ถ้าใครวางแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศสักที่หนึ่งที่มีทั้งธรรมชาติสวยงาม ศิลปวัฒนธรรมน่าทึ่ง และยังมีความทันสมัยควบคู่กันไปด้วย ประเทศญี่ปุ่นคงเป็นที่หมายแรกที่หลายๆ คนตั้งใจจะไปเยือนให้ได้สักครั้ง
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าทึ่ง เพราะด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ แต่ยังสามารถพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัยแทบทุกๆ ด้าน และยังคงรักษาวิถีชีวิตวัฒนธรรมดั่งเดิมไว้อย่างครบถ้วนในทุกๆ เมือง เช่น โตเกียว โอซะกะ หรือแม้แต่เมืองที่เรากำลังพาไป Landing อย่าง “นาริตะ”
เมืองนาริตะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจิบะซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เมืองนาริตะเป็นเมืองที่มีความเจริญไม่แพ้เมืองหลวง เนื่องจากมีสนามบินนานาชาตินาริตะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาลงที่สนามบินนาริตะก่อนแล้วจึงเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ ซึ่งมีความสะดวกสบายของเส้นทางการเดินทางที่สามารถเดินทางต่อไปได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟที่ไปยังเมืองอื่นๆ ได้
สิ่งแรกที่ดึงดูดใจสำหรับผู้ที่มาเยือนเมืองนาริตะคือวัดนาริตะซัน ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากและมีผู้คนเดินทางมาสักการะมากเป็นอันดับสองรองจากศาลเจ้าเมจิในโตเกียวเลยทีเดียว วัดนาริตะซันมีความงดงามมากทางสถาปัตยกรรมพุทธแบบอินเดีย ที่ผสมผสานกับเอกลักษณ์ศิลปะญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว และมีพื้นที่โดยรอบที่สวยงามพร้อมประโยชน์ใช้สอย เช่น บริเวณเจดีย์ห้าชั้น บริเวณสระน้ำใหญ่ บริเวณสำหรับสักการะ หรือแม้แต่บริเวณสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีผู้นำไปด้วย ในช่วงเทศการปีใหม่ผู้คนจำนวนมากจะมาขอพร ณ วัดแห่งนี้ โดยมีความเชื่อว่าคำขอจะสัมฤทธิ์ผล มีความสุขและโชคดีทั้งปี
สำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ การมาวัดนาริตะซันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะในบริเวณวัดจะมีพื้นที่ของสวนสาธารณะที่มีความเป็นธรรมชาติมาก สองข้างทางเดินจะเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดแข่งกันออกดอกออกใบหลายสีสวยงาม และหากเดินไปจนถึงบริเวณสระน้ำใหญ่ก็จะพบกับผืนน้ำที่ใสและนิ่งสงบเหมาะสำหรับนั่งผ่อนคลาย ยิ่งถ้าใครมาในช่วงที่เทศกาลชมซากุระในเดือนมีนาคม-เมษายน ก็จะได้ดื่มด่ำความงามของซากุระที่ออกดอกเต็มต้นอยู่โดยรอบสระน้ำ
นอกจากวัดและธรรมชาติตามแบบฉบับของเมืองนาริตะแล้ว เมืองนาริตะยังเป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เป็นนักชิมตัวยงด้วย เพราะเมืองนาริตะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อมากเรื่องข้าวหน้าปลาไหลที่เป็นแบบฉบับดั่งเดิมทำแบบชามต่อชาม อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลาไหลสดย่างอย่างดีและซีอิ๊วรสชาติกลมกล่อมที่สุด
จบจากการชื่นชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแล้ว อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือนนาริตะคือ ห้างอิออน พลาซ่า ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัยทุกรูปแบบเพราะทุกพื้นที่ของห้างแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำให้ได้จับจ่ายของนำเทรนด์ให้ตัวเอง แล้วยังซื้อของฝากกลับเมืองไทยได้แบบไม่ต้องยั้ง หนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาดคือร้าน 100 เยน ที่สินค้าทุกชิ้นในร้านราคาเพียง 100 เยน (เหมือน Daiso ในเมืองไทย) ซึ่งแน่นอนว่าร้านนี้ได้รับความนิยมจากคนไทยมากชนิดที่ว่าเหมาขึ้นเครื่องกับบ้านกันเลยทีเดียว
สำหรับใครที่วางแผนจะไปไปญี่ปุ่นล่ะก็ ลองปักหมุดให้เมืองนาริตะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับปีนี้ หรือใครสนใจอยากเดินทางไปนาริตะแบบฟรีๆ ตอนนี้ AEON Royal Orchid Plus Platinum Card มีโปรโมชั่นสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรก็มีสิทธิ์บินไปเที่ยวเมืองนาริตะแบบฟรีๆ กับการบินไทย
• ทุกๆ 20 บาทที่ใช้จ่ายผ่านบัตรรับ 1 ไมล์สะสม
• สมัครบัตรผ่านช่องทางออนไลน์รับไมล์สะสมสูงสุด 5,500 ไมล์
• รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 36,000 บาทต่อปี
• รับและลุ้นของสมนาคุณ อาทิ กระเป๋าเดินทาง ตั๋วเครื่องบินฟรีจากการบินไทย และลุ้นไปเมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น
อย่าปล่อยให้จุดหมายปลายทางที่จะสร้างความสุขและความทรงจำดีๆ มีอยู่แค่ในความคิด เพราะวันนี้เราสามารถเดินทางไปเก็บเกี่ยวทุกความสุขได้ด้วยทางเลือกที่สะดวกสบายกว่าที่คิด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครบัตร AEON Royal Orchid Plus Platinum Card ได้ที่ www.aeon.co.th/rop
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าทึ่ง เพราะด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ แต่ยังสามารถพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัยแทบทุกๆ ด้าน และยังคงรักษาวิถีชีวิตวัฒนธรรมดั่งเดิมไว้อย่างครบถ้วนในทุกๆ เมือง เช่น โตเกียว โอซะกะ หรือแม้แต่เมืองที่เรากำลังพาไป Landing อย่าง “นาริตะ”
เมืองนาริตะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจิบะซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เมืองนาริตะเป็นเมืองที่มีความเจริญไม่แพ้เมืองหลวง เนื่องจากมีสนามบินนานาชาตินาริตะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาลงที่สนามบินนาริตะก่อนแล้วจึงเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ ซึ่งมีความสะดวกสบายของเส้นทางการเดินทางที่สามารถเดินทางต่อไปได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟที่ไปยังเมืองอื่นๆ ได้
สิ่งแรกที่ดึงดูดใจสำหรับผู้ที่มาเยือนเมืองนาริตะคือวัดนาริตะซัน ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากและมีผู้คนเดินทางมาสักการะมากเป็นอันดับสองรองจากศาลเจ้าเมจิในโตเกียวเลยทีเดียว วัดนาริตะซันมีความงดงามมากทางสถาปัตยกรรมพุทธแบบอินเดีย ที่ผสมผสานกับเอกลักษณ์ศิลปะญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว และมีพื้นที่โดยรอบที่สวยงามพร้อมประโยชน์ใช้สอย เช่น บริเวณเจดีย์ห้าชั้น บริเวณสระน้ำใหญ่ บริเวณสำหรับสักการะ หรือแม้แต่บริเวณสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีผู้นำไปด้วย ในช่วงเทศการปีใหม่ผู้คนจำนวนมากจะมาขอพร ณ วัดแห่งนี้ โดยมีความเชื่อว่าคำขอจะสัมฤทธิ์ผล มีความสุขและโชคดีทั้งปี
สำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ การมาวัดนาริตะซันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะในบริเวณวัดจะมีพื้นที่ของสวนสาธารณะที่มีความเป็นธรรมชาติมาก สองข้างทางเดินจะเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดแข่งกันออกดอกออกใบหลายสีสวยงาม และหากเดินไปจนถึงบริเวณสระน้ำใหญ่ก็จะพบกับผืนน้ำที่ใสและนิ่งสงบเหมาะสำหรับนั่งผ่อนคลาย ยิ่งถ้าใครมาในช่วงที่เทศกาลชมซากุระในเดือนมีนาคม-เมษายน ก็จะได้ดื่มด่ำความงามของซากุระที่ออกดอกเต็มต้นอยู่โดยรอบสระน้ำ
นอกจากวัดและธรรมชาติตามแบบฉบับของเมืองนาริตะแล้ว เมืองนาริตะยังเป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เป็นนักชิมตัวยงด้วย เพราะเมืองนาริตะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อมากเรื่องข้าวหน้าปลาไหลที่เป็นแบบฉบับดั่งเดิมทำแบบชามต่อชาม อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลาไหลสดย่างอย่างดีและซีอิ๊วรสชาติกลมกล่อมที่สุด
จบจากการชื่นชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแล้ว อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือนนาริตะคือ ห้างอิออน พลาซ่า ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัยทุกรูปแบบเพราะทุกพื้นที่ของห้างแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำให้ได้จับจ่ายของนำเทรนด์ให้ตัวเอง แล้วยังซื้อของฝากกลับเมืองไทยได้แบบไม่ต้องยั้ง หนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาดคือร้าน 100 เยน ที่สินค้าทุกชิ้นในร้านราคาเพียง 100 เยน (เหมือน Daiso ในเมืองไทย) ซึ่งแน่นอนว่าร้านนี้ได้รับความนิยมจากคนไทยมากชนิดที่ว่าเหมาขึ้นเครื่องกับบ้านกันเลยทีเดียว
สำหรับใครที่วางแผนจะไปไปญี่ปุ่นล่ะก็ ลองปักหมุดให้เมืองนาริตะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับปีนี้ หรือใครสนใจอยากเดินทางไปนาริตะแบบฟรีๆ ตอนนี้ AEON Royal Orchid Plus Platinum Card มีโปรโมชั่นสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรก็มีสิทธิ์บินไปเที่ยวเมืองนาริตะแบบฟรีๆ กับการบินไทย
• ทุกๆ 20 บาทที่ใช้จ่ายผ่านบัตรรับ 1 ไมล์สะสม
• สมัครบัตรผ่านช่องทางออนไลน์รับไมล์สะสมสูงสุด 5,500 ไมล์
• รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 36,000 บาทต่อปี
• รับและลุ้นของสมนาคุณ อาทิ กระเป๋าเดินทาง ตั๋วเครื่องบินฟรีจากการบินไทย และลุ้นไปเมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น
อย่าปล่อยให้จุดหมายปลายทางที่จะสร้างความสุขและความทรงจำดีๆ มีอยู่แค่ในความคิด เพราะวันนี้เราสามารถเดินทางไปเก็บเกี่ยวทุกความสุขได้ด้วยทางเลือกที่สะดวกสบายกว่าที่คิด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครบัตร AEON Royal Orchid Plus Platinum Card ได้ที่ www.aeon.co.th/rop
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)