xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโลกรัฐกะเหรี่ยง เมียนมาร์ ที่ “พะอัน”...มหัศจรรย์วัดเขาตะปูดูน่าทึ่ง/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
วัดเขาตะปู วัดสำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของเมืองพะอัน
“สุดประจิมที่ริมเมย”

สโลแกนบ่งบอกความเป็นเมืองชายแดนสำคัญของ อ.แม่สอด จ.ตาก หนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนสำคัญทางฝั่งตะวันตกของไทยที่ได้รับการตั้งให้เป็น “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ” ซึ่งมีด่าน“แม่สอด-เมียวดี”เป็นอีกหนึ่งประตูในการไปมาหาสู่กันระหว่างไทยกับเมียนมาร์(พม่า)
ด่านแม่สอด-เมียวดี (ฝั่งไทย)อีกหนึ่งประตูสำคัญสู่ประเทศเมียนมาร์
และด้วยความสำคัญของด่านชายแดนแม่สอด โดยเฉพาะในยุคหลังการเข้าสู่ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือ AEC ซึ่งทำให้เมืองแม่สอดทวีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)” จึงจับมือกับ “หอการค้าจังหวัดตาก” จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนใน อ.แม่สอด ขึ้น ภายใต้ “โครงการแอ่วเหนือม่วนใจ๋ ก้าวไกลสู่ AEC” ด้วยการจัดคาราวานสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ในเส้นทาง“แม่สอด-ผาอัน(พะอัน)-มะละแหม่ง-ไจก์โถ่-กรุงย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ” ที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

1...
ทิวทัศน์ตัวเมืองพะอันมุมสูง(มองจากดาดฟ้า Phoe La Min)
จากเมืองไทยที่ด่านชายแดนแม่สอด คณะเราออกเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ ข้ามแดนสู่เมืองเมียวดีพม่ากันตั้งแต่เช้าตรู่ ใช้เวลาในขั้นตอนผ่านแดนราวๆหนึ่งชั่วโมง(เนื่องจากเป็นคณะใหญ่)แล้วจึงมุ่งหน้าจากด่านเมืองเมียวดีสู่“เมืองพะอัน” หรือเมืองผาอัน(Hpa An)เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ที่อยู่ห่างจากด่านชายแดนแม่สอดประมาณ 150 กิโลเมตร

อย่างไรก็ดีแม้เส้นทางสายเมืองพะอัน-เมียวดี-แม่สอด จะเคยเป็นเส้นทางเศรษฐกิจชายแดนสำคัญระหว่างท้องถิ่นกับท้องถิ่นมานับแต่อดีต แต่ด้วยปัญหาด้านเสถียรภาพทางการเมืองของพม่าที่มีการสู้รบมายาวนาน รวมไปถึงปัญหาด้านสภาพของถนนนั้น กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเส้นทางสายนี้
สภาพถนนสายเก่าเมียวดี-กอกะเร็กที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งถนนหฤโหด(ภาพปี 57 จาก ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง)
โดยถนนจากเมืองเมียวดีสู่เมือง “กอกะเร็ก” (Kawkareik) ที่จะผ่านไปยังเมืองพะอันนั้น เป็นเส้นทางสมบุกสมบันลดเลี้ยวเคี้ยวโค้งขึ้นเขาลงเขา บางช่วงเป็นถนนลูกรังทำให้ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง กว่าจะผ่านพ้นเส้นทางสายนี้ไปได้(ส่วนในช่วงหน้าฝนบางครั้งอาจต้องใช้เวลานานถึง 4-5 ชม.เนื่องจากถนนลื่นและเละ)
การตัดถนนเมียวดี-กอกะเร็ก สายใหม่ช่วยย่นเวลาจากแม่สอดสู่พะอันลงมาได้มาก
แต่มาวันนี้ทุกอย่างปลดล็อก เมียนมาร์มีการเลือกตั้ง มีประธานาธิบดีพลเรือนคนแรก(ในรอบ 100 ปี) ขณะที่ถนนสาย“เมียวดี-กอกะเร็ก”ที่ถือเป็นอีกหนึ่งถนนสายหฤโหดนั้น วันนี้มีการตัดเส้นทางใหม่ในยะยะทาง 45 กม. เป็นถนนลาดยางใหม่กริบ(ถนนสายนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ 31 ส.ค. 58)ไม่ต้องขึ้นเขาลดเลี้ยวเคี้ยวโค้ง ใช้เวลาเดินทางสบายๆแค่ 45 นาที ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางลงมาได้มาก โดยจากด่านแม่สอดมาสู่เมืองพะอันใช้เวลาแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงยังเมืองพะอัน

2...
วัดเก๊าะกะตาว หนึ่งในวัดน่าเที่ยวของเมืองพะอัน
ด้วยความที่ถนนตัดใหม่ คณะขบวนคาราวานของเราจึงวิ่งฉลุย มาถึงเมืองพะอันก่อนกำหนดเวลา ไกด์ของเราจึงพาไปแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันที่ “วัดเก๊าะกะตาว”(Kaw Ka Thaung) หรือ “วัดถ้ำ” ซึ่งใน 2 ฟากฝั่งถนนระหว่างทางที่แยกเข้าสู่วัด จะมีรูปปั้นพระเดินบิณฑบาตจำนวนมากยืนเป็นแถวเรียงรายนำทางเข้าสู่วัดแห่งนี้
รูปปั้นพระเดินบิณฑบาตเรียงรายใน 2 ฟากถนนสู่วัดวัดเก๊าะกะตาว
วัดเก๊าะกะตาว มีทั้งส่วนที่เป็นสิ่งก่อสร้างวิหาร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่อยู่หน้าถ้ำและใต้เพิงผาถ้ำ กับส่วนของวัดภายในถ้ำที่มีพระพุทธรูปอันหลากหลายอยู่ตามริมผนังของถ้ำให้สักการบูชา พร้อมกันนี้ที่ผนังหรือเพดานถ้ำในบางช่วงยังโดดเด่นไปด้วยพระองค์เล็กๆ ลักษณะคล้ายพระเครื่องบ้านเรา ประดับบูชาอยู่เป็นจำนวนมากนับพันองค์ มีทั้งพระที่นำมาติดไว้ที่ผนังถ้ำ และพระที่แกะสลักขึ้นจากผนังถ้ำซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้
ในถ้ำวัดเก๊าะกะตาวมีพระพุทธรูปองค์เล็กประดับอยู่ที่ผนังและเพดานถ้ำเป็นจำนวนมาก
น้อง“มอญ”ไกด์สาวที่ไม่ได้เป็นคนมอญหากแต่เป็นชาวไทใหญ่ ผู้นำคณะผมตะลอนทัวร์ในทริปนี้ บอกว่า วัดเก๊าะกะตาวเป็นวัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ชาวพม่าเชื่อว่าในอดีตถ้ำแห่งนี้เคยมีเต่ากับจระเข้มาถือศีลอยู่ ที่นี่จึงเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งภายในถ้ำได้มีการสร้างรูปของเต่ากับจระเข้คลานอยู่คู่กันเอาไว้ด้วย เพื่อสื่อให้เห็นถึงตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำแห่งนี้
ชาวพม่าเชื่อว่าถ้ำแห่งวัดเก๊าะกะตาวเป้นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และในอดีตเคยมีเต่าและจระเข้มาจำศีลอยู่ที่นี่
หลังไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย คณะเราไปกินข้าวเที่ยงกันในร้านอาหารที่อยู่แถวนั้น แล้วออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองพะอัน ไปดูความเป็นมาเป็นไปของเมืองหลวงรัฐกะเหรี่ยงหลังประเทศเมียนมาร์ยุคใหม่ได้เปิด AEC และเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งพะอันนั้นถือเป็นเมืองผ่านสำคัญจากแม่สอดไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของพม่าอย่าง “พระธาตุอินทร์แขวน”(เมืองไจ่โถ่ว์) และ “พระมหาเจดีย์ชเวดากอง”(เมืองย่างกุ้ง) ที่คณะเรามุ่งหน้าไปในทริปนี้

หลังไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย คณะเราไปกินข้าวเที่ยงกันในร้านอาหารที่อยู่แถวนั้น แล้วออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองพะอัน ไปดูความเป็นมาเป็นไปของเมืองหลวงรัฐกะเหรี่ยงหลังประเทศเมียนมาร์ยุคใหม่ได้เปิด AEC และเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งพะอันนั้นถือเป็นเมืองผ่านสำคัญจากแม่สอดไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของพม่าอย่าง “พระธาตุอินทร์แขวน”(เมืองไจ่โถ่ว์) และ “พระมหาเจดีย์ชเวดากอง”(เมืองย่างกุ้ง) ที่คณะเรามุ่งหน้าไปในทริปนี้
เมืองพะอัน เมืองหลวงแห่งรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมาร์ (ภาพ มองจากดาดฟ้าห้าง Phoe La Min)
ตัวเมืองพะอันมีแม่น้ำสาละวินไหลผ่าน บรรยากาศของตัวเมืองแม้จะดูคล้ายๆกับตัวอำเภอใหญ่ๆในหลายจังหวัดของบ้านเรา

ใจกลางเมืองพะอันมีห้างสรรพสินค้า “Phoe La Min Shopping Mall” เป็นห้างใหญ่ห้างเดียวในเมือง บรรยากาศของห้างก็ดูคล้ายห้างเล็กๆตามต่างจังหวัดบ้านเรา แต่ก็เป็นห้างที่มีความคึกคักไม่น้อย ที่สำคัญคือสินค้าจำนวนมากภายในห้างเป็นสินค้าไทย ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าสินค้าจีน แต่ว่าชาวพม่าเขาชอบสินค้าไทยกันมาก เนื่องจากมีคุณภาพดีกว่า ใช้แล้วคุ้มค่าคุ้มราคากว่า
Phoe La Min Shopping Mall ห้างสรรพสินค้าหนึ่งเดียวในเมืองพะอัน
ผมลองเดินเข้าไปสำรวจที่ห้าง Phoe La Min เห็นสินค้าไทยบางยี่ห้อดูแปลกตา ผมไม่เคยเห็นในเมืองไทย แต่มีขายที่นี่แถมได้รับความนิยมเสียด้วย

ขณะที่บนดาดฟ้าของห้างแห่งนี้(ต้องขออนุญาตขึ้นไป)ถือเป็นจุดชมวิวเมืองพะอันชั้นดี เมื่อขึ้นไปยืนมองลงมาจะเห็นวิวเมืองพะอันมุมสูงได้ทั้งฝั่งริมแม่น้ำและฝั่งตัวเมือง โดยเฉพาะฝั่งริมแม่น้ำนั้นถือเป็นมุมไฮไลต์เมื่อมองออกไปจะเห็นบรรดาอาคารบ้านเรือนต่างๆ โดยมีเจดีย์สีทองที่ดูคล้ายเจดีย์พุทธคยาตั้งเด่นเป็นสง่า จากนั้นถัดออกไปจะเป็นแม่น้ำสาละวินสายกว้างที่ไหลผ่านเมืองนี้ หลังแม่น้ำมีภูเขารูปร่างแปลกมียอดเป็นปล่องเป็นจุดเด่นดึงดูดสายตา ดูมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ไม่น้อย
เจดีย์ทองวัดชเวยินเมียว ริมแม่น้ำสาละวิน
จากเดินห้างเราไปเข้าวัดกันอีกที่ “วัดชเวยินเมียว”(Shwe Yin Myaw Pagoda) วัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ภายในวัดโดดเด่นไปด้วยเจดีย์สีทองที่ตรงส่วนฐานมีองค์พระมัยหามุนีจำลอง(องค์เล็ก)ให้สักการบูชา
วิถีแห่งแม่น้ำสาละวิน เมื่อมองจากชเวยินเมียว
นอกจากนี้ก็ยังมีเจดีย์สีทององค์เล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ เพราะผู้ที่มาเยือนวัดแห่งนี้นอกจากจะมาไหว้เจดีย์ริมน้ำแล้ว ยังมาชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำสาละวินสายกว้างที่ไหลตีวงโค้งมาเฉียดยังที่วัดแห่งนี้ ฝั่งตรงข้ามมีไฮไลต์คือภูเขายอดปล่อง(ลูกเดียวกับที่เห็นบนดาดฟ้าห้าง) ในแม่น้ำมีเรือออกหาปลา เรือขนสินค้า เรือข้ามฟาก เรือดูดทราย และเรือเล็กที่จอดอยู่ริมน้ำพร้อมกับภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านในละแวกนั้น ซึ่งภาพแบบนี้นับวันยิ่งมายิ่งเหลือน้อยในบ้านเรา

3…
วัดเขาตะปู สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญแห่งเมืองพะอัน
พะอันเป็นเมืองที่มากไปด้วยภูเขาและถ้ำ(สันนิษฐานว่าเคยเป็นทะเลมาก่อน) ดังนั้นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองจึงเป็นขุนเขาลักษณะประหลาดลูกหนึ่ง ซึ่งมีการสร้างวัด สร้างเจดีย์อยู่บนนั้น มีชื่อเรียกว่า “วัดเจ๊าตะแลต”(วัดก่อกะแลต)(Kyaukanlat) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า“วัดเขาตะปู” หรือ “เจดีย์เขาตะปู
วัดเขาตะปู อีกหนึ่งความน่าทึ่งแห่งเมืองพะอัน
วัดเขาตะปูเป็นวัดที่สร้างบนภูเขาที่มีลักษณะคล้าย “เขาตาปู” ในอ่าวพังงาบ้านเรา คือเป็นภูเขาหินโดดๆกลางบึงน้ำขนาดใหญ่(บางคนเรียกทะเลสาบ) มีส่วนที่เป็นแท่งตั้งเด่นยื่นขึ้นมาคล้ายถ้วยไอศกรีม บนเขามีการสร้างวัด สร้างเจดีย์ อยู่ตามแนวชั้นเขาต่างๆ โดยส่วนบนยอดสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามตั้งเด่น ขณะที่จากบนฝั่งริมบึงมีสะพานปูนสร้างทอดยาวจากฝั่ง(ริมบึง)ข้ามไปสู่ตัววัด
สะพานทางเดินข้ามบึงน้ำใหญ่สู่วัดเขาตะปู
เมื่อมาถึงที่วัดเขาตะปู ผมกับเพื่อนๆเดินข้ามสะพานไปแบบชิลชิลไม่เร่งรีบ เพราะวิวทิวทัศน์ที่นี่สวยงามไม่เบา มองเห็นบึงขนาดใหญ่ มีวัดเขาตะปูที่ดูน่าทึ่งน่ามหัศจรรย์อยู่ตรงกลาง ให้เราเดินทางจากฝั่งไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ที่มีการสร้างเป็นบันไดใต้ยอดเขาตะปูให้เดินขึ้นไปกราบไหว้เจดีย์ ทำบุญ ฟังหลวงพ่อ(พระพม่า)ท่านให้ศีลให้พร และชมวิวทิวทัศน์บนนั้น โดยสามารถขึ้นไปได้แค่ชั้นที่สองเท่านั้น ส่วนชั้นที่สามที่เป็นชั้นยอดสูงสุด มีเจดีย์ทองตั้งเด่นอยู่ไม่สามารถขึ้นได้(เนื่องจากอันตราย)
ทางเดินขึ้นภูเขาไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเขาตะปู(หลังข้ามสะพานมาแล้ว)
สำหรับในวันที่ผมไปนั้น มีทั้งชาวพม่า ชาวมอญ ชาวกะเหรี่ยง ต่างพากันมาไหว้พระ ไหว้เจดีย์ และมาทำบุญที่วัดเขาตะปูกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นวัยรุ่น หนุ่ม-สาว แสดงให้เห็นถึงศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวพม่าที่ยังคงแนบแน่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ช่วยเติมอรรถรส เติมความขลังของวัดเขาตะปูที่ถือเป็นดังสิ่งมหัศจรรย์(เล็กๆ)ของเมืองพะอันให้ดูน่าเลื่อมใสเปี่ยมศรัทธามากยิ่งขึ้นไปอีก
ทิวทัศน์ทุ่งนาขุนเขาเมื่อมองลงมาจากชั้นสองของวัดเขาตะปู
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเมืองพะอัน เมืองหลวงแห่งรัฐกะเหรี่ยงที่กำลังโตวันโตคืน รับการเปลี่ยนแปลงทั้งการเปิด AEC และการเปิดประเทศที่มากยิ่งขึ้นของพม่า

ขณะที่ส่วนตัวผมนั้น นี่ถือเป็นการเปิดโลกใหม่ เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ อันน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งหนึ่ง
*****************************************

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

*****************************************

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวตามที่ได้กล่าวมาแล้ว เมืองพะอันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ถ้ำหมื่นพระ และสวนลุมพินี ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเส้นทางแม่สอด-เมียวดี-พะอัน ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดตาก โทร.0-5551-4341 -3
กำลังโหลดความคิดเห็น