กรมวิชาการเกษตรจัดงาน “รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ตามรอยที่พ่อสร้าง” ระหว่างวันที่ 13-20 มกราคม 2560 เวลา 07.00 - 15.00 น. ที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เพื่อสืบสานงานตามพระราชดำริด้านเกษตร พร้อมขยายผลงานวิจัยพืชสู่เกษตรกรใช้ได้จริง เปิดช่องทางสร้างอาชีพสร้างรายได้บนพื้นที่สูง พร้อมชวนชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย ซึ่งในช่วงนี้กำลังทยอยออกดอกเบ่งบาน และคาดว่าจะออกดอกเบ่งบานสวยงามเต็มที่ในช่วงปลาย ม.ค. นี้
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 13-20 มกราคม 2560 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จัดงาน “รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ตามรอยที่พ่อสร้าง” ขึ้น ณ. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ถึง 3 ครั้ง คือ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2523 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2525 และวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2527 โดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการบุกเบิกก่อตั้งระยะแรกผ่านโครงการหลวง เพื่อพัฒนาการเกษตรบนพื้นที่สูง เพื่อช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชาวไทยภูเขา ทั้งยังลดพื้นที่ปลูกฝิ่นรวมทั้งลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำและลดการทำไร่เลื่อนลอย ทำให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงมีอาหารบริโภคอย่างเพียงพอในชุมชน สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกันยังมุ่งแสดงผลการดำเนินงานของกรมวิชาการเกษตร ที่ได้สนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสู่สาธารณะชน เช่น การทดสอบพันธุ์พืชจากต่างประเทศ การขยายพันธุ์พืชที่ผ่านการทดสอบสู่เกษตรกร และการศึกษาระบบปลูกพืชอื่นๆ รองรับมูลนิธิโครงการหลวงในการวิจัยพืชเมืองหนาว เป็นต้น พร้อมจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืช เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม การจัดการก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิต ตลอดจนมุ่งขยายผลงานวิจัยด้านพืชไปสู่เกษตรกร ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จริงในระดับฟาร์ม เป็นช่องทางสร้างอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
นายสุวิทย์กล่าว อีกว่า ผู้ที่เข้าชมงานฯนี้จะได้เรียนรู้ประวัติการทรงงานด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช โดยกรมวิชาการเกษตรได้จัดทำเส้นทางตามรอยที่พ่อสร้าง ให้พสกนิกรได้ศึกษาเรียนรู้ 6 จุดหลัก ประกอบด้วย 1.ศาลาวิชาการและนิทรรศการผลงานวิจัยด้านพืชขยายผลสู่เกษตรกร 2.ศาลารถพระที่นั่ง 3.ต้นบ๊วยและมะคาเดเมียทรงปลูก 4.หุบรับเสด็จและพลับพลาทรงงาน5.แปลงกาแฟทรงทอดพระเนตรและโรงแปรรูปกาแฟ และ6.เส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน แปลงทดลองมะคาเดเมีย กาแฟ บ๊วย และศาลาชมวิว นอกจากนั้น เกษตรกร นักท่องเที่ยว และผู้สนใจเข้าร่วมชมงานฯยังจะได้สัมผัสบรรยากาศและอุณหภูมิที่หนาวเหน็บบนดอยขุนวาง และช่วงเวลาที่จัดงานดังกล่าว ต้นพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยบนดอยขุนวางยังออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งเต็มต้นรับนักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนด้วยจึงไม่ควรพลาด
“กรมวิชาการเกษตรได้สนองงานตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้ปรับปรุงพันธุ์พืชที่เหมาะสมสำหรับปลูกบนพื้นที่สูงและขยายผลไปสู่เกษตรกรในพื้นที่แล้ว อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำพูน ลำปาง พะเยา และน่าน ได้แก่ กาแฟอะราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80 มะคาเดเมียพันธุ์เชียงใหม่ 400 เชียงใหม่ 700 และพันธุ์เชียงใหม่ 1000 และบ๊วยพันธุ์บารมี 1 ทำให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงมีอาชีพและมีรายได้ที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น” นายสุวิทย์ กล่าว
สำหรับความเป็นมาของศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) หมู่ที่ ๑๐ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในวงล้อมของแนวเทือกเขาอินทนนท์ เหมาะสำหรับผู้ต้องการศึกษาธรรมชาติ หรือท่องเที่ยวเชิงการเกษตร มีพันธุ์ไม้เมืองหนาวนานาชนิด ที่พร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งยามหน้าหนาว ออกผลเต็มต้นให้เด็ดชิมในฤดูร้อน และยังมีนกในเทือกเขาอินทนนท์นานาชนิดให้ศึกษา รวมทั้งมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มโอบล้อมโดยรอบ ด้วยไม้ใหญ่เปลี่ยนสีสันตามฤดูกาล
ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ก่อตั้งขึ้นภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมายังบ้านขุนวางในปี พ.ศ.2523 แล้วทอดพระเนตรเห็นท้องทุ่งบริเวณนี้มีการปลูกฝิ่นอยู่เป็นจำนวนมาก พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้กองพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ดำเนินการใช้ท้องทุ่งแห่งนี้เป็นสถานที่ทดลองและขยายพันธุ์พืชบนที่สูง เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี แก่เกษตรกรบนที่สูง รวมถึงเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงพระราชทานพันธุ์พืชที่ทรงนำมาจากต่างประเทศ ได้แก่ บ๋วย มะคาเดเมีย กาแฟ เพื่อให้เกิดการศึกษาว่าพืชเหล่านี้จะสามารถปลูกในประเทศไทยได้หรือไม่ เนื่องด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล มองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างคุ้มค่าในอนาคต
สำหรับจุดท่องเที่ยวภายในศูนย์ ภายในพื้นที่ 450 ไร่ของศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง หลากลายด้วยแปลงไม้ผลเมืองหนาวต่าง ๆ หากไปถึงในช่วงฤดูกาลผลไม้เมืองหนาวผลิดอกออกผล ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ พลัม ท้อ แนคตารีน หรือสตรอเบอร์รี่ นักท่องเที่ยวก็สามารถเด็ดชิมได้จากต้นเลยทีเดียว หรือหากไปเยี่ยมชมในช่วงฤดูหนาว ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะตั้งแต่กลางเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระดอย หรือดอกซากุระเมืองไทย จะออกดอกสีชมพูทั้งต้น ทำให้ดอยขุนวางกลายเป็นสีชมพูไปทั้งดอย ซึ่งในช่วงนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนวางกำลังทยอยออกดอกเบ่งบาน และคาดว่าจะออกดอกเบ่งบานสวยงามเต็มที่ในช่วงปลาย ม.ค. นี้
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชม/ ศึกษาแปลงทดลองการเกษตรภายในศูนย์ได้ โดยมีเจ้าหน้าที่นำชมตามเส้นทางที่กำหนด พาหนะที่ใช้ในการเดินทางภายในศูนย์ ควรเป็นรถปิกอัพ หรือ รถขับเคลื่อนสี่ล้อ และจักรยาน โดยจุดที่น่าสนใจต่าง ๆ ได้แก่ แปลงไม้ผลเมืองหนาว แปลงกาแฟ โรงกะเทาะเปลือกกาแฟ และแปลงทดสอบพันธุ์แมคคาเดเมีย ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย นักท่องเที่ยวสามารถทดลองเก็บผล และชิมเนื้อสด ๆ ซึ่งมีรสชาติหอมหวานมัน หรือจะชิมแบบอบคั่วเกลือทางศูนย์ก็มีให้ชิม และยังมีการทดลองสกัดน้ำมันจากผลไปทำเครื่องสำอางด้วย
ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรรมีกำหนดการพิธีเปิดงานตามรอยที่พ่อสร้าง ที่สถานีเกษตรหลวงเชียงใหม่ขุนวาง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 13 มกราคม 2560 โดยช่วงเช้าเวลา 07.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและในเวลา 10.00 น. พิธีเปิดโดยนายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีการเกษตรเป็นประธานในพิธี จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมเที่ยวชมงานรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ “ตามรอยที่พ่อสร้าง” ระหว่างวันที่ 13-20 มกราคม 2560 เวลา 07.00 – 15.00 น. ที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 053-114-136