วันหยุดถ้าไม่มีโปรแกรมไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ฉันก็มักใช้เวลาช่วงเย็นไปเดินเล่นรับลม สูดกลิ่นต้นไม้ใบหญ้าตามสวนสาธารณะใกล้บ้าน ซึ่งนอกจากจะได้ผ่อนคลายจิตใจแล้วยังเป็นการออกกำลังกายอีกด้วย วันนี้ฉันมาเดินเล่นที่ “สวนรถไฟ” หรือชื่อมีชื่อยาวๆ เป็นทางการว่า “สวนวชิรเบญจทัศ” ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสวนจตุจักรนี่เอง สวนสาธารณะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวนแห่งครอบครัว เพราะมีกิจกรรมที่หลากหลายให้เลือกทำได้ทุกช่วงวัย ทั้งยังมีบรรยากาศเหมาะๆ ในการพักผ่อนหย่อนใจของทุกคนอีกด้วย
สวนรถไฟ แต่เดิมเคยใช้เป็นสนามกอล์ฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีเนื้อที่ 375 ไร่ ต่อมาได้สร้างเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของประชาชนในย่านใกล้เคียง มีสวนพฤกษศาสตร์ สวนสมุนไพรนานาชนิด ลานกีฬา สวนพุทธศาสนา สวนพิพิธภัณฑ์รถไฟ ตลอดจน สระว่ายน้ำ และยังเป็นที่สามารถศึกษานกหลายชนิดที่มีอยู่เองตามธรรมชาติได้อีกด้วย เพราะในสวนมีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก
กิจกรรมยอดฮิตของคนที่มาที่สวนรถไฟก็คือการปั่นจักรยานชมบรรยากาศและออกกำลังกาย เพราะพื้นที่ 375 ไร่ของสวนรถไฟนับว่ากว้างใหญ่มากเกินกว่าที่จะเดินชมได้ทั่ว บริเวณที่จอดรถของสวนรถไฟจึงมีร้านให้บริการเช่าจักรยานเปิดอยู่หลายร้าน ไม่ใช่แค่จักรยาน แต่ยังมีบริการให้เช่าเสื่อไว้นั่งเล่นนอนเล่นในสวนด้วยเช่นกัน
ได้เวลาแดดเริ่มอ่อนแสง ฉันจัดการเลือกจักรยานคู่ใจมาได้คันหนึ่งแล้วปั่นเข้าไปในสวน ซึ่งฉันได้ยินมาว่า เส้นทางของจักรยานทาง กทม. ได้ปรับปรุงเส้นทางจักรยานใหม่ มีระยะทาง 3.6 กิโลเมตร จากเดิมเส้นทางเดิน วิ่ง และทางจักรยาน จะใช้พื้นที่ร่วมกันบนถนน โดยตีเส้นแบ่งช่องทางระหว่างรถจักรยานและคนเดิน วิ่ง แต่เนื่องจากในแต่ละวันมีคนมาใช้บริการสวนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับถนนเดิมมีลักษณะแคบและค่อนข้างคดเคี้ยว ทำให้เกิดเหตุรถจักรยานเฉี่ยวชนคนหรือเฉี่ยวชนกันเองเป็นประจำ กทม.จึงได้แก้ไขปัญหาโดยการก่อสร้างเส้นทางจักรยานเส้นทางใหม่ขนาดกว้าง 3 เมตร ระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 3.3 กิโลเมตร เพื่อแยกออกจากทางเดินวิ่งอย่างชัดเจน เพื่อลดอุบัติเหตุและให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
และทางจักรยานจะเป็นทางวันเวย์ ห้ามขี่ย้อนกลับ เพราะฉะนั้น ถ้าขี่แล้วต้องให้ครบรอบ ขี่ผ่านร่มเงาแมกไม้ สบาย ๆ มีห้องน้ำให้แวะทำธุระ ล้างหน้าล้างมือ อยู่เป็นระยะ ๆ ขี่สำรวจให้ทั่ว ก็จะเจอบริเวณสวย ๆ อีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในสวนรถไฟแห่งนี้
ในสวนนั้นนอกจากจะมีเส้นทางปั่นจักรยานและสนามหญ้ากว้างๆ ให้วิ่งเล่นแล้ว ก็ยังมี “เมืองจราจรจำลอง” เป็นสถานที่แห่งการสร้างจิตสำนึกในการเคารพกฎจราจรให้แก่เด็กและเยาวชน มี “ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ” ให้บริการด้านสถานที่ และอุปกรณ์กีฬาแก่สมาชิก มีสระว่ายน้ำ สนามฟุตซอล สนามฟุตบอล สนามสตรีทบอล ลานเปตอง ฟิตเนส และมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กของศูนย์เยาวชนวชิรเบญจทัศให้พ่อแม่พาลูกๆ มาเล่นน้ำกันได้ด้วย
นอกจากนั้น ภายในสวนรถไฟยังเป็นที่ตั้งของ “อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ” ที่มีความรู้เกี่ยวกับผีเสื้อตั้งแต่ตอนเกิดและวงจรชีวิตที่ไม่เหมือนใคร มีความลับของผีเสื้อที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อีกทั้งยังจะได้สัมผัสผีเสื้อตัวเป็นๆ ในบรรยากาศของธรรมชาติอย่างแท้จริงกับสถานที่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของอุทยานผีเสื้อฯ นั่นคือกรงจัดแสดงผีเสื้อซึ่งเป็นกรงตาข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 1,168 ตร.ม.
ภายในถูกเนรมิตให้มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับธรรมชาติมากๆ มีทั้ง บ่อน้ำ ลำธาร น้ำตก มีดอกไม้นานาพันธุ์ และต้นไม้น้อย-ใหญ่ ขึ้นให้ครึ้มดูร่มรื่นสบายตา และมีเจ้าผีเสื้อสีสวยตัวเป็นๆ พากันบินวนเวียน ดอมดมดอกไม้ ต้นไม้ บินให้เห็นเต็มไปหมดภายในกรง
อีกสถานที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ “หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ” หรือ “สวนโมกข์ กรุงเทพฯ” ที่ก่อตั้งขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี พุทธทาส และอยู่ในพื้นที่ของสวนรถไฟแห่งนี้ ภายในหอจดหมายเหตุฯ เป็นทั้งแหล่งรวบรวมผลงาน เอกสาร เทปบันทึกเสียงศึกษาธรรมะ อันเป็นการสืบสานงานพระพุทธศาสนาผ่านงานของท่านของพุทธทาส และใครที่ต้องการหาความสงบให้จิตใจ ก็สามารถมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ หรือแม้แต่นั่งคิดอะไรเงียบๆ คนเดียวก็ได้เช่นกัน โดยที่นี่มี “ลานหินโค้ง” ลานปฏิบัติธรรมหน้าพระโพธิ์สัตว์ ซึ่งเต็มไปด้วยภาพพุทธประวัติที่จำลองมาจากภาพพุทธประวัติชุดแรกจากอินเดีย มี “สวนปฏิจจสมุปบาท” สวนสวยที่เปิดโล่งไร้ซึ่งผนังและเพดาน ด้านข้างมีห้องนิทรรศการ “นิพพานชิมลอง” ที่เราจะได้รู้ว่านิพพานอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก
หลังจากที่ฉันได้เที่ยวชมไปภายในสวนรถไฟจนทั่วแล้ว ก็ทำให้รู้ว่าเมืองกรุงก็มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจดีๆแบบนี้อยู่เช่นกัน เห็นทีฉันคงจะต้องมาปั่นรถจักรยานที่นี่บ่อยๆ แล้ว เพราะพื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้มีความร่มรื่นและมีบรรยากาศที่ดี จนทำให้ลืมไปว่าฉันกำลังยืนอยู่ในเมืองกรุงที่แสนจะวุ่นวาย หากใครมีเวลาว่างสุดสัปดาห์นี้ลองแวะมาที่นี่ดูบ้าง แล้วจะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากชีวิตในสังคมเมืองกรุงฯ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สวนวชิรเบญจทัศ สวนรถไฟ เปิดทุกวันตั้งแต่ 5:00-21:00 น. โทรศัพท์ 02 537 9221 การเดินทาง สวนรถไฟอยู่เขตจตุจักร ติดกับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ใกล้ ๆ สวนจตุจักรนี่เอง ทางเข้าจะอยู่ใกล้กับตึก ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ้ามาจาก ถ.วิภาวดีรังสิต แยกสุทธิสาร จะต้องขึ้นสะพานลอยข้ามแยก (ด้านนอก) ให้เลือกช่อง “ดอนเมือง” อย่าผิดช่องเพราะมีหลายทางเลือกมาก เมื่อลงสะพานลอยให้ชิดซ้ายตัดเข้าถนนเล็ก ๆ ตรงทางเข้า ตรงจุดนี้ควรใช้ความระมัดระวังด้วย เพราะระยะทางค่อนข้างกระชั้นชิด ถ้ามาจากทางอื่นไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรนัก แล้วเลี้ยวเข้าซอยข้าง ปตท.ซึ่งจะเห็นป้ายชื่อสวนวชิรเบญจทัศขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ถ้านำรถมาเสียค่าบำรุงสถานที่ 20 บาท
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com