดทรายยาวขาวสะอาดพื้นทรายละเอียดยิบ, “เกาะไข่” ที่โดดเด่นไปด้วยซุ้มประตูหินประติมากรรมจากธรรมชาติสรรค์สร้าง
เกาะรอกลอย
หมู่เกาะตะรุเตายังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ “เกาะหินงาม” ที่บนเกาะมีก้อนหินงาม ทรงกลม รี สีดำ-น้ำตาลเข้ม อยู่เต็มหาด ร่วมด้วย“เกาะอาดัง-ราวี” 2 เกาะใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆกัน มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลสวยใสให้ลงแหวกว่าย “เกาะหินซ้อน” ที่เป็นประติมากรรมธรรมชาติก้อนหินใหญ่วางซ้อนกันกลางทะเลได้อย่างประหลาดน่าทึ่ง และ “เกาะรอกลอย”(รอ-กลอย) เกาะขนาดเล็กที่มีน้ำทะเลสวยงามใสแจ๋ว ดุจดังสระว่ายน้ำกลางทะเล จนได้รับฉายาว่าเป็น “มรกตกลางทะเล
สันหลังมังกร สตูล
ท้องทะเลสตูลยังมีอีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจที่กำลังมาแรง คือ“สันหลังมังกร” ที่ตั้งอยู่ที่ ต.ตันหยงโป อ.เมือง ที่เป็นแนวชายหาดในทะเล เกิดจากซากเปลือกหอยจำนวนมากมายมหาศาลถับถมกันจนเกิดเป็นแนวสันทรายใต้ผิวน้ำอันน่าอัศจรรย์

จากทะเลขึ้นมาเที่ยวบนฝั่งสตูลกันบ้าง จังหวัดนี้มีชื่อในเรื่องถ้ำอันสวยงาม นำโดย 2 ถ้ำดัง ได้แก่
ถ้ำภูผาเพชร
- “ถ้ำภูผาเพชร”(อ.มะนัง) เป็นถ้ำใหญ่สุดอลังการกลางขุนเขา ภายในถ้ำมีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ถือเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก เมื่อเราเข้าไปในถ้ำจะพบกับหินงอกหินย้อยน้อยใหญ่อันงดงามวิจิตรตระการตา และชวนตื่นตะลึง ไม่ว่าจะเป็น หินงอกที่เป็นเสามหึมาค้ำเพดานถ้ำ หินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายปะการัง ลานแสงมรกตที่เพดานถ้ำเป็นช่องแสง ยามเมื่อแสงแดดสาดส่องลงมากระทบกับก้อนหินใหญ่ที่ตะไคร่เกาะเต็มจะสะท้อนแสงเป็นสีมรกตสวยงาม
ถ้ำเลสเตโกดอน
-“ถ้ำเลสเตโกดอน” (ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า) เป็นถ้ำน้ำเค็มที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวกว่า 4 กม. ที่นี่เป็นจุดที่พบเจอซากฟอสซิลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการค้นพบสำคัญคือฟอสซิลฟันกรามของช้างสเตโกดอน อันเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำเลสเตโกดอน” การเข้าไปเที่ยวในถ้ำเลสเตโกตอนต้องนั่งเรือแคนูเข้าไป ซึ่งภายในถ้ำเลสเตโกดอนเป็นพื้นที่กว้าง โล่ง สูง มีอากาศโปร่งสบาย ตลอดเส้นทางมีความงดงามของหินงอกหินย้อยอันสวยงามให้ชมกันเป็นระยะๆ กับรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามจินตนาการของแต่ละคน
ชาชัก ของดีห้ามพลาดแห่งเมืองสตูล
นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามแล้ว สตูลยังเป็นอีกหนึ่งเมืองที่โดดเด่นในเรื่องของอาหารการกินไม่น้อย โดยหนึ่งในของกินต้องห้ามพลาดก็คือ “โรตี-ชาชัก” โดยเฉพาะชาชักนั้น สตูลได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับของชาชักในบ้านเราเลยทีเดียว

และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของจังหวัดตรัง เจ้าของสโลแกน“ยุทธจักรความอร่อย” แห่งเมืองต้องห้ามพลาดที่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ครบเครื่องเรื่องท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกินนั้น ตรังถือได้ว่าโดดเด่นขึ้นชื่อยิ่งนัก
เกาะกระดาน น้ำใส หาดทรายสวย น่าเล่นน้ำ
ขณะที่ไฮไลท์ในเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง “ตรัง plus สตูล” นั้นก็มาไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะกับเรื่องความงามของถ้ำและท้องทะเล ที่ทั้ง 2 จังหวัดต่างก็มีความโดดเด่นขึ้นชื่อด้วยกันทังคู่ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่กินอร่อย เที่ยวสนุก

และสามารถสร้างความสุขใจให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

******************************************
บรรยากาศชวนเล่นน้ำในถ้ำมรกต
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ใน จ.ตรัง เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานตรัง โทร. 0-7521-5867,0-7521-1058,0-7521-1085 และข้อมูล จ.สตูล เพิ่มเติมที่ และข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ใน จ.สตูล เพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานหาดใหญ่(พื้นที่รับผิดชอบ สงขลา, สตูล) โทร. 0-7423- 1055, 0-7423-8518,0-7424-3747
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น