สำหรับคนที่ไปอาศัยอยู่ที่ต่างบ้านต่างเมือง ปัจจุบันก็มักจะมีย่านของตัวเองอยู่ตามประเทศต่างๆ เพื่อให้เป็นแหล่งพบปะกับคนบ้านเดียวกัน เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอย หรือซื้อหาของกินแบบที่ตัวเองคุ้นเคย อย่างเช่น ย่านไทยทาวน์ ชุมชนชาวไทยในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ย่านไชน่าทาวน์ ชุมชนชาวจีนในหลายๆ ประเทศ
แต่สำหรับคนญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยก็มีย่านของชาวญี่ปุ่นอยู่ด้วยเช่นกัน เราเรียกกันว่า “Japanese Town” (เจแปนนิส ทาวน์) ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ราวๆ ซอยสุขุมวิท 30-39 แต่ที่รู้จักและคุ้นเคยกันมาก เพราะมีร้านสไตล์ญี่ปุ่นตั้งอยู่เรียงรายกันมากที่สุดก็คือซอยสุขุมวิท 33/1 นั่นเอง
ชาวญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับคนไทยตั้งแต่สัมยกรุงสุโขทัย ตามที่มีประวัติศาสตร์จารึกไว้ แต่ที่สามารถเห็นได้เด่นชัดที่สุดก็จะอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีทั้งชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาซื้อขายสินค้า และมีพวกที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากอยู่ไทยเลย จนกระทั่งเกิดเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นขึ้นมา
จนกระทั่งปัจจุบัน การคมนาคมและเทคโนโลยีต่างๆ มีการพัฒนาขึ้น ชาวญี่ปุ่นก็มีการอพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมากขึ้นไปด้วย ซึ่งมีทั้งคนที่มาแต่งงานกับชาวไทย หรือคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานตามบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งเราจะเห็นว่ามีเยอะมากๆ ในย่านสุขุมวิท จึงเป็นที่มาว่าทำไมจึงมีเจแปนนิส ทาวน์ อยู่ในย่านสุขุมวิท
หน้าตาของย่านเจแปนนิส ทาวน์ ก็ดูธรรมดาเหมือนซอยทั่วไป ช่วงปากซอยริมถนนสุขุมวิทก็ยังมีร้านค้าหาบเร่แบบไทยๆ มีทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ผลไม้ กับข้าว วางขายอยู่ริมถนน แต่พอเริ่มเดินเข้ามาในซอยสุขุมวิท 33/1 แล้ว ก็จะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะจะเริ่มเห็นร้านรวมที่ติดป้ายอักษรภาษาญี่ปุ่นเยอะขึ้น
อย่างขวามือแรกก็จะเห็นเป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ที่ชั้นล่างขายสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น ขายแพ็กเกจทัวร์ประเทศไทยสำหรับชาวญี่ปุ่น ส่วนชั้นบนก็จะมีร้านขนม คาเฟ่ และร้านอาหารเล็กๆ ให้นั่งพักขากัน
เดินเข้ามาอีกหน่อยก็มีร้านขายของใช้จากประเทศญี่ปุ่นที่คนไทยเราคุ้นเคยกันอย่างดี ที่ขายของในร้านในราคาเดียวกัน ซึ่งก็มีทั้งแม่บ้าน-พ่อบ้านชาวญี่ปุ่น และคนไทยเองที่แวะเวียนเข้าไปเลือกซื้อหาสินค้ากันอย่างไม่ขาดสาย
ระหว่างสองข้างทางที่เดินผ่านไปก็จะเห็นว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่หลากหลายร้าน ทั้งร้านขนมปัง-เบเกอรี่ ร้านของหวาน ร้านของกินเล่นอย่างทาโกะยากิ ร้านอาหารญี่ปุ่นนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ซาชิมิ หรือร้านราเมน เรียกว่ามีอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ หลากหลายเมนูให้เลือกชิมกัน ทั้งสำหรับคนไทยที่อยากลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแบบที่คนญี่ปุ่นกิน และชาวญี่ปุ่นที่อยากกินอาหารที่ตัวเองคุ้นเคย (คลิก!! อ่านเรื่องกินในย่านเจแปนนิส ทาวน์)
แต่สำหรับแม่บ้านญี่ปุ่นที่อยากปรุงอาหารสดๆ เองที่บ้าน ด้วยวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เดินเข้ามาจนเกือบสุดซอยก็จะเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ต UFM Fuji Super ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีข้าวของเครื่องใช้ วัตถุดิบในการปรุงอาหาร และอาหารสดที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาวางขายให้เลือกซื้อกัน แล้วก็ยังมีอาหารและของใช้ทั่วๆ ไปที่มีขายอยู่ในบ้านเราด้วย ซึ่งภายในซุปเปอร์ฯ ก็คล้ายๆ กับซุปเปอร์ฯ ของบ้านเรา ที่จะมีแม่บ้านมาจับจ่ายใช้สอยกันตลอดเวลา
แต่นอกจากของกินของใช้แบบญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ก็ยังมีความบันเทิงตามสไตล์คนญี่ปุ่นให้มาเลือกซื้อกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือญี่ปุ่น ที่จะขายทั้งหนังสือทั่วไป และนิตยสารจากประเทศญี่ปุ่น มีร้านเช่าหนังญี่ปุ่น เช่ารายการโทรทัศน์จากประเทศญี่ปุ่นมาไว้ดูเพื่อความบันเทิงและผ่อนคลายจากการทำงาน
เรียกว่าย่านเจแปนนิส ทาวน์ แห่งนี้ ถือเป็นแหล่งรวบรวมความเป็นคนญี่ปุ่นมาไว้ที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นย่านที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งความบันเทิง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดพบปะกันของชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย ให้พอคลายเหงาจากการอยู่ไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนได้ไม่มากก็น้อย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
Japanese Town อยู่ในย่านสุขุมวิท ประมาณซอยสุขุมวิท 30-39 โดยจุดที่มีร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบญี่ปุ่นเยอะที่สุดคือในซอยสุขุมวิท 33/1 การเดินทาง ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 5 แล้วเดินย้อนมาทางอโศกเล็กน้อย ก็จะเห็นปากซอยสุขุมวิท 33/1
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
