ชื่อเรียกของย่านแต่ละย่าน นับเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของย่านนั้นๆ และหากมีชื่อที่ดูแปลกด้วยแล้ว ก็นับเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นที่ “ย่านสะพานควาย” ย่านกลางใจกรุงเทพฯ แห่งนี้ ไม่ได้มีแค่ชื่อที่แปลกเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งย่านที่คึกคักไม่แพ้ย่านไหนๆ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจตั้งอยู่อีกด้วย
โดยย่านสะพานควายนั้นจะตั้งอยู่ที่บริเวณแยกสะพานควาย เป็นจุดตัดของถนนพหลโยธินกับถนนประดิพัทธ์ ซึ่งจุดกำเนิดของชื่อย่านแห่งนี้ ถูกเล่าไว้ว่า พื้นที่บริเวณสะพานควายนั้นเดิมมีชื่อเรียกว่าทุ่งศุภราช เป็นทุ่งนาปลูกข้าวขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานครริมคลองบางซื่อ เมื่อถึงฤดูแล้งว่างจากการทำนา บรรดานายฮ้อยจากภาคอีสานจะต้อนควายมาขายให้ชาวนาบริเวณนี้เลือกซื้อไว้ทำนา บริเวณนี้ในหน้าแล้งจึงเต็มไปด้วยฝูงควาย
ในเวลาต่อมามีการตัดถนนประดิพัทธ์มาเชื่อมกับถนนพหลโยธิน และเนื่องจากข้างถนนพหลโยธิน มีคูน้ำส่งน้ำจากคลองบางซื่อ ขวางสามแยกถนนประดิพัทธ์กับถนนพหลโยธิน เพื่อให้เป็นการดำเนินความสะดวกในการขายควายจึงมีการทำสะพานให้ควายเดินข้าม โดยใช้ไม้พาดให้ควายข้ามคูส่งน้ำจากถนนพหลโยธินเข้าถนนประดิพัทธ์ และเรียกกันว่า "สะพานควาย" จึงได้มาเป็นชื่อเรียกของย่านแห่งนี้ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เริ่มต้นการเที่ยวครั้งนี้ ด้วยการเดินเลียบถนนพหลโยธิน เรื่อยมาจนถึงใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยทั้งสองฟากฝั่งนั้นจะมีร้านค้าร้านอาหารมากมายให้เราได้จับจ่าย โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีอยู่มากมายหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวนานาชนิด ข้าวราดแกง ข้าวมันไก่ ให้เลือกแวะลองลิ้มชิมรสหรือซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน (คลิก!! อ่านเรื่องกินย่านสะพานควาย)
แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้ที่สุดก็เห็นจะเป็น เหล่าร้านเช่าพระเครื่องที่ตั้งอยู่เรียงรายริมถนนพหลโยธิน ที่มีอยู่มากมายหลายร้าน โดยจะเป็นจุดนัดพบของเหล่าเซียนพระมากหน้าหลายตาที่ยืนดูยืนชมพระเครื่อง สร้างความคึกคักให้กับย่านแห่งนี้ยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับใครๆ กำลังมองหาหนังสือการ์ตูนและนิตยสารมือสอง ก็ยังมีร้านหนังสือมือสองให้ได้แวะดูกันอีกด้วย
ใกล้กันนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารไปรษณีย์สามเสน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน" โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ของแสตมป์ไว้อย่างครบถ้วน ที่บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ยุคเริ่มต้น และวิวัฒนาการจนมาถึงยุคปัจจุบันของกิจการไปรษณียากร
ยังมีการจัดแสดงแสตมป์ต่างๆ มากมายหลายดวงให้ได้ชมกันอีกด้วย ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์ก็จะมีการจัดตลาดนัดคนรักแสตมป์ ให้สำหรับคนที่ชื่นชอบสะสมแสตมป์มาซื้อขายแลกเปลี่ยน อีกทั้งทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดนิทรรศการ “เปิดหน้าต่างอาเซียน” และนิทรรศการขยาย “กินใส่สไตล์อาเซียน” ให้ผู้ที่สนใจได้ชม โดยนิทรรศการนี้จะจัดยาวไปถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558
ถึงแม้จะเป็นย่านที่คึกคักไปด้วยผู้คน ย่านแห่งนี้ก็ยังมีมุมสงบอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นก็คือภายในบริเวณ “วัดไผ่ตัน” โดยวัดจะตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 15 ซึ่งภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวิหารจัตุรมุข เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496 ให้ผู้ที่แวะมาได้สักการะขอพรและทำบุญ อีกทั้งภายในวิหารยังมีภาพฝาผนังประดับมุกโดยเป็นเรื่องราวต่างๆ ในพระพุทธศาสนาให้ได้ชมกันอีกด้วย
ย่านสะพานควายแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าสนใจ หากมีโอกาสมาเที่ยวย่านแห่งนี้ ก็คงจะพูดได้ว่าคุ้มสุดๆ เพราะได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งบุญ และยังอิ่มท้อง เป็นอีกหนึ่งย่านที่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ หากมาเยือน
****************************************************************************************
การเดินทาง : รถประจำทางสาย 3, 8, 28, 29, 38, 44, 59, 108 และรถปรับอากาศสาย 29, 44, 503, 509, 510 ฯลฯ
รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารปฏิบัติการไปรษณีย์สามเสนใน (หลังที่ทำการไปรษณีย์สามเสนใน) เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันพุธ-อาทิตย์ หยุดวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาเข้าชม 08.30-16.30 น.
ตลาดนัดคนรักแสตมป์ จัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com