ททท.แพร่ ชวนชม “ดอกชมพูภูคา” บานพร้อมกัน 3 ดอยที่ จ.น่าน นอกจากดอกชมพูภูคาแล้ว ยังมีดอกเอื้อง สิงโตสยาม ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าหายาก และ ดอกกุหลาบพันปี คำขาว ร่วมบานต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย
น.ส.เอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่(รับผิดชอบพื้นที่ แพร่,น่าน) เปิดเผยถึงเทศกาลเที่ยวชมดอกชมพูภูคาที่ จ.น่านในปีนี้ ว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่รอคอยการมาเยือนของดอกชมพูภูคาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปิดฉากฤดูหนาวและเริ่มต้นฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ
ขณะนี้ ดอกชมพูภูคา ซึ่งถือเป็น พันธ์ไม้ที่หายากที่สุดในโลก กำลังเริ่มบานต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน โดยเฉพาะดอยภูคา ดอยมณีพฤกษ์ และอุทยานแห่งชาติขุนสถาน สำหรับที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนสถาน นอกจากดอกชมพูภูคาแล้ว ยังมีดอกเอื้อง สิงโตสยาม ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าหายาก และ ดอกกุหลาบพันปี คำขาว ร่วมบานต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย
ผอ.ททท.แพร่ บอกด้วยว่า สำหรับดอกชมพูภูคา เป็นไม้เมืองหนาว จะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ของทุกปี เคยพบทางตอนใต้ประเทศจีน และ ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามก่อนจะหายไปจากบัญชีรายชื่อไม้งาม ที่ไม่มีรายงานการค้นพบอีกเลย กระทั่งเมื่อ เกือบ 30 ปีที่แล้ว มีการพบต้นชมพูภูคาอีกครั้งที่ อ.ปัว จ.น่าน ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และปัจจุบันมีต้นชมพูภูคา ที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนสถาน และดอยมณีพฤกษ์ด้วย โดยพันธุ์ไม้หายากชนิดนี้ จะบานต้อนรับนักท่องเที่ยวจนถึงเดือนมี.ค.นี้เท่านั้น
สำหรับ“ชมพูภูคา” เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่หาได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ ชมพูภูคาจะขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่แล้วจะพบในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยในประเทศไทยพบที่ดอยภูคา จ.น่าน
พื้นที่ที่ต้นชมพูภูคาจะเจริญเติบโต จะมีร่มเงาของไม้ใหญ่หนาทึบ มีอากาศหนาวเย็น มีความชุ่มชื้นสูง มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี จึงถือว่าระบบนิเวศของชมพูภูคามีความเปราะบางมาก นอกจากนี้ อีกสาเหตุที่ต้นชมพูภูคากลายเป็นพรรณไม้หายาก เนื่องจากในเมล็ดของชมพูภูคามีเมือกสำหรับยับยั้งการเจริญเติบโต อีกทั้งระบบนิเวศของป่าดิบเขาเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้มีการขยายพันธุ์ได้ยาก
ทุกๆ ปีที่ต้นชมพูภูคาที่ดอยภูคา จ.น่าน จะออกดอกบานระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งภาพดอกชมพูภูคาบานนั้นหาชมได้ยากมาก โดยดอกชมพูภูคาจะออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีชมพู เมื่อบานดอกจะชิดกันแน่น ทำให้ดูเป็นพุ่มสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน
สำหรับจุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุด อยู่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทางอุทยานจัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ยืนต้นสูงขึ้นมาจากหุบเขา
หากนักท่องเที่ยวสนใจจะไปชมดอกชมพูภูคาสีชมพูสวยที่บานสะพรั่ง สามารถไปชมได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนมีนาคม (ทั้งนี้ ควรสอบถามทางอุทยานฯ ว่าดอกชมพูภูคายังบานอยู่หรือไม่) โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลดอกชมพูภูคาบานเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0-5470-1000 และสอบถามข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทาง ใน จ.น่าน-แพร่ ได้ที่ ททท. สำนักงานแพร่ โทร.0-5452-1127