xs
xsm
sm
md
lg

“ราชบุรี” ชุมชนคนอาร์ต ห้ามพลาด “ตลาดน้ำ-ตลาดบก”...เที่ยวเก๋ไก๋“ฟาร์ม-ไร่” สัมผัสวิถีเกษตรสุดฟิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศน่ารักในตลาดน้ำหลัก 5
เพราะการเดินทางท่องเที่ยว เป็นมากกว่าการไปพักผ่อนหย่อนใจ...แต่คือการออกไปเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”(ททท.) ทราบดีถึงความจริงข้อนี้ จึงได้ออกแคมเปญเก๋ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ออกไป “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ที่ไม่ใช่เพียงการไปชมความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกับเอกลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อให้พบกับประสบการณ์ตรงที่จะสร้างความประทับใจอย่างไม่รู้ลืม

สำหรับในทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” เลือกมาเยือนที่ “ราชบุรี” ซึ่งเป็น 1 ใน 12 จังหวัดที่ ททท. ยกให้เป็น “เมืองต้องห้าม...พลาด” ซึ่งเป็นเมืองที่คัดมาแล้วว่ามีศักยภาพ มีจุดเด่น ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว
โรงงานโอ่งเถ้าฮงไถ่สีสันสดใส
สำหรับราชบุรีนั้น เป็นเมืองต้องห้าม...พลาด ภายใต้ธีม “ชุมชนคนอาร์ต” เนื่องจากเป็นเมืองที่มี “ศิลป์” สอดแทรกอยู่ในวิถีชีวิตและแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นงานพุทธศิลป์ ศิลปะร่วมสมัย ศิลปะไทยประเพณี ซึ่งเมื่อผนวกกับแหล่งท่องเที่ยวของราชบุรีที่มีอยู่หลากหลาย ก็ยิ่งทำให้เมืองนี้เป็นเมืองน่าเที่ยวไม่น้อย

เมืองโอ่ง เมืองอาร์ต “ราชบุรี”

ราชบุรีได้ชื่อว่าเป็น “เมืองโอ่ง” เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตโอ่งมังกรอันขึ้นชื่อ ทุกวันนี้แม้ความนิยมในการใช้โอ่งจะลดลง แต่โรงงานโอ่งได้เปลี่ยนรูปแบบนอกจากการผลิตเพียงอย่างเดียวให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว เช่นที่ “โรงงานเถ้าฮงไถ่” (ต.เจดีย์หัก อ.เมือง) หนึ่งในโรงงานทำโอ่งเก่าแก่ที่ได้ปรับผลิตภัณฑ์ให้มีรูปแบบที่ทันสมัยและเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาชมวิธีการผลิตถึงในโรงงาน
โชว์การทำโอ่งมังกร
หอศิลป์ดีคุ้น
นอกจากโรงงานโอ่งแล้ว เถ้าฮงไถ่ยังจัดทำหอศิลป์ร่วมสมัย “เถ้าฮงไถ่ ดีคุ้น” (ต.หน้าเมือง อ.เมือง) อยู่ภายในบ้านโบราณทรงมะนิลา 3 ชั้น ริมแม่น้ำแม่กลอง ด้านในจัดเป็นแกลอรี่แสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินที่สลับสับเปลี่ยนมาจัดแสดงให้ชมกัน ส่วนในซอยข้างๆ หอศิลป์ยังมีผลงานสตรีทอาร์ทเก๋ๆ วาดบนตัวอาคารให้ถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วย

และที่อยู่ติดกันกับหอศิลป์ดีคุ้นก็คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี” (ต.หน้าเมือง อ.เมือง) สถานที่เก็บผลงานศิลป์อันล้ำค่าที่เป็นทั้งมรดกของชาติและราชบุรี ตัวอาคารสีชมพูของพิพิธภัณฑ์นี้เดิมเคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัด ก่อนจะบูรณะเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างในปัจจุบัน
ผลงานสตรีทอาร์ทบนตึกแถวข้างหอศิลป์ดีคุ้น
การแสดงหนังใหญ่วัดขนอน
อีกหนึ่งงานศิลป์อันน่าภาคภูมิใจของราชบุรีที่พลาดชมไม่ได้ก็คือ “หนังใหญ่วัดขนอน” (วัดขนอน อ.โพธาราม) ซึ่งเป็นการแสดงที่รวมเอาศิลปะหลายแขนงเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การแกะสลักแผ่นหนังสัตว์ให้เป็นรูปตัวละครต่างๆ ด้วยลวดลายไทยเชิงจิตรกรรม (ส่วนมากเป็นตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์) มาผนวกกับนาฏศิลป์และคีตศิลป์ คนเชิดหนังจะเคลื่อนไหวพาตัวหนังออกท่าทางไปตามเนื้อเรื่อง พร้อมทั้งมีบทเจรจาและดนตรี เกิดเป็นเรื่องราวอันเพลิดเพลินน่าชม

ใครอยากชมการแสดงหนังใหญ่ต้องมาชมที่วัดขนอนเฉพาะในวันเสาร์ เวลา 10.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. เท่านั้น และอย่าลืมเข้าไปชม “พิพิธภัณฑ์สถานแสดงนิทรรศการหนังใหญ่” ภายในบริเวณวัดซึ่งจัดแสดงตัวหนังใหญ่เก่าแก่ที่แกะสลักอย่างวิจิตรหลายสิบชิ้น
จิตรกรรมฝาผนังงดงามในวัดคงคาราม
ส่วนคนที่ชื่นชอบงานพุทธศิลป์ ต้องมาที่ “วัดคงคาราม” (ต.คลองตาคต อ.โพธาราม) ที่ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังชิ้นเอกของเมืองไทยวาดโดยช่างในสมัย ร.3 และยังสมบูรณ์อยู่มาก ภาพจิตรกรรมเป็นเรื่องราวพุทธประวัติอันงดงาม และมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ วัตถุโบราณสำคัญๆ อีกหลายชิ้น
สัมผัสวิถีชาวน้ำในตลาดน้ำดำเนินสะดวก
นานาตลาดน้ำน่ายล

ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีการขุด “คลองดำเนินสะดวก” ให้เป็นเส้นทางสัญจรระหว่างแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำแม่กลอง ช่วง จ.สมุทรสาคร มายัง จ.ราชบุรี และยังทำให้เกิดคลองซอยสายเล็กสายน้อยแตกแขนงออกไปอีกนับร้อยสาย คลองดำเนินสะดวกและคลองซอยเหล่านี้เป็นที่มาของตลาดน้ำหลากหลายแห่งในราชบุรี โดยตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ “ตลาดน้ำดำเนินสะดวก” (อ.ดำเนินสะดวก) ซึ่งแต่ดั้งเดิมนั้นขายกันอยู่ที่บริเวณปากคลองลัดราชบุรี (คลองลัดพลี) ที่แยกไปจากคลองดำเนินสะดวก หรือบริเวณที่เรียกว่า “ตลาดเหล่าตั๊กลัก” (ตลาดเก่า) ในปัจจุบัน

แต่เดิมบริเวณนี้มีการค้าขายด้วยเรือพายกันอย่างคึกคัก บ้านเรือนริมน้ำนั้นเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและเปิดเป็นร้านค้าขายของด้วยเช่นกัน แต่หลังจากมีถนนตัดผ่าน ตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้ขยายตัวมาอยู่บริเวณคลองต้นเข็ม ซึ่งเป็นคลองแยกคนละฝั่งกับคลองลัดพลี และกลายเป็นตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่รู้จักกันในปัจจุบัน

ทั้งตลาดน้ำดำเนินสะดวกและตลาดเหล่าตั๊กลักนั้นเราสามารถเดินเท้าชมบรรยากาศของเรือพายขายของ ชมคลอง และชมเรือนแถวไม้ริมน้ำน่ารักได้อย่างสะดวก นอกจากการเดินเที่ยวแล้ว วันนี้ “ตะลอนเที่ยว” ได้ลองนั่งเรือเที่ยวคลองด้วย ซึ่งก็ได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับตลาดน้ำมากขึ้น ได้ตื่นตากับเรือพายขายของที่พายเบียดกันอย่างน่าตื่นเต้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะได้สัมผัสกับวิถีชาวคลองได้เป็นอย่างดี
เรือพายคึกคักในตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ของกินหลากหลายในบรรยากาศริมน้ำที่ตลาดน้ำดำเนินฯ
ตลาดเหล่าตั๊กลัก
อีกหนึ่งตลาดน้ำในคลองดำเนินสะดวกที่ขอบอกว่าห้ามพลาด คือ “ตลาดน้ำหลักห้า” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอยต่อสองจังหวัด คือ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ตลาดแห่งนี้เป็นชุมชนริมน้ำเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานเกือบ 150 ปี เดิมเป็นจุดนัดพบของเรือขายสินค้าจำนวนมาก ปัจจุบันชาวชุมชนร่วมกันฟื้นฟูให้ตลาดน้ำหลักห้ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “ตะลอนเที่ยว” มาลองชมแล้วพบว่าบรรยากาศที่นี่น่าเดินเล่นอยู่มาก บ้านเรือนริมน้ำหลายๆ หลังยังเปิดเป็นร้านค้าขายของ บางบ้านเก็บเอาข้าวของเครื่องใช้และภาพถ่ายเก่าๆ ของชุมชนไว้ก็เอามาชี้ชวนให้นักท่องเที่ยวได้ชม และเรายังสามารถเข้าไปกราบสักการะองค์หลวงพ่อไตรรัตน์โรจน์ฤทธิ์ ที่วัดปราสาทสิทธิ์อันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในแถบนี้ได้อีกด้วย
อุดหนุนเรือพายขายขนมอร่อยที่ตลาดน้ำหลัก 5
บรรยากาศริมน้ำที่ตลาดน้ำหลักห้า อันอยู่บนรอยต่อของ จ.ราชบุรี และ จ.สมุทรสาคร
บรรยากาศในตลาดโพธาราม
เดินเล่นตลาดโบราณมากเสน่ห์

ไม่เพียงตลาดน้ำเท่านั้นที่เป็นเสน่ห์ของเมืองราชบุรี แต่ตลาดบก-ตลาดโบราณของราชบุรี ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เริ่มจาก “ตลาดโพธาราม” (อ.โพธาราม) ตลาดเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ปัจจุบันยังมีเรือนไม้เก่าแก่งดงามให้ชมอยู่หลายหลัง บริเวณ “ตลาดบน” เป็นที่ตั้งของชมรมอย่าลืมโพธาราม และมี “วิกครูทวี” โรงภาพยนตร์เก่าแก่ประจำเมืองที่แสดงถึงความเป็นชุมชนที่คึกคักในอดีต
เต้าหู้ดำ อาหารที่ต้องห้ามพลาดชิมในตลาดโพธาราม
มาเยือนตลาดโพธารามแล้วอย่าลืมมาชิม “เต้าหู้ดำ” อาหารขึ้นชื่อที่ทาง ททท. ได้คัดเลือกให้เป็นเมนูชูโรงของราชบุรีในโครงการ “อาหารถิ่น ตะลุยกินทั่วไทย” ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองกินของดีเมนูเด็ดในจังหวัดต่างๆ ที่เดินทางไปเยือน สำหรับเต้าหู้ดำต้นตำรับนั้นอยู่ในตลาดโพธาราม เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวจีนแต้จิ๋ว เป็นการนำเต้าหู้ไปต้มกับสมุนไพรจีนต่างๆ เป็นเวลานานถึง 3 วัน จนเต้าหู้กลายเป็นสีดำและรสชาติหวานเค็มเข้าเนื้อ เต้าหู้ดำนี้จะกินเปล่าๆ หรือจะนำไปปรุงเป็นเมนูอื่นๆ อย่างเต้าหู้ดำผัดกระเพรา สลัดเต้าหู้ดำ ฯลฯ ก็อร่อยไม่เหมือนใคร
บ้านไม้เก่าแก่ที่ตลาดเจ็ดเสมียน
“ตลาดเจ็ดเสมียน” (ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม) เป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าเล็กๆ ริมแม่น้ำแม่กลองที่มีชีวิตชีวา “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้มาเยือนตลาดเจ็ดเสมียนในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์สิ้นเดือน เพราะที่นี่จะมีการแสดงศิลปะร่วมสมัยโดยมานพ มีจำรัส ศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง ศิษย์เอกของครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธน ที่จะมาโชว์การแสดงให้ชมกันที่บริเวณเวทีริมน้ำในช่วง 19.00 น.
วงเวียนหอนาฬิกาบ้านโป่ง
“ตลาดบ้านโป่ง” (อ.บ้านโป่ง) เป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญในอดีตเพราะเป็นชุมทางการค้าสำคัญริมแม่น้ำแม่กลอง ตลาดบ้านโป่งเคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งรุนแรงเมื่อปี 2497 และในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จไปเยี่ยมราษฎรชาวบ้านโป่งผู้ประสบภัยโดยไม่มีหมายกำหนดการ นอกจากนั้นพระองค์ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1 แสนบาท ยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรและยังอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านโป่งจนถึงทุกวันนี้
ตึกแถวร้านรวงในตลาดบ้านโป่ง
ตลาดโต้รุ่ง หรือตลาดสนามหญ้า ข้างหอนาฬิกาในเมืองราชบุรี
มาเที่ยวตลาดใน อ.เมือง กันบ้าง บนถนนวรเดช ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นย่านตลาดเก่าของเมืองราชบุรี มีชื่อจีนว่า “ตลาดเก่าโคยกี๊” (แปลว่าริมน้ำ) อีกทั้งบริเวณหอนาฬิกา ยังเป็นแหล่งรวมของอร่อยที่เรียกว่า “ตลาดสนามหญ้า” หรือบางคนเรียกตลาดโต้รุ่ง ตลาดหอนาฬิกา หรือตลาดราชพัสดุ แต่โดยรวมแล้วก็หมายถึงตลาดริมแม่น้ำแม่กลองที่ตั้งอยู่ข้างหอนาฬิกา ตลาดแห่งนี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ ภายในเป็นแหล่งรวมของอร่อยให้เราเลือกชิม อาทิ หอยทอด ผัดไทย บะหมี่เกี๊ยว ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ข้าวต้ม และขนมหวานอีกสารพัด ช่วงยามเย็นที่ตลาดแห่งนี้จึงคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาหาของอร่อยกินกัน
มีร้านอาหารให้เลือกมากมายในตลาดสนามหญ้า
กล้วยไม้ตระกูลช้างกำลังออกดอกสวยที่เดอะ บลูม ออร์คิด ปาร์ค
เกษตรสุขใจ เที่ยวฟาร์มเที่ยวไร่ในราชบุรี

พื้นที่ราบลุ่มของราชบุรี ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งทำการเกษตรแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของภาคกลาง และทำให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้น อาทิ “เดอะบลูมส์ ออร์คิด ปาร์ค” (อ.บางแพ) เป็นฟาร์มกล้วยไม้ส่งออก และยังเปิดเป็นอุทยานกล้วยไม้ที่สร้างขึ้นสำหรับคนรักกล้วยไม้โดยเฉพาะ ภายในอุทยานฯ จะมีตั้งแต่กล้วยไม้พันธุ์แท้ที่เติบโตตามธรรมชาติ และกล้วยไม้ลูกผสมสายพันธุ์ต่างๆ แต่ละชนิดก็มีสีสันและหน้าตาที่สวยงาม แถมยังมีกลิ่นหอมอีกต่างหาก และในแต่ละฤดูก็จะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนนำเอาดอกกล้วยไม้ที่บานในช่วงนั้นๆ มาจัดแสดง อย่างในช่วงหน้าร้อนนี้จะเป็นกล้วยไม้ตระกูลช้าง ช้างกระ ฯลฯ ออกดอกเล็กๆ น่ารัก เดินชมได้เพลินตาเพลินใจเป็นอย่างมาก
กล้วยไม้สีสันสดใส
สนุกสนานกับบรรยากาศของฟาร์มผลไม้ที่โคโร่ฟิลด์
“โคโร่ฟิลด์” (อ.สวนผึ้ง) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบเก๋ๆ ออกแบบให้เป็นฟาร์มแบบญี่ปุ่น ภายในแบ่งออกเป็นโซนกิจกรรมต่างๆ อาทิ โซน “Grow and Havetst” โซนปลูกพืชผักนานาชนิดที่นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรม “ปลูกและเก็บ” ตามชื่อโซนได้เลย อีกทั้งยังมีโรงเรือนปลูกเมลอนสายพันธุ์โทมิจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่มีเปลือกสีเหลืองทอง เนื้อในเป็นสีเขียวอ่อนหวานฉ่ำ อันเป็นผลไม้เด่นของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
ไร่ปลูกรัก แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์
“ไร่ปลูกรัก” (อ.บางแพ) ไร่แห่งนี้มีชื่อเสียงมานานในเรื่องของการเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับฟาร์มเกษตรอินทรีย์ (Organic farm) และได้เปิดฟาร์มให้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยว โดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับการทำเกษตรอินทรีย์อย่างปลอดภัย และยังได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับดิน น้ำ และการปลูกพืชผักแบบไร้สารพิษอีกด้วย
ครอบครัวมาเรียนรู้เรื่องเกษตรที่ไร่ปลูกรัก
เที่ยวราชบุรีแล้วอย่าลืมไปเที่ยวสุพรรณบุรีต่อ กับเมืองต้องห้าม...พลาด plus
“ราชบุรี-สุพรรณ” เชื่อมโยงสู่เมืองต้องห้าม...พลาด plus

หลังจากเที่ยวสนุกสนานกันในเมืองอาร์ตๆ อย่างราชบุรีแล้ว อย่าลืมที่จะเดินทางเชื่อมโยงไปยัง “สุพรรณบุรี” ที่เป็น “เมืองต้องห้าม...พลาด plus” ที่ทาง ททท. ได้ต่อยอดจากผลสำเร็จของโครงการเมืองต้องห้าม...พลาด เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวของ 12 จังหวัดเมืองรองที่อยู่ติดกันหรือใกล้กัน และมีจุดเด่นใกล้เคียงกัน ด้วยมุ่งหวังให้เกิดการเดินทางระหว่างจังหวัดและการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้สุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของศิลปะท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน วัดงามเก่าแก่อันอุดมไปด้วยเสน่ห์ของศิลปวัฒนธรรมน่ายล ลองเดินทางเชื่อมโยงโอ่งมังกรของราชบุรีเข้ากับอุทยานมังกรสวรรค์ของสุพรรณบุรี และตามไปชมแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายของเมืองสุพรรณฯ อาทิ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย หรือ นาเฮียใช้ ตลาดสามชุก บึงฉวาก และอีกหลากหลายแหล่งท่องเที่ยว ที่จะทำให้การเดินทางในครั้งนี้สมบูรณ์และน่าประทับใจยิ่งขึ้น

* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่กิน ที่พัก ใน จ.ราชบุรี ได้ที่ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี (ดูแลกาญจนบุรี, ราชบุรี) โทร.0 3451 1200, 0 3451 2500

* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น