xs
xsm
sm
md
lg

“Lost in Thailand-เจมส์ บอนด์-เดอะ บีช” นำทัพหนังไทยส่งเมืองไทยดังไกลทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เขาตาปู” พังงา ในฉากหนึ่งของเรื่องเจมส์ บอนด์ ตอน เพชฌฆาตปืนทอง
เมืองไทยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างกว้างขวาง ด้วยภาพความสวยงามของธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่ถูกถ่ายทอดไปในสื่อต่างๆ และ “ภาพยนตร์” ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยทางอ้อมที่ได้ผลดี ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในบ้านเราเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากยิ่งขึ้น

แหล่งท่องเที่ยวที่งดงามหลากหลายของบ้านเราได้ไปต้องตาต้องใจเหล่าผู้กำกับให้เดินทางมายังเมืองไทยเพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และเมื่อภาพยนตร์เหล่านั้นออกฉายผ่านสายตาผู้ชมทั่วโลก ก็ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นแรงดึงดูดให้ผู้ที่ได้ชมอยากลองมาสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวที่ได้เห็น
เขาตาปู พังงา ที่ได้รับฉายาว่า เกาะเจมส์ บอนด์
มีภาพยนตร์ต่างชาติหลายเรื่องที่ใช้ฉากสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยเรื่องแรกตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ยังสาว คือภาพยนตร์เรื่อง “เจมส์ บอนด์” ตอน เพชฌฆาตปืนทอง (James Bond 007 The Man With The Golden Gun) ที่เข้าฉายเมื่อปี 2517 ผู้ที่รับบทเจมส์ บอนด์ ในขณะนั้นคือโรเจอร์ มัวร์ (Roger Moore) และได้ใช้ “เขาตาปู” (เกาะตาปู) ในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา เป็นฉากถ่ายทำ และด้วยเสียงตอบรับจากผู้ชมภาพยนต์เรื่องนี้เกี่ยวกับทัศนียภาพที่เสนอผ่านแผ่นฟิล์ม จึงทำให้อ่าวพังงาเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วจนทำให้เขาตาปูได้รับขนานนามใหม่ว่า “เกาะเจมส์ บอนด์” และเป็นที่รู้จักมาจนทุกวันนี้
“อ่าวมาหยา” เกาะพีพีเล จังหวัดกระบี่
ถัดมาเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ใช้ฉากเป็นท้องทะเลไทย คือภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ บีช” (The Beach) ที่ก่อนจะมาถ่ายทำที่ประเทศไทย ทางทีมงานได้ตระเวนหาสถานที่ถ่ายทำในหลายประเทศ ทั้งออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ศรีลังกา จนกระทั่งได้บทสรุปที่ประเทศไทยตามเนื้อหาในบทประพันธ์จริงๆ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำกันที่อ่าวมาหยา บนเกาะพีพีเล จังหวัดกระบี่ โดยมี ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) พระเอกชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่องไททานิค เป็นผู้แสดงนำ ด้วยฉากหลังที่สวยงามของน้ำทะเลสีครามและหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ในอ่าวมาหยาที่เผยให้เห็นในหนัง ทำให้ผู้ที่ได้ชมถึงกับตกตะลึงในความงดงามของทะเลไทยจนต้องเดินทางมาสัมผัสด้วยตัวเอง และนักท่องเที่ยวหลายคนก็ได้ขนานนามอ่าวแห่งนี้เสียใหม่ว่า “อ่าวเดอะบีช” ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวและทำให้ท้องทะเลไทยเป็นที่รู้จักมากมากยิ่งขึ้น
หลายๆฉากในเมืองไทย ของเรื่อง “บันทึกรักเล่มสองของบริดจิตโจนส์” (ภาพจากเว็บไซต์)
ภาพยนตร์แนวตลกสนุกสนาน เรื่อง “บันทึกรักเล่มสองของบริดจิตโจนส์” (Bridget Jones : The Adge of Reason) ก็มาถ่ายทำในไทย และทำให้หลายคนรู้จักมุมต่างๆ ของประเทศไทยมากขึ้นผ่านบทตลกขำขันของนักแสดงนำ เรเน่ เซลเวเกอร์ (Rene Zellweger) โดยมีหลายๆ สถานที่ในเมืองไทยของเราปรากฏเป็นฉากในภาพยนตร์ อาทิ ย่านพัฒนพงษ์ในกรุงเทพฯ พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เกาะปันหยีในจังหวัดพังงา อีกทั้งยังมีนักแสดงไทยเข้าร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ฉากซาบซึ้งในเรื่อง “สึนามิ ภูเก็ต” (ภาพจากเว็บไซต์)
ภาพยนตร์เรื่อง “สึนามิ ภูเก็ต” (The Impossible 2004) อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งเกิดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติที่เมืองไทย ในบทภาพยนตร์ได้มีการรำลึกเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มในหลายๆ ประเทศแถบมหาสมุทรอินเดียรวมถึงประเทศไทยเมื่อปี 2547 โดยเล่าเรื่องราวผ่านบทที่ซาบซึ้ง นำแสดงโดยสองนักแสดงชื่อดัง ยวน แม็คเกรเกอร์ (Ewan McGregor) และนาโอมิ วัตต์ (Naomi Watts) โดยมีฉากหลังบางส่วนถ่ายทำที่ประเทศไทยด้วย ซึ่งคือฉากโรงพยาบาลตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ที่ปิดโรงพยาบาลบางส่วนเพื่อถ่ายทำกันจริงๆ อีกทั้งบทภาพยนตร์ในเรื่องได้แสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทยซึ่งเป็นที่ประทับใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำไมนักท่องเที่ยวจึงเลือกมาเที่ยวประเทศไทย

เมื่อภาพยนตร์เปิดตัวก็ได้กระแสตอบรับและเสียงชื่นชมเป็นอย่างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะฉายให้เห็นฉากต่างๆ ในประเทศไทยแล้ว ก็ยังแสดงถึงน้ำจิตน้ำใจของคนไทยในช่วงเวลาวิกฤต จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักเมืองไทยและคนไทยมากยิ่งขึ้น
“ลอสต์ อิน ไทยแลนด์ “ ภาพยนตร์ที่สร้างกระแสตามรอยหนังในเมืองไทย (ภาพจากเว็บไซต์)
อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ทำให้กระแสการท่องเที่ยวในไทยคึกคักมากขึ้นเป็นพิเศษจากนักท่องเที่ยวชาวจีน คือภาพยนตร์เรื่อง “แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์” (Lost in Thailand) ภาพยนตร์สัญชาติจีนแนวตลกผจญภัย ซึ่งมีฉากหลังถ่ายทำในไทยเกือบทั้งเรื่อง และเมื่อเปิดตัวก็ได้สร้างสถิติเป็นหนังเรื่องแรกของจีนที่ทำเงินทะลุ 1,000 ล้านหยวน ฉากที่ใช้ถ่ายทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความสวยงาม อาทิ วัดบุปผาราม วัดแสนฝาง หมู่บ้านแม่กำปอง ที่ปางช้างเชียงดาว ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะชาวจีน อยากเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ที่ถูกใช้เป็นโลเกชันหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้

กระแสของภาพยนตร์แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์ ยังทำให้เกิดทัวร์ตามรอยภาพยนตร์ของนักท่องเที่ยวจีน ที่หลั่งไหลมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 10 ทำรายได้ให้กับเมืองไทยอย่างมากมาย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยเผยว่า ช่วง 11 เดือนแรกของปี 2555 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยว 19.8 ล้านคน เป็นคนจีนร้อยละ 13 แต่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 24.5 ล้านคนในปี 2556 นี้ เพิ่มจากปี 2555 ที่มียอดนักท่องเที่ยวประเมินไว้ที่ 21 ล้านคน นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ชาวจีนรู้จักกับประเทศไทยมากขึ้นหลายเท่าตัวจริงๆ
ฉากสงครามในเรื่องอเล็กซานเดอร์ โดยมีบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ รับบทกษัตริย์อินเดีย (ภาพจากเว็บไซต์)
ยังมีภาพยนตร์อีกหลายๆ เรื่องที่ใช้ฉากหลังในเมืองไทย อาทิ แฮงก์โอเวอร์ ภาค 2 ที่แม้จะถ่ายทอดเรื่องราวของบ้านเราไปในแนวที่ไม่ค่อยจะโสภา แต่ก็ฉายภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เรื่อง อเล็กซานเดอร์ (Alexander) ที่ใช้สถานที่ถ่ายทำบางตอนที่จังหวัดอุบลราชธานีและสระบุรี เรื่อง สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3 (Star Wars Episode 3) ที่ถ่ายทำบางตอนที่จังหวัดกระบี่ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการที่ชาวต่างชาติได้รู้จักกับเมืองไทยนั้นมีหลากหลายช่องทาง สื่อภาพยนตร์จึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนเมืองไทย แต่เหนือสิ่งอื่นใด ในฐานะผู้เป็นเจ้าบ้านเราควรแสดงไมตรีจิตให้ผู้มาเยือนได้เห็นและจดจำเมืองไทยในแง่ดีตลอดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น