ในแต่ละจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทยนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย ... แต่การเดินทางไปเที่ยวในบางครั้ง บางจังหวัดก็ถูกใช้เป็นเพียงแค่ทางผ่านซึ่งได้แต่เหลียวมองว่าสักวันต้องมาเยือน .... แต่ในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” จะไม่ขอเลยไปไหน จะขอมุ่งตรงไปเที่ยวที่ “จังหวัดกำแพงเพชร” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลาย อีกทั้งยังมีเรื่องราวความเป็นมาในหน้าประวัติศาสตร์อย่างยาวนานอีกด้วย
เริ่มต้นการเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชรในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอเล่าเรื่องราวอันยาวนานในหน้าประวัติศาสตร์ อย่างย่อๆ ให้ได้ฟังกันเสียก่อน .... จังหวัดกำแพงเพชรเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าที่ปรากฏหลักฐานในเนื้อหาประวัติศาสตร์ไทยไม่น้อยกว่า 700 ปี เมื่อครั้งอดีตเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณ เช่น เมืองชากังราว เมืองนครชุม โดยมีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญ คือ กำแพงเมือง คูเมือง ป้อมปราการ และวัดโบราณ ที่ยังคงสภาพอย่างสมบูรณ์ และกลายมาเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2534
พอทราบประวัติความเป็นมาอย่างคร่าวๆ กันแล้ว ก่อนเริ่มต้นตะลอนเที่ยวก็ต้องไปสักการะ “ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร” กันก่อน โดยตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง เป็นศาลหลักเมืองที่มีความเก่าแก่อย่างมาก สันนิษฐานว่ามีอายุกว่า 700 ปี โดยเริ่มสร้างขึ้นสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 ซึ่งมีการบูรณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ศาลหลักเมืองแห่งนี้กลายมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวกำแพงเพชรมาหลายชั่วอายุคน และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองกำแพงเพชร ที่เมื่อใครได้มาเยือนก็ต้องมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังสักการะศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว เราก็จะไปเที่ยวต่อกันที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร” พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นที่รวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ได้จากการบูรณะโบราณสถานต่างๆ ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร โดยจัดแสดงโบราณวัตถุเป็นห้องๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เริ่มตั้งแต่ยุคเริ่มแรกจนถึงยุคปัจจุบัน ทำให้เราเข้าใจในเรื่องราวอันยาวนานได้อย่างง่ายดาย โดยมีไฮไลต์เด่นคือ “รูปปั้นพระศิวะสำริด” ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและมีจารึกที่พระบาทของรูปปั้น ซึ่งใครแวะมาก็ต้องมามองที่พระบาทของรูปปั้นนี้ เพื่อลองอ่านอักษรที่จารึกไว้ ... แต่ก็ไม่มีใครสามารถอ่านออกนอกจากนักโบราณคดี
หลังได้ศึกษาประวัติอันยาวนานกันมาแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปชมเหล่าโบราณสถานต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมาย จนเป็นที่ชินตาของคนกำแพงเพชร แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้อย่างมาก ที่ที่เราจะไปนั้นคือ “อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ลักษณะของศิลปะและสถาปัตยกรรมในอุทยานแห่งนี้เป็นศิลปะแบบเดียวกับที่ปรากฏ ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และศรีสัชนาลัย ซึ่งทั้งสามอุทยานฯ ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกร่วมกันจากยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2534
โบราณสถานที่เราจะไปชมที่แรกในเขตอุทยานฯ คือ “วัดช้างรอบ” โดยเป็นโบราณสถานที่เป็นไฮไลต์เด่นในเขตอุทยานฯ แห่งนี้ วัดช้างรอบตั้งอยู่บนเนินสูงของอุทยานฯ โดยมีพระเจดีย์ใหญ่ตั้งอยู่กลางลานด้านบนที่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ที่ฐานลานเจดีย์เป็นรูปปั้นช้างครึ่งตัวเห็นแต่ 2 ขาหน้าหันศีรษะออกจากฐานรายรอบฐานลานเจดีย์ ซึ่งยังคงความงดงามเป็นอย่างมาก
ถัดมาคือ “วัดพระสี่อิริยาบถ” ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ สิ่งก่อสร้างสำคัญภายในวัดคือ วิหารที่สร้างบนฐานทักษิณขนาดใหญ่ ด้านหลังวิหารสร้างเป็นมณฑปทำหน้าที่เป็นเจดีย์ประธานของวัดลักษณะแบบจตุรมุขซึ่งทำเป็นมุมยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ผนังแต่ละด้านของแท่งสี่เหลี่ยมก่อให้เว้าเข้าไปได้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ กันคือ เดิน นั่ง ยืน นอน ปัจจุบันหลงเหลือเเต่พระยืนด้านทิศใต้ให้เราได้ชมความงดงาม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรแห่งนี้ยังมีโบราณสถานที่น่าสนใจที่มากมาย อาทิ วัดพระนอน, วัดอาวาสใหญ่, วัดพระสิงห์ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความงดงามอย่างมากให้เราได้ตะลอนเที่ยว
หลังจากชมความยิ่งใหญ่ของโบราณสถานกันแล้ว เราก็จะข้ามฝั่งไปเที่ยวเมืองนครชุม ซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำปิง ในระหว่างทางที่ไปนั้น ก็สามารถพบเห็นแนวกำแพงเมืองโบราณที่ยาวเหยียด โบราณสถานต่างๆ ตลอดเส้นทาง นับได้ว่าจังหวัดกำแพงเพชรนั้นร่ำรวยด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์จริงๆ สมกับเป็นเมืองสำคัญที่มีประวัติยาวนานกว่า 700 ปี ... และหากใครที่อยากจะแวะชมหรือถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึกก็สามารถทำได้
หลังชมโบราณสถานระหว่างทางและข้ามฝั่งแม่น้ำปิงกันมาแล้ว ก็จะมาถึงเขตเมืองนครชุม ซึ่งจะตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ในเขตอำเภอเมือง เมืองนครชุมแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร โดยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฝั่งนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น “วัดพระบรมธาตุเจดียาราม” ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “พระบรมธาตุเจดีย์” เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครชุมที่ใครๆได้มาเยือนก็ต้องมาสักการะและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นโบราณสถานที่มีประวิติความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ โดยรูปทรงที่เห็นในปัจจุบันนั้นจะมีสถาปัตยกรรมเป็นแบบมอญ เนื่องจากการบูรณะครั้งหลังสุด พระเจดีย์ได้ถูกบูรณะโดยคหบดีชาวพม่า ซึ่งได้ขอพระราชานุญาตปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้จาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และได้สั่งทำยอดฉัตรจากประเทศพม่ามาประดิษฐานบนยอดพระเจดีย์แห่งนี้
หลังได้สักการะพระบรมธาตุเจดีย์กันแล้ว ตะลอนเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะไปชม “แหล่งเรียนรู้การทำพระเครื่องนครชุม” เพราะเรื่องราวของพระเครื่องนครชุมนั้น นับได้ว่าเป็นที่เลื่องชื่อลือชาเป็นอย่างมาก ที่แหล่งเรียนรู้แห่งนี้จะมีคุณลุงสมหมาย พยอม เป็นผู้ดูแลและให้ความรู้ โดยคุณลุงจะเป็นผู้เล่าเรื่องราวของประวัติพระเครื่องนครชุม ที่มีการทำมาตั้งแต่เมื่อสมัยเมืองนครชุมยังเคยรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีตให้เราฟัง โดยคุณลุงจะเป็นผู้สาธิตการทำพระเครื่องให้เราได้ดูอีกด้วย และหากใครสนใจก็สามารถทำพระเครื่องของตัวเอง ให้ได้ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของที่ระลึก ให้นึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาเยือนเมืองนครชุม (คลิกติดตามเรื่อง “พระเครื่อง เมืองนครชุม” ได้ที่ลิงก์นี้)
อีกทั้งที่เมืองนครชุมยังมีอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ มากมายทั้งของคาวของหวาน ให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันอีกด้วย อาทิ เมี่ยงคำนครชุม, ขนมดอกดิน, แป้งตัด และ “ขนมข้าวตอก” ที่เป็นของดีของเด่นที่ไม่ควรพลาดของเมืองนครชุมแห่งนี้ (คลิกติดตามเรื่อง “ขนมข้าวตอก” ได้ที่ลิงก์นี้)
หลังตะลอนเที่ยวกันมาอย่างเต็มที่ ก็มีอาการเมื่อยล้าเกิดขึ้น สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปจึงจะพาไปพักและผ่อนคลายให้หายเหนื่อยกัน โดยที่ที่เราจะไปนั้นคือ “บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง” ซึ่งก็ตั้งอยู่ที่ตำบลลานดอกไม้ ในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร โดยเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ถูกชาวบ้านค้นพบด้วยการสังเกตจากเหล่าควาย เพราะเนื่องจากเป็นแอ่งน้ำเดียวที่เหล่าควายไม่ลงไปแช่น้ำ จึงทำให้ชาวบ้านรู้ว่าจุดนี้เป็นบ่อน้ำพุร้อน
ปัจจุบันมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีการสร้างลำธารตื้นๆ ที่ได้สูบน้ำมาจากบ่อน้ำร้อน ให้มานั่งชิลๆ หย่อนเท้าแช่น้ำร้อนผ่อนคลายสบายอารมณ์ อีกทั้งยังมีบริการฟรีอีกด้วย แต่หากใครที่อยากจะแช่ทั้งตัวแล้วก็สามารถทำได้โดยมีห้องสำหรับแช่ไว้ให้บริการอีกด้วย หลังจากลองแช่สักครั้งแล้ว ก็รู้สึกว่าช่วยผ่อนคลายความเมื่อยจากการตะลอนเที่ยวได้จริงๆ
ปิดท้ายการเที่ยวเมืองกำแพงเพชรในครั้งนี้ ด้วยการมาชมความงดงามของ “น้ำตกคลองลาน“ ที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน ในเขตอำเภอคลองขลุง น้ำตกคลองลานนับเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกำแพงเพชร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง และด้านล่างของน้ำตกเป็นลำธารที่สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งธรรมชาติโดยรอบนั้นก็ยังร่มรื่น เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในจังหวัดและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมา เหมาะเป็นจุดพักสุดท้ายของการมาตะลอนเที่ยวจังหวัดกำหวัดกำแพงเพชรครั้งนี้ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงภายในอุทยานฯ อาทิ น้ำตกคลองน้ำไหล, แก่งเกาะร้อย ให้ไปแวะชมความงดงามของธรรมชาติกันอีกด้วย
นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ร่ำรวยไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และนับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ใครๆ ก็ไม่ควรมองผ่าน หากใครที่กำลังคิดว่าจะมาเที่ยวกำแพงเพชรแล้ว ก็คงจะพูดได้ว่า คุ้มจริงๆ กับการตัดสินใจครั้งนี้
***********************************************************************************************************************
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย พื้นที่รับผิดชอบสุโขทัย-กำแพงเพชร โทร.0-5561-6228-9
อุทยานประวัติศาสตร์กำเเพงเพชร เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. อัตราค่าเข้าชมคนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท โทร.0-5571-1921
อุทยานแห่งชาติคลองลาน โทร.0-5576-6002-3
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com