โดย : หนุ่มลุกทุ่ง
“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองกรุงที่ฉันชอบ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เป็นจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ ศิลปะ โบราณคดี และโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันทรงคุณค่าของประเทศไทย โดยจะถูกจัดแสดงไว้ในพระที่นั่งต่างๆ ในบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล หรือส่วนหนึ่งของที่ประทับวังหน้า อาทิ ประวัติศาสตร์แห่งแผ่นดินไทย แสดงที่ “พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน” , “พระที่นั่งพุทไธสวรรย์” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ให้ได้สักการะ ,นิทรรศการประณีตศิลป์สืบสมัย จัดแสดงในหมู่พระวิมาน
(คลิกติดตามเที่ยว “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” ได้ที่ลิงค์นี้)
และที่หมู่พระวิมานนี้ ก็ยังเป็นที่ตั้งของ “พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย” โดยเป็นสถานที่จัดนิทรรศการพิเศษหมุนเวียน ที่จะมีการนำนิทรรศการความรู้ พร้อมกับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุล้ำค่าที่เกี่ยวข้องกับนิทรรศการมาจัดแสดงให้ได้ชมเป็นช่วงๆ ซึ่งในช่วงนี้ก็ได้มีการจัดนิทรรศการพิเศษเรื่อง “วิจิตรภูษาพัสตราภรณ์” โดยเป็นนิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่มรดกศิลปวัฒนธรรมด้านศิลปะแห่งผ้าไทย ที่ได้นำผืนผ้าอันงดงามที่เป็นมรดกอันล้ำค่าของประเทศไทย มาจัดแสดงให้ได้ชมตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งฉันก็ไม่พลาดที่จะเดินทางมาชมงานนิทรรศการดีๆ แบบนี้
เมื่อถึงวันหยุดของฉัน ก็ได้เวลาเดินทางไปชม นิทรรศการวิจิตรภูษาพัสตราภรณ์ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยตั้งอยู่ที่ ถนนหน้าพระธาตุ เขตพระนคร ใกล้ๆ กับสนามหลวง เมื่อมาถึงฉันก็มุ่งตรงไปซื้อบัตรเข้าชม และเดินมุ่งหน้าไปชมนิทรรศการที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย หลังจากฉันเดินผ่านพ้นประตูบานใหญ่ของพระที่นั่งเข้ามาแล้ว ก็ได้พบกับห้องท้องพระโรงอันกว้างขวางอันเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ โดยมีพระที่นั่งบุษบกมาลา พระราชบัลลังก์ที่ประทับกรมพระราชวังบวรฯ ตั้งอยู่ด้านในสุด
สำหรับนิทรรศการวิจิตรภูษาพัสตราภรณ์นั้น ฉันได้รู้มาว่าเป็นนิทรรศการพิเศษ ที่จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงต่อการอนุรักษ์ฟื้นฟู สืบทอดพัฒนา และเผยแพร่มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติหลากหลายแขนง เพื่อธำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และศักดิ์ศรีของความเป็นไทย ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “องค์เอกอัครอุปถัมภ์มรดกช่างศิลป์ไทย” เมื่อปี พ.ศ.2536 และ “อัคราภิรักษศิลปิน” เมื่อปี พ.ศ. 2555
ซึ่งภายในงานนิทรรศการในครั้งนี้ ได้มีการนำผ้าและเครื่องนุ่งห่มที่งดงามด้วยการตกแต่งลวดลาย สีสัน การปัก ซึ่งเป็นศิลปวัตถุล้ำค่ามาจัดแสดง และมีการคัดสรรผ้าไทยและเครื่องแต่งกายจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ 20 แห่ง รวมทั้งจากสำนักการสังคีต รวมจำนวน 183 ชิ้นมาจัดแสดงให้ได้ชมความงดงามอันล้ำค่า
ฉันเริ่มต้นการเดินชมนิทรรศการวิจิตรภูษาพัสตราภรณ์ โดยบรรยากาศภายในงานนิทรรศการนั้น ดูมีมนต์ขลังเป็นอย่างมาก ภายในท้องพระโรงแห่งนี้มีศิลปวัตถุล้ำค่ามากมาย จนฉันไม่รู้จะเริ่มชมงานชิ้นไหนก่อนดี เพราะแต่ละชิ้นที่ได้เห็นนั้นงดงามอย่างมีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน และด้วยความโชคดีของฉันจึงทำให้ได้พบกับ คุณพิชรินทร์ สุขประมูล ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ กรมศิลปากร ซึ่งได้มาเป็นผู้นำในการเดินชมนิทรรศการในครั้งนี้
คุณพิชรินทร์ ได้อธิบายให้ฉันฟังว่า คำว่า “วิจิตรภูษาพัสตราภรณ์” แปลว่า “ผ้าและเครื่องนุ่งห่มที่งดงามด้วยการตกแต่ง ลวดลาย สีสัน และการปัก” ผ้าทุกๆ ชิ้นที่ได้นำมามาจัดแสดงนั้น เป็นผลงานชั้นเยี่ยมที่ได้ถูกคัดสรรมาแล้ว ซึ่งฉันก็ได้เดินชมจนครบทุกชิ้น ไปพร้อมๆ กับการบรรยายของคุณพิชรินทร์ และฉันอยากจะบอกว่าผ้าทั้ง 183 ชิ้นนั้นงดงามอย่างมีเอกลักษณ์จริงๆ และหากฉันจะมาอธิบายให้หมดคงจะใช้เวลานานพอสมควร ฉันจึงขอเล่าผ้าชิ้นพิเศษบางส่วนที่ฉันประทับใจ และไม่ควรพลาดชมเมื่อได้มาเที่ยวงานนิทรรศการ
เริ่มต้นด้วยชิ้นแรกคือ “ฉลองพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” โดยเป็นเสื้อนอกแบบยุโรป ซึ่งมีเนื้อผ้าเป็นผ้าสักหลาดปักดิ้นทองรูปใบและผลต้นโอ๊ค ที่ปกฉลองพระองค์มีการปักลายพระราชลัญจกรประจำรัชกาล เมื่อฉันชมแล้วก็คิดในใจว่าเป็นบุญตายิ่งนัก เพราะโดยปกติแล้วจะฉลองพระองค์จะถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจก ไม่สามารถชมได้อย่างใกล้ชิดขนาดนี้
ถัดมาชิ้นที่ 2 คือ “ผ้าเขียนทอง” โดยเป็นผ้าฝ้ายพิมพ์ลายสีเขียนเส้นด้วยทองตามขอบลายทั้งผืน ซึ่งเป็นผ้านุ่งหรือพระภูษาทรงเฉพาะเจ้านายชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไปสำหรับ และผ้าชิ้นนี้มีการประเมิลมูลค่าไว้สูงถึง จำนวน 10 ล้านบาท อีกทั้งรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ได้ขอยืมไปจัดแสดงฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 130 ปี ไทย - ญี่ปุ่น ด้วย
“ผ้าสุจหนี่” เนื้อผ้ากำมะหยี่ปักทองขวาง สีสันสวยงามสุดุดตา เป็นศิลปวัตถุอีกหนึ่งชิ้นที่ชั้นชอบ โดยผ้าสุจหนี่คือ ผ้าที่ปูลาดไว้สำหรับตั้งพระราชอาสน์หรือพระเก้าอี้ ตามธรรมเนียมหลวงจะสงวนใช้เฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินี และสมเด็จรัชทายาท
“ชุดเครื่องแบบเต็มยศของจางวางมหาดเล็ก” และ “ชุดครุยพร้อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้า” ก็เป็นศิลปวัตถุที่ไม่ควรพลาดชม ด้วยความละเอียดในการปักลวดลาย ที่มีการใช้ทั้งดิ้นเงินดิ้นทอง ทำให้ฉันรู้สึกทึ่งในความปราณีตของคนรุ่นเก่า ที่ได้ถักทอผ้าจนเกิดเสื้อตัวงามแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
และฉันก็อยากจะบอกอีกว่า “บรรดาชุดเครื่องแต่งกายโขน” ก็งดงามไม่แพ้ชุดไหนๆ โดยเป็นชุดโขนที่ถูกจัดทำขึ้นตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีพระประสงค์ในการรื้อฟื้นและสืบทอดความงดงามของเครื่องแต่งกายโขน ให้คนรุ่นหลังได้ชม
นอกจากศิลปวัตถุที่ได้พูดให้ฟังก็ยังมี “คัมภีร์พระภิกขุปาฏิโมกข์” อักษรทอด้วยเส้นไหมทองบนผ้าไหมสีแดง , “ผ้าปักไหมสี” รูปต่างๆ และ "ผ้าทอมือพื้นบ้าน" ชิ้นเยี่ยมจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ 20 แห่ง เป็นต้น ที่แต่ละชิ้นนั้นงดงามอย่างมีเอกลักษณ์
นิทรรศการวิจิตรภูษาพัสตราภรณ์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่ไม่ควรพลาดที่จะมาชม เพราะนอกจากจะได้ชมความงดงามของศิลปวัตถุอันทรงคุณค่าแล้ว ก็ยังได้ความรู้มากมาย สุดท้ายนี้ฉันก็อยากจะบอกว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และอย่าได้รอช้าควรรีบมาชม เพราะงานจะมีถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 ”
*********
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เปิดให้บริการวันพุธ-วันอาทิตย์ หยุดวันนักขัตฤกษ์ (ยกเว้นเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์) เวลา 09.00-16.00 น. ค่าบริการ นักท่องเที่ยวชาวไทย 30 บาท / นักท่องเที่ยวต่างชาติ 200 บาท …. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2224-1333
* * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com