โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
“ดินแดนแห่งภูเขาเขียว เที่ยวล่องแพ แลหมอกปก น้ำตกงาม ลือนามผลไม้”
นี่คือคำขวัญของ อำเภอพะโต๊ะ อำเภอใต้สุดของจังหวัดชุมพร ที่มากไปด้วยสิ่งน่าสนใจชวนให้ค้นหา
1...
ในพื้นที่ด้ามขวานทองตอนกลางบนรอยต่อหลายจังหวัด มีป่าดงดิบผืนใหญ่ซึ่งว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุดในภาคใต้ ทอดตัวให้ความอุดมสมบูรณ์อยู่บริเวณสันเขาสูงของสันปันน้ำที่ต่อเนื่องมาจากภูเขาถนนธงชัย และเทือกเขาตะนาวศรีที่กั้นระหว่างเขตแดนไทย-พม่า เชื่อมต่อเป็นผืนป่าคลองยันและแก่งกรุงในสุราษฎร์ฯ ส่วนทางฝั่งตะวันตกเป็นผืนป่าคลองนาคาในจังหวัดระนองเชื่อมยาวลงไปถึงพังงา
ขณะที่ในช่วงกลางบริเวณเขาสูงของแนวป่าผืนนี้ในชุมพรมีผืนป่า“พะโต๊ะ”ทอดตัวเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ ให้ความอุดมสมบูรณ์ร่มรื่นแก่สรรพชีวิตต่างๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของภาคใต้ ทั้งการเที่ยวป่า น้ำตก สัมผัสวิถีชีวิต โฮมสเตย์ รวมถึงกิจกรรมล่องแพพะโต๊ะอันขึ้นชื่อ พาสัมผัสธรรมชาติของผืนป่า สายน้ำที่ไหลผ่านป่าเขา สวนผลไม้ของชาวบ้าน บางช่วงมีแก่งน้ำสะเทือนให้พอได้ตื่นเต้นกันเล็กน้อยถึงปานกลาง
ขณะที่ระหว่างทางนั้น ถ้าหากไปกันแบบเงียบๆจำนวนไม่มากบวกกับมีโชคดีผสมก็อาจจะพบสัตว์หายากประจำถิ่น อย่าง ค่างแว่นถิ่นใต้และนกเงือกได้
2...
ทุกๆปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทางอำเภอพะโต๊ะ อบจ.ชุมพร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานชุมพร จะร่วมมือกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยว “เทศกาลล่องแพพะโต๊ะ” ขึ้น โดยปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 8-9 ก.พ. ที่ผ่านมา ณ ที่หน้าที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะ
ในงานล่องแพพะโต๊ะ นอกจากจะมีกิจกรรมล่องแพเป็นไฮไลท์แล้ว ยังมีกิจกรรมน่าสนใจ อื่นๆ อาทิ การแข่งจักรยานเสือภูเขา ประกวดธิดาล่องแพ ประกวดนกกรงหัวจุก หนังตะลุง การแสดงของเยาวชน รวมไปถึงกิจกรรมเด่นอย่าง “เปิดเมืองกินฟรี” ซึ่งผมค่อนข้างกับชื่องานนี้ เพราะใช้ไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าเปิดเมือง บ้างก็ว่าปิดเมือง แต่ขออ้างอิงตามเอกสารททท.แล้วกันว่าเป็นงานเปิดเมืองกินฟรี ที่จัดขึ้นในเย็นวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ในช่วงคาบเกี่ยวกับงานใหญ่ชัตดาวน์ แบงคอก ของมวลมหาประชาชนที่กรุงเทพฯ
งานเปิดเมืองกินฟรีพะโต๊ะจัดขึ้นบนถนนสายเทศบาล 1 ตรงข้ามที่การอำเภอพะโต๊ะ ในงานมีการออกร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ให้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว มาเปิดเมืองเดินกินกันเพียบ สำหรับอาหารที่ผมติดใจมากก็คือพวกอาหารพื้นบ้าน(เพราะหากินไม่ได้ง่าย) อย่าง ทอดมันสมุนไพร ต้มข่าไก่ใส่ลูกชก(คล้ายลูกชิด) แกงหยวกกล้วยใส่หมู 3 ชั้นที่เด็ดมาก และไข่กระบอกหรือไข่ตุ๋นไม้ไผ่ในกระบอกข้าวหลาม ที่มีกรรมวิธีการทำคล้ายข้าวหลาม ไก่หลาม เผากันสดๆข้างหลังร้าน ก่อนตักไข่ในกระบอกไม้เสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวกินกันร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุย รสชาติกลมกล่อม
งานเปิดเมืองกินฟรีในวันนั้น มีมวลมหาประชาชนมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก หลายคนแสดงจุดยืนชัดเจนกับสัญลักษณ์ธงชาติ นกหวีด หลายคนกินไป เป่านกหวีดไป ขณะที่ผู้ร่วมงานอีกจำนวนมากก็เข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ เลือกหาอาหารที่ถูกใจกินกันเป็นที่เพลิดเพลิน
นับเป็นอีกหนึ่งมหกรรมการกิน(ฟรี)ที่ใครมีปัญญากินได้เท่าไหร่ เชิญกินกันตามสบาย แต่อย่าให้ถึงกับท้องแตกตายเหมือนชูชกเป็นพอ
3...
กลางคืน...ทะเลดาว
ตอนเช้า...ทะเลหมอก
แดดออก...ทะเลป่า
ที่นี่...พะโต๊ะ
นี่เป็นสโลแกนท่องเที่ยวอันแสนกิ๊บเก๋ของพะโต๊ะที่นำเสนอไฮไลท์ 3 ทะเลอันเป็นมนต์เสน่ห์ของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปร่วมล่องแพสัมผัสสายน้ำในเทศกาลล่องแพพะโต๊ะหนล่าสุด
สำหรับใครที่อยากเห็นทะเลดาวในตอนกลางคืน ขอแนะนำว่าให้มานอนที่พะโต๊ะทั้งแบบโฮมสเตย์หรือที่พิเศษก็คือกลางเต็นท์บริเวณสนามหญ้าหน้าที่ว่าการอำเภอในช่วงเทศกาลล่องแพ ที่ทางผู้จัดงานเขาจัดสรรเต็นท์ไว้ให้ ซึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยวไปพักนอนเต็นท์กันเป็นจำนวนมาก
หลังชมทะเลดาวในยามค่ำคืนแล้ว เมื่อตื่นเช้ามาจะพบกับทะเลหมอกที่บางวันหมอกก็แน่นหนาทึบ บางวันหมอกก็ลอยอ้อยอิ่งสวยงาม และบางวันหมอกก็ไม่มี
จากนั้นในช่วงสายๆของวันที่ 8-9 ก็จะเป็นกิจกรรมล่องแพ โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าชื่อลงทะเบียนเมื่อมารวมตัวกันพร้อมแล้ว ก็จะนั่งรถ 2 แถวประจำถิ่น เดินทางไปยังท่าน้ำหาดทรายจุดลงแพที่ “บ้านในหยาน” ที่อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะไปประมาณ 8 กม.
แล้วจากนั้นก็เป็นเวลาเปียกปอนกับการล่องแพ ที่เดี๋ยวนี้ทางผู้ให้บริการแพพะโต๊ะเขาหันมาใช้แพท่อพีวีซีแทนแพไม้ไผ่ เพื่อไม่ต้องตัดไม้ไผ่ ทำลายทรัพยากร เพราะแพท่อพีวีซีใช้ได้คงทนยาวนานกว่า ไม้ไผ่ที่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ
สำหรับใครที่มาล่องแพในเทศกาลล่องแพ ผมขอบอกว่า ถ้าอยากจะมาสัมผัสกับธรรมชาติในบรรยากาศสงบๆ คงต้องมาในวันอื่น เพราะในช่วงเทศกาลมีคนมาล่องแพเยอะมาก มีแพหลายสิบลำ ร่วมล่องไปในสายน้ำ นับเป็นบรรยากาศการล่องแพที่สนุกครื้นเครง เพราะมีเพื่อนๆนักท่องเที่ยวมาร่วมล่องแพกันเป็นจำนวนมาก(แพ 1 ลำ ลองได้ประมาณ 4-6 คน)
โดยหลังแพจะล่องไปตามแม่น้ำหลังสวน ผ่านบรรยากาศของป่าเขาอันร่มรื่นเขียวครึ้ม สลับกับเรือกสวนของชาวบ้าน ซึ่งระหว่างนี้มีนักท่องเที่ยวหลายคนกระโดดลงเล่นน้ำ บางไหลลอยตัวไปตามแพ บางจิบเครื่องดื่มเย็นๆอย่างสุดชิลล์เคล้าบรรยากาศ
ระหว่างทางล่องแพในช่วงเทศกาลของปีนี้ นอกจากจะมีบรรยากาศสวยๆงามของวิวทิวทัศน์ให้ชมกันแล้ว ยังมีเรือเซเว่นมาบริการขายของถึงที่ ขณะที่ระหว่างทางก็มีเพิ่งขายอาหารริมทางให้บริการ ทั้งเครื่องดื่ม กวยจั๊บร้อนๆ และของกินอีกหลากหลาย
ส่วนที่ถือเป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งที่บางคนชอบ แต่บางคนไม่ชอบ ก็คือการเปิดเพลงเต็นท์กระจายของนักเต้นกลุ่มหนึ่งในริมแม่น้ำช่วงหนึ่งของเส้นทาง นักเต้นบางคนในกลุ่มนี้มองแต่ไกลก็พอใช้ได้ ชนิดที่ตอนกลางคืนสามารถเต้นแทนแดนซ์เซอร์ของหญิงลีได้ แต่ประทานโทษ!!! เมื่อแพเฉียดไปใกล้ๆ โอ้ว...นางไม่ใช่ผู้หญิงนี่หว่า แถมกล้ามแขนเธอเมื่อเห็นใกล้ๆนั้นล่ำพอๆกับลูกบวบแพ ส่วนกล้ามขาก็น้องๆพี่บัวขาวโน่น งานนี้ใครจะลงแพไปแด๊นซ์กับพวกเธอก็เชิญ ส่วนแพของผมขอบายล่องแพต่อไปดีกว่า
สำหรับกิจกรรมล่องแพพะโต๊ะในช่วงเทศกาลที่ผมไปสัมผัสมานั้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะมาขึ้นฝั่งที่โรงเรียนพะโต๊ะ
งานนี้ใช้เวลาล่องแพสัมผัสบรรยากาศสนุกๆของสายน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งทางผู้จัดงานมีการจัดเลี้ยงข้าวเที่ยงกับนักท่องเที่ยว พร้อมดนตรีเพื่อชีวิตเพราะขับกล่อม ที่ต้องถือว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มมาก เพราะเสียค่าล่องแพรวมเบ็ดเสร็จแค่ 200 บาทเท่านั้น
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของพะโต๊ะ ดินแดน 3 ทะเล ที่รอคอยให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสกัน
4…
พะโต๊ะนอกจากจะมีผืนป่าสมบูรณ์อันลือเลื่องแล้ว ที่นี่ยังมีนักอนุรักษ์คนสำคัญ คือ “พงศา ชูแนม” ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น “สืบ นาคะเสถียร แห่งต้นน้ำพะโต๊ะ” ผู้ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ และรางวัลบุคคลผู้ทำประโยชน์ให้สังคมไปมากมาย
พงศาเป็นผู้นำแนวคิดในการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยการจัดตั้งโครงการ “ธนาคารต้นไม้” เพื่อให้คนช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่นเน้นในการพัฒนา “คน” ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของชาติ
พงศาเป็นนักสู้วีรบุรุษคนดังแห่งพะโต๊ะ ผู้รอบรู้ มีวาทกรรมอันคมคาย(ล่าสุดพี่แกปล่อยวาทะเด็ดออกมาเมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ. 57 ได้รับการแชร์สั่นเฟซบุ๊ค ใครอยากรู้ต้องไปติดตามในโลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย) รวมถึงเป็นหนึ่งในนักปราศรัยขวัญใจมวลมหาประชาชน ที่ให้แนวคิดในการปฏิรูปประเทศไว้อย่างน่าสนใจว่า เราต้องปฏิรูปความเป็น“ธรรม”ในสังคม
เพราะถ้าผู้นำมีคุณธรรม สังคมมีความยุติธรรม
บ้านเมืองก็จะไม่ลุกเป็นไฟเหมือนในทุกวันนี้
****************************************
สอบถามรายละเอียดกิจกรรมล่องแพพะโต๊ะเพิ่มเติมได้ที่ อำเภอพะโต๊ะ โทร. 0-7753-9040 หรือที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทร. 0-7750-2775 - 6
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“ดินแดนแห่งภูเขาเขียว เที่ยวล่องแพ แลหมอกปก น้ำตกงาม ลือนามผลไม้”
นี่คือคำขวัญของ อำเภอพะโต๊ะ อำเภอใต้สุดของจังหวัดชุมพร ที่มากไปด้วยสิ่งน่าสนใจชวนให้ค้นหา
1...
ในพื้นที่ด้ามขวานทองตอนกลางบนรอยต่อหลายจังหวัด มีป่าดงดิบผืนใหญ่ซึ่งว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุดในภาคใต้ ทอดตัวให้ความอุดมสมบูรณ์อยู่บริเวณสันเขาสูงของสันปันน้ำที่ต่อเนื่องมาจากภูเขาถนนธงชัย และเทือกเขาตะนาวศรีที่กั้นระหว่างเขตแดนไทย-พม่า เชื่อมต่อเป็นผืนป่าคลองยันและแก่งกรุงในสุราษฎร์ฯ ส่วนทางฝั่งตะวันตกเป็นผืนป่าคลองนาคาในจังหวัดระนองเชื่อมยาวลงไปถึงพังงา
ขณะที่ในช่วงกลางบริเวณเขาสูงของแนวป่าผืนนี้ในชุมพรมีผืนป่า“พะโต๊ะ”ทอดตัวเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ ให้ความอุดมสมบูรณ์ร่มรื่นแก่สรรพชีวิตต่างๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของภาคใต้ ทั้งการเที่ยวป่า น้ำตก สัมผัสวิถีชีวิต โฮมสเตย์ รวมถึงกิจกรรมล่องแพพะโต๊ะอันขึ้นชื่อ พาสัมผัสธรรมชาติของผืนป่า สายน้ำที่ไหลผ่านป่าเขา สวนผลไม้ของชาวบ้าน บางช่วงมีแก่งน้ำสะเทือนให้พอได้ตื่นเต้นกันเล็กน้อยถึงปานกลาง
ขณะที่ระหว่างทางนั้น ถ้าหากไปกันแบบเงียบๆจำนวนไม่มากบวกกับมีโชคดีผสมก็อาจจะพบสัตว์หายากประจำถิ่น อย่าง ค่างแว่นถิ่นใต้และนกเงือกได้
2...
ทุกๆปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทางอำเภอพะโต๊ะ อบจ.ชุมพร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานชุมพร จะร่วมมือกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยว “เทศกาลล่องแพพะโต๊ะ” ขึ้น โดยปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 8-9 ก.พ. ที่ผ่านมา ณ ที่หน้าที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะ
ในงานล่องแพพะโต๊ะ นอกจากจะมีกิจกรรมล่องแพเป็นไฮไลท์แล้ว ยังมีกิจกรรมน่าสนใจ อื่นๆ อาทิ การแข่งจักรยานเสือภูเขา ประกวดธิดาล่องแพ ประกวดนกกรงหัวจุก หนังตะลุง การแสดงของเยาวชน รวมไปถึงกิจกรรมเด่นอย่าง “เปิดเมืองกินฟรี” ซึ่งผมค่อนข้างกับชื่องานนี้ เพราะใช้ไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าเปิดเมือง บ้างก็ว่าปิดเมือง แต่ขออ้างอิงตามเอกสารททท.แล้วกันว่าเป็นงานเปิดเมืองกินฟรี ที่จัดขึ้นในเย็นวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ในช่วงคาบเกี่ยวกับงานใหญ่ชัตดาวน์ แบงคอก ของมวลมหาประชาชนที่กรุงเทพฯ
งานเปิดเมืองกินฟรีพะโต๊ะจัดขึ้นบนถนนสายเทศบาล 1 ตรงข้ามที่การอำเภอพะโต๊ะ ในงานมีการออกร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ให้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว มาเปิดเมืองเดินกินกันเพียบ สำหรับอาหารที่ผมติดใจมากก็คือพวกอาหารพื้นบ้าน(เพราะหากินไม่ได้ง่าย) อย่าง ทอดมันสมุนไพร ต้มข่าไก่ใส่ลูกชก(คล้ายลูกชิด) แกงหยวกกล้วยใส่หมู 3 ชั้นที่เด็ดมาก และไข่กระบอกหรือไข่ตุ๋นไม้ไผ่ในกระบอกข้าวหลาม ที่มีกรรมวิธีการทำคล้ายข้าวหลาม ไก่หลาม เผากันสดๆข้างหลังร้าน ก่อนตักไข่ในกระบอกไม้เสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวกินกันร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุย รสชาติกลมกล่อม
งานเปิดเมืองกินฟรีในวันนั้น มีมวลมหาประชาชนมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก หลายคนแสดงจุดยืนชัดเจนกับสัญลักษณ์ธงชาติ นกหวีด หลายคนกินไป เป่านกหวีดไป ขณะที่ผู้ร่วมงานอีกจำนวนมากก็เข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ เลือกหาอาหารที่ถูกใจกินกันเป็นที่เพลิดเพลิน
นับเป็นอีกหนึ่งมหกรรมการกิน(ฟรี)ที่ใครมีปัญญากินได้เท่าไหร่ เชิญกินกันตามสบาย แต่อย่าให้ถึงกับท้องแตกตายเหมือนชูชกเป็นพอ
3...
กลางคืน...ทะเลดาว
ตอนเช้า...ทะเลหมอก
แดดออก...ทะเลป่า
ที่นี่...พะโต๊ะ
นี่เป็นสโลแกนท่องเที่ยวอันแสนกิ๊บเก๋ของพะโต๊ะที่นำเสนอไฮไลท์ 3 ทะเลอันเป็นมนต์เสน่ห์ของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปร่วมล่องแพสัมผัสสายน้ำในเทศกาลล่องแพพะโต๊ะหนล่าสุด
สำหรับใครที่อยากเห็นทะเลดาวในตอนกลางคืน ขอแนะนำว่าให้มานอนที่พะโต๊ะทั้งแบบโฮมสเตย์หรือที่พิเศษก็คือกลางเต็นท์บริเวณสนามหญ้าหน้าที่ว่าการอำเภอในช่วงเทศกาลล่องแพ ที่ทางผู้จัดงานเขาจัดสรรเต็นท์ไว้ให้ ซึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยวไปพักนอนเต็นท์กันเป็นจำนวนมาก
หลังชมทะเลดาวในยามค่ำคืนแล้ว เมื่อตื่นเช้ามาจะพบกับทะเลหมอกที่บางวันหมอกก็แน่นหนาทึบ บางวันหมอกก็ลอยอ้อยอิ่งสวยงาม และบางวันหมอกก็ไม่มี
จากนั้นในช่วงสายๆของวันที่ 8-9 ก็จะเป็นกิจกรรมล่องแพ โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าชื่อลงทะเบียนเมื่อมารวมตัวกันพร้อมแล้ว ก็จะนั่งรถ 2 แถวประจำถิ่น เดินทางไปยังท่าน้ำหาดทรายจุดลงแพที่ “บ้านในหยาน” ที่อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะไปประมาณ 8 กม.
แล้วจากนั้นก็เป็นเวลาเปียกปอนกับการล่องแพ ที่เดี๋ยวนี้ทางผู้ให้บริการแพพะโต๊ะเขาหันมาใช้แพท่อพีวีซีแทนแพไม้ไผ่ เพื่อไม่ต้องตัดไม้ไผ่ ทำลายทรัพยากร เพราะแพท่อพีวีซีใช้ได้คงทนยาวนานกว่า ไม้ไผ่ที่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ
สำหรับใครที่มาล่องแพในเทศกาลล่องแพ ผมขอบอกว่า ถ้าอยากจะมาสัมผัสกับธรรมชาติในบรรยากาศสงบๆ คงต้องมาในวันอื่น เพราะในช่วงเทศกาลมีคนมาล่องแพเยอะมาก มีแพหลายสิบลำ ร่วมล่องไปในสายน้ำ นับเป็นบรรยากาศการล่องแพที่สนุกครื้นเครง เพราะมีเพื่อนๆนักท่องเที่ยวมาร่วมล่องแพกันเป็นจำนวนมาก(แพ 1 ลำ ลองได้ประมาณ 4-6 คน)
โดยหลังแพจะล่องไปตามแม่น้ำหลังสวน ผ่านบรรยากาศของป่าเขาอันร่มรื่นเขียวครึ้ม สลับกับเรือกสวนของชาวบ้าน ซึ่งระหว่างนี้มีนักท่องเที่ยวหลายคนกระโดดลงเล่นน้ำ บางไหลลอยตัวไปตามแพ บางจิบเครื่องดื่มเย็นๆอย่างสุดชิลล์เคล้าบรรยากาศ
ระหว่างทางล่องแพในช่วงเทศกาลของปีนี้ นอกจากจะมีบรรยากาศสวยๆงามของวิวทิวทัศน์ให้ชมกันแล้ว ยังมีเรือเซเว่นมาบริการขายของถึงที่ ขณะที่ระหว่างทางก็มีเพิ่งขายอาหารริมทางให้บริการ ทั้งเครื่องดื่ม กวยจั๊บร้อนๆ และของกินอีกหลากหลาย
ส่วนที่ถือเป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งที่บางคนชอบ แต่บางคนไม่ชอบ ก็คือการเปิดเพลงเต็นท์กระจายของนักเต้นกลุ่มหนึ่งในริมแม่น้ำช่วงหนึ่งของเส้นทาง นักเต้นบางคนในกลุ่มนี้มองแต่ไกลก็พอใช้ได้ ชนิดที่ตอนกลางคืนสามารถเต้นแทนแดนซ์เซอร์ของหญิงลีได้ แต่ประทานโทษ!!! เมื่อแพเฉียดไปใกล้ๆ โอ้ว...นางไม่ใช่ผู้หญิงนี่หว่า แถมกล้ามแขนเธอเมื่อเห็นใกล้ๆนั้นล่ำพอๆกับลูกบวบแพ ส่วนกล้ามขาก็น้องๆพี่บัวขาวโน่น งานนี้ใครจะลงแพไปแด๊นซ์กับพวกเธอก็เชิญ ส่วนแพของผมขอบายล่องแพต่อไปดีกว่า
สำหรับกิจกรรมล่องแพพะโต๊ะในช่วงเทศกาลที่ผมไปสัมผัสมานั้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะมาขึ้นฝั่งที่โรงเรียนพะโต๊ะ
งานนี้ใช้เวลาล่องแพสัมผัสบรรยากาศสนุกๆของสายน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งทางผู้จัดงานมีการจัดเลี้ยงข้าวเที่ยงกับนักท่องเที่ยว พร้อมดนตรีเพื่อชีวิตเพราะขับกล่อม ที่ต้องถือว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มมาก เพราะเสียค่าล่องแพรวมเบ็ดเสร็จแค่ 200 บาทเท่านั้น
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของพะโต๊ะ ดินแดน 3 ทะเล ที่รอคอยให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสกัน
4…
พะโต๊ะนอกจากจะมีผืนป่าสมบูรณ์อันลือเลื่องแล้ว ที่นี่ยังมีนักอนุรักษ์คนสำคัญ คือ “พงศา ชูแนม” ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น “สืบ นาคะเสถียร แห่งต้นน้ำพะโต๊ะ” ผู้ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ และรางวัลบุคคลผู้ทำประโยชน์ให้สังคมไปมากมาย
พงศาเป็นผู้นำแนวคิดในการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยการจัดตั้งโครงการ “ธนาคารต้นไม้” เพื่อให้คนช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่นเน้นในการพัฒนา “คน” ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของชาติ
พงศาเป็นนักสู้วีรบุรุษคนดังแห่งพะโต๊ะ ผู้รอบรู้ มีวาทกรรมอันคมคาย(ล่าสุดพี่แกปล่อยวาทะเด็ดออกมาเมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ. 57 ได้รับการแชร์สั่นเฟซบุ๊ค ใครอยากรู้ต้องไปติดตามในโลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย) รวมถึงเป็นหนึ่งในนักปราศรัยขวัญใจมวลมหาประชาชน ที่ให้แนวคิดในการปฏิรูปประเทศไว้อย่างน่าสนใจว่า เราต้องปฏิรูปความเป็น“ธรรม”ในสังคม
เพราะถ้าผู้นำมีคุณธรรม สังคมมีความยุติธรรม
บ้านเมืองก็จะไม่ลุกเป็นไฟเหมือนในทุกวันนี้
****************************************
สอบถามรายละเอียดกิจกรรมล่องแพพะโต๊ะเพิ่มเติมได้ที่ อำเภอพะโต๊ะ โทร. 0-7753-9040 หรือที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทร. 0-7750-2775 - 6
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
