กลิ่นหอมๆ ของเนื้อที่ย่างอยู่บนเตาถ่านร้อนๆ กำลังสุกได้ที่โชยกลิ่นหอมขึ้นมาเตะจมูก และยั่วยวนให้น้ำลายของ “ตระเวนกิน” พาลจะไหลเป็นยิ่งนัก
เพราะในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” ได้หอบหิ้วกระเพาะน้อยๆ ตรงดิ่งมานั่งอยู่หน้าเตาปิ้งย่างของร้าน “Yakiya” (ยากิย่า) ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงถนนพระราม 3 ที่นี่จัดได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อย่างก็ว่าได้ เพราะคำว่า ”Yaki” (ยากิ) หมายถึงเนื้อย่าง ส่วนคำว่า “Ya” (ย่า) หมายถึงร้าน ที่นี่จึงเป็น “ร้านเนื้อย่าง” เพื่อคนรักการกินเนื้อย่างจริงๆ
อีกทั้งบรรยากาศร้านYakiya ก็ชวนนั่ง ด้วยความที่ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เมื่อมาถึงร้านจะสัมผัสได้กับบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งแบบโมเดิร์น ดูดีมีสไตล์แฝงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น และมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายโซน ด้านล่างเป็นห้องแอร์มีมุมโต๊ะนั่งแบบโซฟา และโต๊ะนั่งแบบสบายๆ ส่วนชั้น 2 มีโซนห้องส่วนตัวให้บริการอยู่ 3 ห้อง และโซนด้านนอกเป็นมุมพิเศษที่จัดโต๊ะนั่งแบบโรแมนติกให้ได้นั่งปิ้งย่าง รับลมธรรมชาติเย็นๆ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันงดงาม ยิ่งยามพระอาทิตย์ตกได้บรรยากาศอบอุ่นเป็นยิ่งนัก
ร้าน “Yakiya” นำเสนอเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีความพิเศษโดนเด่นกว่าร้านอื่นๆ ตรงที่ ทางร้านจะเน้นคัดสรรเนื้อพรีเมี่ยมนำเข้าจากญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ เลี้ยงจากฟาร์มเลี้ยงวัวในประเทศญี่ปุ่น ที่มีกระบวนการเลี้ยงที่พิถีพิถัน และทางร้านยังเลือกสั่งเนื้อมาเฉพาะเนื้อตรงส่วนสันคอวัวเท่านั้น เพราะว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของวัว เป็นส่วนที่ได้รับการนวดและไม่ได้ออกกำลัง ทำให้เนื้อวัวส่วนนี้มีความนุ่มเป็นพิเศษ อีกทั้งลายไขมันมีความละเอียดมาก เมื่อย่างแล้วจะได้เนื้อที่มีทั้งความนุ่มและมีกลิ่นหอมที่ชวนกิน
สำหรับปิ้งย่างของที่ร้าน Yakiya จะเป็นแบบให้เลือกสั่งเมนูเนื้อต่างๆ เป็น a la carte เท่านั้น มีเมนูเนื้อวัวนำเข้าจากญี่ปุ่นหลากหลายชนิดให้เลือกสั่งมาลิ้มรส และยังมีเนื้อไทยคุณภาพดีที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ซึ่งเมนูเนื้อของที่นี่ทางร้านจะให้เลือกได้ว่าจะสั่งแบบหมักเกลือ (โรยเกลือและพริกไทยบนเนื้อ) หรือหมักซีอิ้ว รวมถึงยังมีเนื้อหมูปลอดสารพิษ อาหารทะเล ผักออร์แกนิค และเมนูอาหารอื่นๆ ที่ชวนกินมากมาย
และในส่วนของเตาที่ใช้สำหรับปิ้งย่าง ทางร้านก็ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีเอกลักษณ์ตรงที่เป็นเตารูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่กำลังดี มีตะแกรงวางบนเตา และที่นี่เลือกใช้ถ่านจากญี่ปุ่น ซึ่งให้ความร้อนนาน และมากินปิ้งย่างที่นี่ไม่ต้องกลัวจะเหม็นเรื่องกลิ่นควัน เพราะเตาของที่ร้านนี้มีระบบดูดควันที่ดีเยี่ยมมากๆ ไร้กลิ่นเหม็นติดตัวให้รำคาญใจ
แล้วเมื่อจะกินเนื้อย่างก็ต้องไม่ลืมสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ น้ำจิ้ม ที่นี่มีน้ำจิ้มให้เลือก 2 แบบ คือ แบบแรกเป็นน้ำจิ้มยากิย่าสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นปรุงขึ้นมาเอง มีรสชาติเข้มข้นถูกปากโดนใจ แถมยังมีพริก กระเทียม และมะนาวให้ใส่เพิ่มรสชาติความแซบตามสไตล์คนไทย อีกแบบคือ น้ำจิ่มโชยุแบบญี่ปุ่น เป็นน้ำจิ้มใสๆ รสออกเค็มนำหวานตามถูกปากไปอีกแบบ
เอาล่ะว่าแล้วก็มาลงมือสั่งเมนูเนื้อต่างๆ ที่ชวนกินของที่นี่มาปิ้งย่างบนเตาถ่านร้อนๆ กันดีกว่า ในมื้อนี้เราเลือกสั่งเนื้อมามากมายหลายหลาก เริ่มด้วยจานแรก เนื้อโกเบ (1,000 บาท) เป็นเนื้อพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น คัดสรรมาอย่างดีนำเนื้อมาย่างพอสุก ส่งชิ้นเนื้อเข้าปากเคี้ยวสัมผัสได้ถึงความนุ่มหอมอร่อยของเนื้อชั้นดี และจานต่อมา คือ เนื้อมัตซึสะกะ (1,200 บาท) เป็นเนื้อพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นเช่นกัน เนื้อมีลายไขมันแทรก พอย่างสุกได้ที่กินแล้วเนื้อนุ่มเคี้ยวหนึบหนับโดนใจปากมาก
คุโระเคะพรีเมี่ยม (จานเล็ก 1,300 บาท จานใหญ่ 2,500 บาท) เป็นเนื้อพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น ที่มีลายของเนื้อที่สวยงาม ย่างหอมๆ ชวนกินเคี้ยวนุ่มลิ้นเหมือนแทบจะละลายในปาก ส่วนอีกอย่างคือ เนื้อซุปเปอร์วากิว (จานเล็ก 1,100 บาท จานใหญ่ 2,000 บาท) ก็เป็นเนื้อพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นเหมือนกัน โดนเด่นที่พอนำมาย่างแล้ว เนื้อสุกได้ที่ส่งกลิ่นหอม เคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มชุ่มลิ้น
ยากิย่าสเปเชี่ยล (370 บาท) เป็นเนื้อไทยเกรดดี ที่ทางร้านคัดเนื้อส่วนพิเศษมาโดยเฉพาะ สไลด์มาเป็นชิ้น ย่างร้อนๆ บนเตาส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหนึบหนับโดนใจ แล้วก็มี เนื้อโฮเนะ (370 บาท) เป็นเนื้อไทยที่คัดมาเป็นพิเศษ เป็นส่วนของเนื้อติดซี่โครง แต่เลาะมากระดูกออกแล้ว ย่างได้ที่กินแล้วเคี้ยวนุ่มถูกปากไม่แพ้กัน
แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อก็มี หมูดำ (380 บาท) เป็นเนื้อหมูดำปลอดสารพิษนำเข้าจากญี่ปุ่น สไลด์มาเป็นชิ้นกำลังดี ย่างสุกได้ที่ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มอร่อยลิ้น
หรือจะสั่งเป็น ชุดรวมอาหารทะเล (520 บาท) ที่มีกุ้ง ปลาแซลมอน หมึก และหอยเชลล์ชิ้นใหญ่ๆ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ย่างบนเตาร้อนๆ อร่อยได้ใจกับความสดหวานของซีฟู้ด
และนอกจากเมนูเนื้อจานเด่นที่ได้นำเสนอมาเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีเนื้ออย่างอื่นที่ชวนสั่งมากินอีกมากมาย อาทิ เนื้อคุโระเคะวากิว (จานเล็ก 800 บาท จานใหญ่ 1,500 บาท) เนื้อริบอาย (300 บาท) ลิ้นวัว (220 บาท) เนื้อหมูโทนโทโร่ (150 บาท) ชุดรวมหมู (320 บาท) ผักซันจู (120 บาท) ) ข้าวผัดกระเทียม (50 บาท) ฯลฯ
เรียกว่าถ้าหากมิตรรักนักกินคนไหน พิสมัยการกินอาหารประเภทปิ้งย่าง ขอแนะนำให้มาอร่อยกับปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นกันได้ที่ร้าน “Yakiya” จะได้อิ่มอร่อยกับเนื้อพรีเมี่ยมคุณภาพแบบอิ่มหนำสำราญใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Yakiya” (Yakiniku Restaurant) ตั้งอยู่ที่ 662/67-68 ถ.พระราม 3 ระหว่างซ.28-28/1 ตรงข้ามวัดดอกไม้ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. การเดินทางถ้ามาจากคลองเตย ให้วิ่งมาถ.พระราม 3 วิ่งตรงมาเรื่อยๆ เลยสี่แยกสาธุประดิษฐ์ ให้สังเกตทางซ้ายมือจะเจอบริษัทไลอ้อน และจะเห็นซอยถัดไป (ตรงข้ามกับวัดดอกไม้) จะเห็นป้ายร้านYakiya อยู่ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอย และตรงไปจนสุดก็จะเห็นร้าน Yakiya อยู่ริมแม่น้ำ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00-23.00 น. ถ้ามากินและต้องการโต๊ะโซนโรแมนติกแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะล่วงหน้า โทร. 0-2294-1933, 08-4670-8989 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/YakiyaRestaurant
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน “Yakiya" (ยากิย่า)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
