xs
xsm
sm
md
lg

กะหล่ำปลี ผักดีๆ ที่ต้องกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กะหล่ำปลี เป็นพืชผักที่หากินได้ง่ายในบ้านเรา เป็นผักที่มีความกรอบอร่อย สามารถไปปรุงอาหารได้หลายอย่าง รวมทั้งราคาไม่แพง จึงทำให้ผักกะหล่ำปลีเป็นพืชผักที่มีความนิยมสูงในประเทศ “108 เคล็ดกิน” วันนี้จึงมาบอกประโยชน์ดีๆ ของการกินกะหล่ำปลีกัน

ต้นกะหล่ำปลี เดิมแล้วมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเมดิเตอเรเนียน และภายหลังได้แพร่กระจายทั่วไป โดยกะหล่ำปลีจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ กะหล่ำปลีธรรมดา (พันธุ์โกลเดน เอเคอร์, พันธุ์โคเปนเฮเกนมาร์เก็ต), กะหล่ำปลีแดง (ใบเป็นสีแดงทับทิม ขึ้นดีในอากาศหนาวเย็น), กะหล่ำปลีใบย่น (ขึ้นได้ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ)

ประโยชน์ของกะหล่ำปลีนั้นมีมากมายหลายอย่างเช่น ในตัวกะหล่ําปลีจะมีกรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) ที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักและคอเลสเตอรอลได้ ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เพราะกะหล่ำปลีอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นผลดีต่อการเสริมสร้างและบำรุงกระดูก แต่ถ้าหากใครอยากมีสุขภาความงามที่ดี กะหล่ำปลีถือว่าเป็นผักที่ช่วยบำรุงผิวพรรณทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และยังช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย นอกจากนั้นกะหล่ำปลียังมีสารเอสเมธิลเมโธโอนิน ที่สามารถช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้ รวมทั้งการบริโภคกะหล่ำปลีมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งลำไส้ในผู้ชายลงถึง 66% กินกะหล่ำปลีปรุงสุกวันละ 2 ช้อนโต๊ะป้องกันมะเร็งในช่องท้อง และการกินกะหล่ำปลีสดก็จะดีกว่ากะหล่ำปลีสุกอีกด้วยเพราะจะไม่สูญเสียวิตามินไปกับความร้อนมากนัก

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากกินกะหล่ำปลีดิบมากเกินไปอาจจะมีโทษได้ เพราะกะหล่ำปลีดิบจะมีสารที่ชื่อกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งอยู่ในกลุ่มของสารที่ทำลายหรือขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมหรือขัดขวางไม่ให้ร่างกายนำสารไปใช้ประโยชน์ หากเรารับประทานอาหารที่มีสารชนิดนี้มากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดจนทำให้ร่างกายขาดสารไอโอดีนจนกลายเป็นโรคคอพอกได้ แต่อย่างไรก็ตามการกินกะหล่ำปลีดิบแล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายจะต้องกินอย่างสม่ำเสมอและต้องกินครั้งละเป็นกิโลกรัมเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้นควรกินๆ อย่างพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ถึงจะได้ประโยชน์ คุณค่าทางอาหาร สรรพคุณอันมากมายของกะหล่ำปลีได้อย่างคุ้มค่า
* * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น