การท่องเที่ยวมาเลเซียเอาใจคนพลพรรครักอาหารด้วยการนำเสนออาหารประจำชาติรสจัดจ้านที่เต็มไปด้วยความโดดเด่นทั้งทางด้านวัตถุดิบและวิธีทำอันพิถีพิถัน อีกทั้งแต่ละเมนูก็มีเบื้องหลังความเป็นมาที่น่าค้นหา เพราะได้รับอิทธิพลจากชาติต่างๆ มากมาย ที่ตั้งอยู่รายล้อมทำให้แต่ละจานไม่เพียงแต่จะถูกปากคนจากทั่วโลกที่แวะเวียนมาเยี่ยม แต่ยังบอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาผ่านรสชาติอันจัดจ้านอีกด้วย และในวันนี้จึงขอเสนอเมนูอาหารและร้านเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนมาเลเซีย
สำหรับอาหารจานเด็ดที่ชวนกิน มีดังนี้ “Mee Goreng Mamak” อาหารขึ้นชื่อของประเทศมาเลเซียที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชาวอินเดียมุสลิมที่ย้ายมาอยู่ในประเทศแห่งนี้ไว้อย่างจัดจ้าน เมนูนี้เป็นการผสมผสานอาหารจีนและเครื่องเทศของอินเดียไว้อย่างลงตัว โดยจะทำจากบะหมี่ไข่เส้นเหนียวนุ่ม ผัดกับเนื้อสัตว์ต่างๆ ตามชอบไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ กุ้งหรือเนื้อวัว พร้อมกับเติมไข่ และผักเพิ่มความเข้มข้น ก่อนจะปรุงรสด้วยซีอิ๊ว บางท้องถิ่นอาจจะเติมพริกและเครื่องเทศลงไปให้รสเผ็ดนิดๆ พอกลมกล่อม เมนูนี้สามารถหากินได้ทั่วไป โดยเฉพาะที่ปีนังตามตลาดชาวอินเดียจะมีให้เห็นอยู่หลายร้านที่สามารถเลือกสรรได้ตามชอบ
“Satay” สะเต๊ะที่คนไทยรู้จักได้ถูกดัดแปลงมาเป็นอีกเวอร์ชั่นที่สาวกคนรักอาหารไม่ควรพลาด เมนูนี้หาได้ง่ายที่มะละกา โดยเฉพาะร้าน Capitol Satay ที่ชื่อเสียงดังไปไกลทั้งยังมีรีวิวจากผู้คนทั่วโลกมาช่วยการันตีความอร่อยได้เป็นอย่างดี สะเต๊ะของที่นี่จะเป็นเนื้อชนิดต่างๆ เสียบไม้ไว้ให้คุณเลือกอร่อยได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ หมู เนื้อวัวสดๆ ปลา หรือแม้แต่กุ้งตัวโต จากนั้นนำมาจุ่มในหม้อน้ำจิ้มถั่วรสเข้มข้นร้อนๆ รอให้สุกแล้วอิ่มอร่อยไปกับความชุ่มฉ่ำของเนื้อที่เพิ่งสุกออกจากหม้อร้อนๆ ทั้งยังได้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบของถั่วในน้ำจิ้มเป็นอีกหนึ่งความฟินที่ไม่ควรพลาด
“Fried Bee Hoon” อาหารจีนแต้จิ๋วหน้าตาบ้านๆ ที่รสชาติไม่บ้านตาม Fried Beehoon เป็นอาหารที่หาได้ตามร้านอาหารจีนทั่วไปในกรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่ร้านที่ไม่ควรพลาดคือ Restoran Setapak Teochew ที่ยืนหยัดมากว่า 100 ปี ภายในร้านมีอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วแบบดั้งเดิมให้เลือกมากมาย แต่ที่เมนูเด็ดเห็นจะเป็น Fired Bee Hoon หรือหมี่ขาวผัดกับผักต่างๆ แล้วโรยหน้าด้วยกากหมูทอดกรอบๆ มันๆ เคี้ยวกรุบกรับอร่อยไม่เหมือนใคร และถ้าใครชอบอาหารจีนอาจจะสั่งผัดหมี่ฮกเกี้ยนรสจัดจ้าน หรือปลาเส้นที่เรียกกันว่าหือก้วยมากินคู่กันก็อร่อยไปอีกแบบ
“Asam Laksa” ชื่อเมนูนี้คงคุ้นหูใครหลายคนด้วยเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ติดอันดับที่ 26 อาหารอร่อยที่สุดในโลกปี 2011 จากการจัดอันดับโดย CNN GO ทั้งยังเป็นเมนูเอาใจคนชอบกินรสจัดเพราะ ลักซา เป็นอาหารลักษณะคล้ายขนมจีนที่น้ำราดจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค มีทั้งน้ำราดจากกะทิผสมเครื่องเทศรสเผ็ดร้อน หรือจะเป็นลักซาที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ ปีนังลักซา ที่เลือกใช้ปลาทูเป็นส่วนผสมหลักให้ได้กลิ่นอายทะเลอย่างลงตัว เข้ากันดีกับน้ำราดรสเปรี้ยวจากมะขามหรือส้มแขก อีกทั้งยังได้กลิ่นหอมๆ จาก ดอนเคซุม (ผักแพว) และ บุหงากันตัน (ดอกขิงป่า) จากนั้นตัดด้วยรสหวานจากสับปะรด เป็นอีกหนึ่งเมนูรสเข้มข้น ที่หากใครไปเยือนปีนังแล้วไม่ได้ลองกินก็เหมือนกับไปไม่ถึง
“Nasi Lemak” นับเป็นอาหารประจำชาติของประเทศมาเลเซียที่คุณสามารถเห็นได้ทั่วทุกภูมิภาคโดยจะห่อในใบตองให้กินได้สะดวก ข้าวนาซิเลอมัก มีปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐานในหนังสือ The Circumstances of Malay Life เขียนโดย Sir Richard Olof Winstedt ในปี 1909 คำว่านาซิเลอมักในภาษามลายูแปลว่าข้าวมัน โดยนำข้าวไปแช่กับกะทิแล้วนึ่งให้สุกจนได้ความหอมมันเป็นเอกลักษณ์แล้วกินคู่กับซอสซัมบัลรสเผ็ด แตงกวาหั่น หรือไก่ทอดทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป โดยเครื่องเคียงนี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาคและวัฒนธรรม เช่นที่เกาะรีเยาจะกินคู่กับอีกันดัมบันซึ่งเป็นปลาชิ้นเล็กๆ ทอดให้กรอบ คนมาเลเซียเชื้อสายจีนจะกินคู่กับเนื้อหมู หรือคนมาเลเซียเชื้อสายอินเดียจะกินกับแกงรสจัดต่างๆ จึงทำให้นาซิเลอมักเป็นทั้งอาหารประจำชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซียอย่างแท้จริง
“Steamboat” เป็นเมนูที่กลายมาเป็นคู่ตุนาหงันของพื้นที่ราบสูง Cameron Highland ในเมืองอิโปห์ไปแล้ว ด้วยสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างชื้นด้วยฝนตกชุกตลอดปี ทั้งยังเป็นแหล่งทดลองปลูกพืชหลากหลายชนิดจึงทำให้ Steamboat เป็นอาหารช่วยคลายหนาวได้อย่างลงตัว โดยจะมีลักษณะเป็นหม้อน้ำซุปร้อนๆ บางร้านจะเสิร์ฟแบบดั้งเดิมด้วยเตาถ่านทำให้ได้กลิ่นหอมควันไฟเป็นเอกลักษณ์ และสามารถนำเอาเครื่อง เช่น เนื้อสัตว์และผักลงไปลวกจนสุกก่อนจะซดน้ำซุปที่ได้รสหวานธรรมชาติจากเนื้อและผัก สถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Steamboat ที่สุดคือเมือง Bringchang ที่มีหลากหลายแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็นร้านที่เต้มไปผักออร์แกนิค หรือร้านที่คัดเลือกเนื้อชั้นดีให้ได้ลิ้มลอง อีกทั้งยังมีตลาดนัดกลางคืนซึ่งสามารถเดินเลือกซื้อของได้มากมายอีกด้วย
“Nasi Kerabu” อาหารประจำรัฐกลันตัน ที่มีข้าวเป็นส่วนผสมหลักหุงกับดอกอัญชันจนได้สีฟ้าใสสวยงาม แล้วกินคู่กับผักและสมุนไพรหลากชนิด บางที่อาจจะเสิร์ฟมาพร้อมเนื้อสัตว์เช่นไก่ทอด ทั้งยังราดหน้าด้วยน้ำบูดู และมะพร้าวคั่วให้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ ทั้งยังได้กลิ่นหอมๆ จากสมุนไพรหลากชนิดทำให้ นาซิเกอราบู กลายเป็นอีกหนึ่งอาหารที่เหล่านักเดินทางไม่ควรพลาดด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ และวัฒนธรรมที่ผสมผสานรวมอยู่ในประเทศมาเลเซียอย่างกลมกล่อม ก่อให้เกิดอาหารหลากหลายชนิดที่ไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้มาลิ้มลองแต่ยังเป็นการบอกเล่าประวัติและวัฒนธรรมอย่างลงตัวอีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com