xs
xsm
sm
md
lg

ฮอกไกโดสีขาว(จบ) : “โนโบริเบทสึ” แช่ออนเซ็นในนรกแสนสวย เพลินเพนกวินพาเหรดสุดน่ารัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

หุบเขานรกอันแสนงดงาม
คำว่า “นรก” ทำให้นึกถึงภาพของสถานที่อันน่ากลัว ไม่น่าเข้าใกล้ แต่สำหรับเมือง “โนโบริเบทสึ” (Noboribetsu) ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น “นรก” กลับกลายเป็นสถานที่ที่สวยงามและมีผู้คนอยากเดินทางมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก

นรกที่ว่านั้นหมายถึง “หุบเขานรก” (Hell Valley) หรือ “จิโกกุดานิ” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองโนโบริเบทสึ ที่ “ตะลอนเที่ยว” ได้เดินทางมาเยือนตามคำชวนขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโด และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) โดยที่นี่เราได้พบกับคุณคาโอรุ โอโนะ อุปนายกสมาคมท่องเที่ยวเมืองโนโบริเบทสึ ที่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย (แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีเอกสารภาษาไทยให้ด้วย!) คอยให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองนี้ให้เราฟังกัน
หุบเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ
ทางเดินไปชมบ่อน้ำพุร้อน
ทำให้ได้ทราบว่า “หุบเขานรก” เป็นร่องรอยของปล่องภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟคุตตะระ ทำให้ตามหุบเขาจะมีพุแก๊สเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำแร่ร้อนที่ผุดขึ้นมาตลอดเวลา จนทำให้บริเวณหุบเขาเต็มไปด้วยไอน้ำที่พวยพุ่ง และกลิ่นกำมะถันตลบอบอวล จนได้ชื่อว่าเหมือนอยู่ในนรกนั่นเอง

นอกจากนั้นที่นี่ยังมีความเชื่อว่า หุบเขานรกเป็นที่อยู่อาศัยของ “ยักษ์” ที่คอยคุ้มครองดูแลหุบเขา บ่อน้ำแร่และเมืองแห่งนี้ จึงทำให้เราพบเห็นรูปปั้นยักษ์ในหลากหลายอิริยาบถได้ตามที่ต่างๆ ทั่วเมืองโนโบริเบทสึ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะสร้างให้มีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวกายสีแดง มีเขี้ยวมีเขาและถือกระบองอันใหญ่โตดูดุดันน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วยักษ์ที่เมืองนี้เป็นยักษ์ใจดีที่คอยไล่ความโชคร้ายออกไปและนำเอาความสุขมาให้ผู้คน จนกลายเป็นมาสค็อตประจำเมืองไปในที่สุด
นักท่องเที่ยวมาชมบ่อน้ำพุร้อนบ่อใหญ่ในหุบเขา
ยักษ์ยืนต้อนรับที่เมืองโนโนบริเบทสึ
ในฤดูหนาวหุบเขานรกแห่งนี้ก็ไม่ได้ลดความร้อนลง แม้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนไปทั่วก็ตาม แต่ก็ยังมีไอน้ำลอยคุกกรุ่นไปทั่วบริเวณ “ตะลอนเที่ยว” เดินไปตามสะพานทางเดินที่จัดทำไว้เพื่อไปชมบ่อน้ำพุร้อนน้อยใหญ่ ทิวทัศน์นั้นสวยงามมากทีเดียว หุบเขาที่มีดินออกสีเหลืองจากแร่ธาตุภูเขาไฟ ตัดกับสีขาวของหิมะ พร้อมกับไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้น ก็ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้หุบเขานรกแห่งนี้สวยงามยิ่งนัก

ระหว่างทางมองเห็นลำธารน้ำแร่ที่ไหลลงไปยังหมู่บ้านเบื้องล่าง ซึ่งทำให้โนโบริเบทสึได้ชื่อว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด เพราะน้ำแร่จากต้นกำเนิดนี้ได้ถูกส่งต่อไปยังเรียวกังและโรงแรมแต่ละแห่ง โดยที่นี่มีน้ำแร่ถึง 9 ชนิดที่มีแร่ธาตุแตกต่างกัน และแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่ช่วยรักษาและบำบัดโรคแตกต่างกันอีกด้วย
พื้นถนนในเมืองยังมองเห็นไอน้ำพลุ่งขึ้นมา
ร้านขายของที่ระลึกมียักษ์ยืนหน้าร้าน
ในพื้นที่ใกล้เคียงหุบเขานรกนี้มีโรงแรมที่ให้บริการออนเซ็นมากถึง 14 แห่ง และตั้งอยู่ไม่ไกลกัน มีทั้งแบบมาพักค้างคืน หรือจะมาแช่ออนเซ็นแบบไป-กลับก็ได้ ใครมีโอกาสมาพักขอให้ลองแช่ออนเซนแบบญี่ปุ่นดูสักครั้ง และในหมู่บ้านก็จะมีนักท่องเที่ยวที่มาพักที่โรงแรมลงมาเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามร้านค้า และเดินชมเมืองโนโบริเบทสึในชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะน่ารักมากทีเดียว

แต่ในช่วงหิมะตกอย่างนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอเลือกใส่เสื้อโคทเดินเล่นจะดีกว่า ตามพื้นถนนบริเวณท่อระบายน้ำยังปรากฏควันจากน้ำแร่ร้อนพลุ่งขึ้นมาให้เห็นตลอดทาง สองข้างทางมีร้านรวงต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกอยู่หลายร้าน มองเห็นรูปปั้นยักษ์น้อยใหญ่สร้างไว้หน้าร้าน แถมเมื่อเข้าไปในร้านก็ยังมีของที่ระลึกอีกมากมายที่เป็นรูปยักษ์น่ารักให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแม่เหล็กติดตู้เย็น พวงกุญแจ ตุ๊กตาทั้งน้อยใหญ่ ฯลฯ แต่ที่ตะลอนเที่ยวอยากแนะนำก็คือ “ผงน้ำแร่” ที่เป็นซองเล็กๆ ให้เราเทลงในอ่างอาบน้ำแล้วนอนแช่น้ำร้อน ได้อารมณ์เหมือนมาแช่ออนเซ็นที่โนโบริเบทสึเองเลย
ของที่ระลึกก็เต็มไปด้วยยักษ์
เพนกวินเดินเตาะแตะโชว์ตัว
มาที่โนโบริเบทสึแล้ว ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชม “โนโบริเบทสึ มารีน พาร์ค นิกเซ่” (Noboribetsu Marine Park Nixe) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสไตล์ปราสาทโบราณที่สร้างจำลองมาจากปราสาทนิกซ์ ปราสาทเก่าในประเทศเดนมาร์ก เมื่อเข้ามาในอาคารอย่างแรกที่จะได้เจอก็คือ “คริสตัลทาวเวอร์” แทงค์น้ำความสูง 8 ม. ที่เต็มไปด้วยปลาหลากชนิด นอกจากนั้นก็ยังมีอุโมงค์ใต้ทะเลที่แยกเป็นส่วนกระแสน้ำเย็นและน้ำอุ่น มีฉลามว่ายไปมาให้ได้ตื่นเต้นกันด้วย
เริงร่ากับหิมะ
แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือโชว์ต่างๆ ภายในมารีนพาร์คที่ขอบอกว่าห้ามพลาดก็คือ “โชว์เพนกวินเดินพาเหรด” ซึ่งที่นี่จะมีเพนกวินมาเดินอวดความน่ารักตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น เพราะเพนกวินที่นี่มีถึง 3 สายพันธุ์ คือ King Penguin Gentoo Penguin และ Cape Penguin สำหรับสองสายพันธุ์แรกนั้นชอบอากาศหนาว ส่วนสายพันธุ์สุดท้ายชอบอากาศร้อน ที่นี่เราจึงสามารถชมการเดินพาเหรดของเพนกวินได้ตลอดปีเลย

“ตะลอนเที่ยว” และนักท่องเที่ยวมากมายยืนรอชมเจ้าเพนกวินท่ามกลางหิมะ ไม่นานเพนกวินน้อยใหญ่ก็เดินเตาะแตะๆ อย่างเริงร่ามาตามเส้นทางที่กั้นเชือกไว้ เงยหน้ามองผู้ชมและกางปีกรับหิมะอย่างน่ารัก ฝูงชนรอบข้างต่างรัวชัตเตอร์กันเป็นการใหญ่ ส่วนเด็กๆ นั้นก็ชอบใจร้องเรียกเพนกวินกันสนุกสนาน ไม่ว่าใครที่ได้มาเห็นก็ต้องตกหลุมรักเจ้าเพนกวินท่าทางตลกเหล่านี้กันทุกคน
โชว์โลมา
ชมพาเหรดเพนกวินเสร็จแล้วก็มีโชว์ต่อเนื่องอีก 3 อย่างคือ “การแสดงโลมา” อันนี้อาจจะคล้ายๆ ที่บ้านเราที่เป็นการให้โลมากระโดดขึ้นโชว์และแสดงการว่ายน้ำด้วยหางอันแข็งแกร่ง “การแสดงโชว์แมวน้ำ” ที่มีแมวน้ำหน้าตาแป้นแล้นมาโชว์ความสามารถและความน่ารัก แถมยังส่งยิ้มแจกผู้ชมได้อย่างน่ารักน่าชัง และ “การโชว์ปลาซาร์ดีน” ที่สวยงามมากด้วยนิสัยของปลาซาร์ดีนที่จะว่ายรวมกันเป็นฝูงใหญ่ เมื่อปลาซาร์ดีนนับหมื่นตัวมาว่ายวนอยู่ในแทงค์กระจกประกอบกับแสงไฟและเสียงเพลงที่เปิดประกอบการว่ายนั้น ทำให้โชว์ปลาซาร์ดีนนี้น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
คริสตัล ทาวเวอร์และปลามากมาย
กระเช้าขึ้นไปชมฟาร์มหมี
สัตว์น่าสนใจของโนโบริเบทสึยังไม่หมดเท่านี้ มาชมกันต่ออีกแห่งหนึ่งที่ “ฟาร์มหมีโนโบริเบทสึ” (Noboribetsu Bear Park) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ต้องนั่งกระเช้าขึ้นมาชม หมีสีน้ำตาลถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอกไกโด โดยชาวไอนุซึ่งเป็นชนพื้นเมืองบนเกาะฮอกไกโดต่างนับถือบูชาหมีสีน้ำตาลเหล่านี้ว่าเป็นสัตว์เทพเจ้า หมีเหล่านี้ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนต้องมีการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ขึ้นที่ฟาร์มแห่งนี้
หมีตัวผู้นั่งสบายอารมณ์บนหิมะ
ฟาร์มหมีที่นี่แบ่งเป็นฟาร์มหมีตัวผู้ หมีตัวเมีย ที่ล้วนแต่อ้วนท้วนสมบูรณ์ นอนเล่นบนหิมะอย่างเพลิดเพลินใจ เราสามารถซื้ออาหารและโยนให้หมีเหล่านี้กินได้ ซึ่งแต่ละตัวก็มีลีลาการโบกไม้โบกมือขออาหารที่เก๋ไก๋ไม่น้อย สร้างความขบขันให้แก่นักท่องเที่ยวจนต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
ลีลาการโบกมือขออาหาร
มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ เกี่ยวกับหมีสีน้ำตาลให้ชมด้วย
นินจามาคอยต้อนรับหน้าหมู่บ้าน
มาปิดท้ายแหล่งท่องเที่ยวในเมืองโนโบริเบทสึกันที่ “หมู่บ้านนินจา โนโบริเบทสึ ดาเตะ จิไดมุระ” (Noboribetsu Date Jidaimura) ธีมพาร์คแนวประวัติศาสตร์ที่จำลองเอาเมืองในสมัยเอโดะ (ยุคเก่าของประเทศญี่ปุ่น) รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ ในสมัยนั้นมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม ภายในจัดทำเป็นบ้านเมืองในสมัยเอโดะ มีย่านร้านค้าที่มีข้าวของที่ระลึกให้เลือกซื้อได้จริง เราสามารถเช่าชุดกิโมโน ชุดซามูไร ชุดท่านโชกุน ไปจนถึงชุดนินจาใส่ถ่ายรูป หรือจะใส่เดินเล่นในหมู่บ้านเลยก็ยังได้
บรรยากาศภายในหมู่บ้านนินจา
นอกจากนั้นก็ยังมีการจำลองบ้านของนินจา และบ้านเรือนของคนญี่ปุ่นในสมัยโบราณพร้อมทั้งหุ่นจำลองการใช้ชีวิตของคนยุคนั้นให้เราดูกันอีกด้วย เรียกว่าเดินถ่ายรูปกันเพลินเลยเชียว และขอแนะนำให้ไปชมโชว์นินจาที่เป็นละครสั้นๆ ให้เราได้เห็นลีลาการต่อสู้ของนินจา รวมถึงบ้านนินจาที่เต็มไปด้วยกลไกมากมายแห่งนี้ ไม่ต้องห่วงว่าจะดูไม่รู้เรื่องเพราะเขามีเนื้อเรื่องย่อภาษาไทยให้ได้อ่านกันก่อนเข้าชม แถมยังแจกแผ่นกระดาษเล็กๆ ให้เราคนละแผ่นไว้ให้ห่อเศษเหรียญสตางค์ หากดูโชว์จบแล้วถูกใจอยากให้ทิปนักแสดงก็โยนเหรียญที่ห่อกระดาษนั้นขึ้นไปบนเวทีได้เลย คนสมัยเอโดะเขาทำวิธีนี้กันเวลาดูละคร
ย่านร้านค้าที่มีของที่ระลึกและขนมต่างๆ ขาย
หุ่นแสดงให้เห็นถึงชีวิตชาวญี่ปุ่นสมัยเอโดะ
สำหรับ “ตะลอนเที่ยว” แล้ว โนโบริเบทสึถือเป็นเมืองน่ารักอีกแห่งหนึ่งของฮอกไกโดที่ขอแนะนำให้ใส่ไว้ในโปรแกรมทัวร์ มาพักค้างคืนแช่ออนเซ็นกันสักหนึ่งคืนและท่องเที่ยวสบายๆ ไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำมานี้ ขอบอกว่าต้องตกหลุมรักเมืองนี้แน่ๆ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ผู้ที่สนใจอยากไปเที่ยวฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้ที่ http://soodyod-hokkaido.jp/

* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น