ฮอยอัน อดีตเมืองท่าเล็กๆ ตั้งอยู่ทางภาคกลาง ของจังหวัดกวางนาม ของเวียดนาม มีพลเมืองประมาณ 80,000 คน เมืองที่เงียบสงบ แฝงด้วยเสน่ห์ของมรดกวัฒนธรรมเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมเก่า ตึกเก่าสีเหลืองสวยสไตล์โคโลเนียลที่อนุรักษ์เอาไว้ให้คงเอกลักษณ์ดังเช่นอดีต ผสมผสานกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายชาวเมืองฮอยอัน
แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 300 ปี ก็ไม่ทำให้เมืองเก่า ฮอยอัน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กร UNESCO ในปี พ.ศ.2542 (ค.ศ.1999) ซึ่งฮอยอันได้เก็บรักษาความมีเสน่ห์นี้ไว้ได้ นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันการเดินทางมาเที่ยวฮอยอันนั้นสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยเครื่องบินทั้ง 2 สายการบิน คือ บางกอกแอร์เวย์ และเวียดนามแอร์ไลน์ ซึ่งบินตรงจากกรุงเทพฯ ลงที่เมืองดานัง ใช้เวลาบินเพียง 1.20 ชม. จากนั้นนั่งรถยนต์มาที่ฮอยอัน ที่อยู่ห่างไปเพียงสามสิบกิโลเมตร
อีกเส้นทางหนึ่งคือทางรถยนต์ จากไทยสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทางคือ จากมุกดาหาร-สะหวันนะเขต-ลาวบ่าว หรือเส้นทางอุบลราชธานี – ปากเซ – เซกอง – กว่างนาม โดยใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง
ในอดีตฮอยอัน เป็นเมืองท่าเก่า ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของภูมิภาค โดยมีแม่น้ำทูโบน เป็นแม่น้ำสายหลัก ที่ทำการค้าขายจากดินแดนไกลโพ้นมาสู่เวียดนาม และนั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของเมืองมรดกโลกรูปแอ่งกระทะ ที่หลอมรวมเอกลักษณ์ชนชาติต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และเวียดนาม ส่งให้ฮอยอัน เป็นเมืองที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะทางด้าน สถาปัตยกรรม ศาสนา อาหารการกิน ส่งผลสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน และได้สืบทอดมาให้เห็นจนถึงทุกวันนี้
เมืองประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิม ทั้งวิถีชีวิต ร้านอาหารด้วยโต๊ะเก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ริมทาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม ที่เรียกว่า “เฝอ” หรือ หมูปิ้งควันขโมง ส่งกลิ่นยั่วยวน ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมือง มีให้เห็นสองข้างทางเป็นที่นิยมของชาวเมืองทั่วไป และนักท่องเที่ยว
ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ ยานพาหนะหลักที่ใช้ในการสัญจรของชาวฮอยอันวิ่งขวักไขว่ พร้อมเสียงแตรดัง ตลอดเวลาที่วิ่งผ่าน เพื่อบอกผู้คนให้หลีกทาง และจักรยานสองล้อ ที่ชาวฮอยอัน นิยมใช้ในการสัญจรในชีวิตประจำวัน ไม่มีรถโดยสารประจำทาง ขณะที่รถยนต์ส่วนตัวแทบไม่ค่อยเห็น จากสภาพถนนเดิมๆ ที่เล็ก เพียงแค่รถสวนกัน การใช้มอเตอร์ไซค์จึงเหมาะสมกว่า
ทางม้าลาย หรือ สัญญานไฟไม่ปรากฏ ทุกคนสวมใส่หมวกกันน็อกทั้งคนขับและคนซ้อน ซึ่งถือเป็นวิถีปฏิบัติจนเป็นความเคยชิน
ฮอยอัน ไม่มีร้านสะดวกซื้ออย่างบ้านเรา จะมีเพียงร้านขายของชำเล็กๆ ของชาวบ้าน ทั้งนี้ เป็นนโยบายของภาครัฐ ที่ต้องการส่งเสริม ให้ชาวฮอยอันเป็นเจ้าของกิจการด้วยตัวเอง
ช่วงเทศกาลตรุษจีนของชาวฮอยอันที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับตรุษจีนของไทยกระแสความคึกคักได้เกิดขึ้นกับเมืองเก่าฮอยอัน โดยได้รับการเนรมิตให้สว่างไสวทั่วเมือง กับการจัดงาน “ Hoi An Light Festival 2017” ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Shades of Hoi An' โดยสำนักงานวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยว จังหวัดกว่างนาม ประเทศเวียดนาม (The Department of Culture, Sports and Tourism of Quang Nam province) บริษัท เวียดนามเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจจำกัด (มหาชน) ได้บันทึกข้อตกลงร่วมมือ หรือ (MOU) เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของเมืองฮอยอัน (Hoi An) และจังหวัดกว่างนาม โดยความร่วมมือดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างเอกชนไทย และภาครัฐของประเทศเวียดนาม เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ในปี 2559
การจัดงานครั้งนี้ปิดฉากลงอย่างงดงาม เทศกาล แสง สี เสียง ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของฮอยอัน ในช่วงเวลาตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นการประเดิมสร้างกระแสความคึกคักให้ทั้งชาวฮอยอัน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะการแสดงแสง สี เสียง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของเมืองฮอยอัน บนฉากกำแพงใหญ่ ติดกับสะพานญี่ปุ่นอันเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ เพียงระยะเวลาประมาณ 15 นาที ของการแสดงนี้ สามารถถ่ายทอดเรื่องราว และเอกลัษณ์ของเมืองเก่าฮอยอันได้เป็นอย่างดี และถือเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามางานนี้
สะพานญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ สถาปัตยกรรมที่มีความเก่าแก่ โดยมีอายุเกือบสามร้อยปี และเป็นอีกหนึ่งสถานที่บอกเล่าเรื่องราว และร่องรอยของประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองฮอยอันของชนชาติต่างๆ ที่เข้ามาค้าขายในสมัยนั้น
การปลุกเมืองประวัติศาสตร์ให้มีสีสัน มีชีวิตชีวา ในยามค่ำคืนตามถนนทุกสาย ยังคงความเป็นตึกเก่าสีเหลืองนวล แม้จะมีการปรับสภาพเป็นร้านรวงต่างๆ แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความคลาสิค และความเป็นเมืองเก่าไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ เครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก ที่มีสินค้าสารพัด อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า ไม้แกะสลัก หน้ากาก ภาพเขียน ของเก่า โปสการ์ด งานศิลปะ งานฝีมือ งานแฮนด์เมด และโคมไฟของฝากสัญลักษณ์เมืองฮอยอัน ซึ่งเห็นได้จากงานเทศกาลนี้
และทำให้ฮอยอัน เมืองที่ไม่เคยรถติดมาก่อน เกิดพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองฮอยอันในช่วงวันหยุดยาวได้เป็นอย่างดี
เป็นการนำเอาความทันสมัยของเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสานให้สอดคล้อง ความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ได้อย่างกลมกลืน และได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งคนเมืองและนักท่องเที่ยว โดยเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน และในบางวันมีมากกว่า 20,000 คน
ถือเป็นผลสำเร็จของภาครัฐและเอกชน และเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยว และการร่วมมือทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างไทย และเวียดนาม
ฮอยอัน เมืองเล็กๆในจังหวัดกว่างนาม นอกจากเป็นเมืองเก่าที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกแล้ว กวางนามยังมี โบราณสถานที่ได้รับการยกย่อง เป็นมรดกโลกทางอารยธรรมอีกหนึ่งแห่ง อยู่ห่างจากฮอยอันไปเพียง 40 กิโลเมตร นั่นคือ ปราสาทหมีเซิน (My Son) นครศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรจามปา ที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 - ศตวรรษที่ 15 ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานเกือบพันปี
โบราณสถานหมีซัน ที่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบต่ำ มีภูเขาเป็นหลังพิง และเป็นที่รวบรวมลักษณะทางด้านศิลปกรรมที่หลากหลาย จัดเป็นกลุ่มโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีน ร่องรอยความงดงามทางประวัติศาสตร์ยังคงอยู่ แม้บางส่วนจะถูกระเบิดทำลายในสมัยสงครามเวียดนามก็ตาม
นอกจากนี้กว่างนาม ยังมีบ่อน้ำร้อนที่มีความร้อนถึงประมาณ 800 องศา และอีกสิ่งที่น่าสนใจคือสัตว์ป่าที่ค้นพบใหม่ๆ โดยยูเนสโก ได้ให้เงินทำวิจัยในขณะนี้
อีกหนึ่งสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่กวางนามคือ อนุสาวรีย์แม่ผู้เสียสละ (Me Thu Monument) ที่เมืองTam Ky เมืองหลวงของกว่างนาม เป็นตัวอย่างแม่ที่ได้รับยกย่อง ยอมสละลูกชายทั้งครอบครัว 8 คน ไปต่อสู้ในสงครามเวียตนาม รบชนะจักรพรรดินิยมอเมริกาได้สำเร็จ
กว่างนามเป็นจังหวัดที่อยู่ในภูมิทัศน์ที่ดี มีทั้งภูเขาที่เป็นพื้นที่ป่าถึง 80% มีน้ำไหลตลอดปี ทะเลสวยงาม และความเก่าแก่ของอารยธรรม ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานหรือบ้านเมืองเก่า ตลอดถึงวิถีชีวิตผู้คนที่ยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
กว่างนาม จึงเป็นหนึ่งจังหวัด ที่กำลังบูมด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 4.4 ล้านคนต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.3 ล้านคน ในขณะที่กว่างนาม ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 5 ล้านคนในปี 2017
จากดานัง เมืองริมทะเล น้ำยังคงใส เมืองที่สวยงามที่กำลังพัฒนาให้ทันสมัย และกำลังจะยกตัวขึ้นเป็นนคร เพียงความห่างแค่ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 20 กว่านาที ก็จะได้พบเมืองฮอยอัน เมืองท่าเก่าแก่เกือบ 300 ปี และทุ่งนาเขียวขจี ตลอดสองข้างทาง ยากที่จะหาบรรยากาศสะอาดบริสุทธิที่ไหนเสมอเหมือน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com