ความสวยงามของประปรางค์วัดอรุณฯ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยามที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ช่างเป็นภาพที่งดงามมีเสน่ห์ และมีความโรแมนติกเสียเหลือเกิน ที่ “ตระเวนกิน” เอ่ยเช่นนี้ก็เพราะว่า เรากำลังอินกับบรรยากาศเช่นนี้อยู่ เมื่อได้พาตัวเองมานั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารชื่อว่า “The Deck by the River”
บรรยากาศของร้าน “The Deck by the River” ต้องบอกว่าสวยงามและรื่นรมย์เป็นอย่างมาก ภายในร้านมีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลายโซน โซนแรกเป็นโต๊ะนั่งริมแม่น้ำชั้นล่าง พาใจให้มานั่งรับลมแม่น้ำเย็นสบายๆ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเพลิดเพลินจำเริญใจ โดยมีโต๊ะนั่งริมแม่น้ำให้ได้มองเห็นวิววัดอรุณฯ และชื่นชมกับสายน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด และยังมีโซนห้องแอร์ ที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ชวนนั่งในบรรยากาศอบอุ่นสบายๆ เห็นวิวประปรางค์วัดอรุณฯ ผ่านกระจกใสบานใหญ่
หรือจะเลือกนั่งที่โต๊ะชั้น 2 ที่จัดโต๊ะให้เลือกนั่งแบบเปิดโล่งรับลมเย็นสบายๆ มองเห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้เช่นกัน แล้วก็ยังมีส่วนของห้องแอร์เช่นเดียวกัน และที่ชั้น 3 เป็นส่วนของโต๊ะนั่งที่มีความเป็นส่วนตัวสักนิด มีห้องไวน์ให้บริการด้วย หรือจะเดินขึ้นไปชั้น 4 ซึ่งเป็นที่ตั้ง “Amorosa” เป็นบาร์แบบเปิดโล่งที่ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของร้าน ที่สามารถมานั่งดื่ม-กิน แบบชิลๆ ตรงข้ามมีวิวพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่สวยงามให้ได้ชื่นชน
นี่แค่บรรยากาศร้านที่ชวนให้นั่งกินข้าวแบบเพลินเพลิด ส่วนเรื่องอาหารของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้บรรยากาศ ทางร้านนำเสนออาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทั้งอาหารไทย อาหารยุโรป และอาหารฟิวชั่นสูตรเด็ดที่ทางร้านสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ ให้เหล่านักกินได้เลือกสั่งมาลองลิ้มกันอย่างอิ่มหนำสำราญใจ
มื้อนี้เลยขอจัดเต็มด้วยการเลือกสั่งเมนูจานเด่นของที่นี่มาชิมกันหลายเมนู เริ่มจากลิ้มรสอาหารไทยจานเด็ดกันก่อน ที่สั่งมาก็มี พล่ากุ้งแม่น้ำ (360 บาท++) กุ้งแม่น้ำสดๆ ตัวโตกำลังดี นำไปย่างให้สุกได้ที่ แล้วราดด้วยน้ำยำเครื่องพล่าครบเครื่องสมุนไพรไทย แถมยังเพิ่มความหวานจากผลไม้ด้วยการใส่เนื้อลิ้นจี่ลงไปด้วย ชิมแล้วถูกปากโดนใจ ตรงที่เนื้อกุ้งเด้งเคี้ยวนุ่มหวานสด ชุ่มรสชาติเครื่องพล่ากลมกล่อมออกเปรี้ยวนำ หวานตาม เผ็ดลิ้นนิดหน่อย
เมนูต่อมาชวนชิม แกงเขียวหวานกุ้งแม่น้ำ (290 บาท++) เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกลิ่นเครื่องแกงยั่วน้ำลาย ซึ่งทางร้านโขลกเครื่องแกงเขียวหวานเอง นำมาแกงใส่กะทิคั้นสด ใส่กุ้งแม่น้ำสดๆ ตัวโตเนื้อแน่น ซดน้ำแกงร้อนๆ มีความเข้มข้นมันกะทิกำลังดี รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องแกงดีแท้ กินกับข้าวสวยร้อนๆ เหมาะเจาะลงตัว
แล้วมาลิ้มรส ปูนิ่มทอดกระเทียม (280 บาท++) ทางร้านนำปูนิ่มทั้งตัวไปคลุกกับแป้งแล้วทอดจนเหลืองกรอบ ปรุงรสกับกระเทียมสดที่เอามาเจียวจนเหลืองหอม กินปูนิ่มกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวเพลินปากกับกระเทียมเจียวกรอบกรุบหอมๆ กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบเด็ดโดนใจ
จากอาหารไทยมาชิมอาหารยุโรปกัน ที่เลือกสั่งมากินมี Trio Ravioli (400 บาท++) เมนูอิตาเลียนจานเด็ดสีสันชวนกิน เป็นแป้งราวิโอลี่โฮมเมด แล้วก็มีไส้ให้เลือกถึง 3 รสชาติ คือ ไส้ตับห่าน (สีเหลือง) ไส้เห็ดทรัฟเฟิล (สีเขียว) ไส้กุ้งลายเสือกับริคอตต้าชีสผัดปรุงรสรวมกัน (สีแดง) แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศสูตรเด็ด เคียงด้วยร็อกเก็ตสลัด ลิ้มรสราวิโอลี่แป้งหนานุ่มไส้แต่ละอย่างรสชาติดีกลมกล่อมปาก เข้ากับซอสมะเขือเทศรสเข้มข้น
จานถัดมาลองลิ้ม Roasted Salmon (480 บาท++) เป็นสเต๊กปลาแซลมอนชิ้นใหญ่ ทางร้านนำเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโตหมักกับเครื่องปรุงรสสูตรเฉพาะแล้วอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับมีซอสหญ้าฝรั่นที่ผัดกับหอยแลงภู่ราดมาบนชิ้นปลา เคียงด้วย มันฝรั่งทอดและผักย่าง แล่ชิ้นปลาแซลมอนส่งเข้าปากเคี้ยวคำโต เนื้อปลาแน่นนุ่มสดมีรสชาติเครื่องหมักที่ซึมถึงเนื้อปลา กินเข้ากันดีกับซอสรสกลมกล่อมถูกปากดีจริง
แล้วมาล้างปากกับของหวานจานเด่นอย่าง Millefeuille Strawberries (220 บาท++) หน้าตาสีนสันชวนกินมาก เป็นมาสคาโปนชีสสลับชั้น 3 ชั้นกับสตรอเบอร์รี่สด ตกแต่งจานด้วยซอสสตรอเบอร์รี่หอมหวาน กินของแล้วถูกใจหวานฉ่ำปากกับสตรอเบอร์รี่เข้ากับมาสคาโปนชีสรสเยี่ยม
นอกจากอาหารคาว-หวาน ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มที่ชวนสั่งมาดื่มคู่กับอาหารรสดี ที่ได้ชิมจนติดใจก็มี Sea Breeze (140 บาท++) ม็อกเทลสีฟ้าสวย เป็นเครื่องดื่มเย็นๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำลิ้นจี่ สไปรท์ และบลูเกรนาดีน ทอปด้วยโซดา ดื่มแล้วหอมกลิ่นลิ้นจี่หวานซ่าชื่นใจ
ม็อกเทลอีกแก้วที่ชวนดื่ม คือ Arun Lemonade (140 บาท++) เป็นน้ำสับปะรด ใส่โซดา ไซรัป และใส่ใบมินทต์ ตกแต่งด้วยสับปะรดและมะนาว ดื่มเย็นๆ เปรี้ยวหวานซ่าสดชื่นดีแท้
ที่แนะนำเมนูต่างๆ มานี้เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีรายการอาหารอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีกมากมาย อาทิ หมูย่างตะไคร้ (220 บาท++) แกงกะหรี่ไก่ (350 บาท++) ปลากะพงแดงย่าง (410 บาท++) Risotto Seafood (420 บาท++) และอีกหลากหลายทั้งอาหารไทยและอาหารยุโรป ที่ชวนให้สั่งมากินแบบอิ่มเอม และเพลิดใจไปกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม พากันมาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความอิ่มสุขอย่างนี้กันได้ที่ร้าน “The Deck By The River”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“The Deck By The River” ตั้งอยู่ที่ 36-38 ซอยประตูนกยูง ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. การเดินทางจากถนนพระจันทร์ (ท่าพระจันทร์) ให้ตรงมาที่ถนนมหาราช ตรงมาจนถึงวัดโพธิ์ จะเห็นซอยประตูนกยูงอยู่ตรงข้ามกับวัดโพธิ์ ให้เลี้ยวเข้าซอยประตูนกยูงตรงมาจนสุดซอยจะเจอโรงแรมอรุณเรสซิเดนท์ตั้งอยู่ ก็จะเห็นร้าน“The Deck By The River” มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 11.00 - 22.00 น. ศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 23.00 น. บริการอาหารเช้า เวลา 07.30 - 10.00 น. โทร. 0-2 221-9158 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.arunresidence.com และ www.facebook.com/Arunresidencehote
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
