สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เปิดบริการเพิ่มเที่ยวบินมายังกรุงเทพฯ - โดฮา จากเดิมสามเที่ยวบินเป็นสี่เที่ยวบินต่อวัน ชั้น 1 บริเวณแฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน โดยการเพิ่มเที่ยวบินดังกล่าวจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้
สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการบินชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย และจากจุดนี้ ผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยกาตาร์ แอร์เวย์ส(Qatar Airways) ได้มีการเปิดบริการเที่ยวบินเพิ่มเติม คิดเป็นความถี่ตารางบินมากถึง 28 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินนั้นเป็นไปเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เติบโตขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดหลักๆ ทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาและสหรัฐอเมริกา
ทุกเที่ยวบินของเส้นทางบินกรุงโดฮา-กรุงเทพฯ จะให้บริการด้วยเครื่องบิน Boeing 777 โดยให้บริการในแบบที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ในแต่ละเที่ยวบินจะประกอบไปด้วยระบบความความบันเทิงทั้งภาพและเสียงส่วนบุคคลเต็มรูปแบบโดยมีโปรแกรมให้เลือกชมนับ 1,000 รายการ
นายโจ ราจาดูไร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและพม่า สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ กล่าวว่า กลยุทธ์ของเราคือการให้บริการในเส้นทางยอดนิยมพร้อมด้วยเที่ยวบินที่มีความถี่ของตารางบินจำนวนมาก และเส้นทางบินมายังกรุงเทพฯ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง
“กรุงเทพฯ ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเส้นทางการบินที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับเราอันเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้โดยสารจากตลาดหลักๆ ทั่วโลก ปัจจุบันนี้ ด้วยความสามารถในการให้บริการเพิ่มเติมที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ เราสามารถนำเสนอทางเลือกให้แก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเดินทางเพื่อการพักผ่อนหรือการเดินทางเพื่อธุรกิจก็ตาม นอกจากนี้กรุงเทพฯ ยังเป็นสถานที่ได้รับความสนใจในการการดูแลสุขภาพทั้งความงามและการรักษาทางการแพทย์ของไทยที่ชาวต่างชาตินิยมมากันมากขึ้นอีกด้วย
จากกรุงเทพฯ นักเดินทางสามารถต่อเที่ยวบินไปยังจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทยได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต เกาะสมุย เป็นต้น ซึ่งสามารถที่รองรับการบินไปภายในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงบินต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้อีกด้วย ซึ่งทำให้กรุงเทพฯ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการเป็นจุดแวะพักแห่งแรกของการท่องเที่ยวพักผ่อนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
การเพิ่มไฟลท์บินที่ 4 นี้ สามารถที่จะรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวไป-กลับ ได้มากขึ้น โดยเครื่องบินรองรับที่นั่งได้ 335 ที่นั่ง พอดีกับเราได้หยุดบริการบิน กรุงเทพฯ-ไซง่อน ทำให้มีที่นั่งเพิ่มขึ้นได้ถึง 500 ที่นั่ง คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่ม 50 %
สำหรับผู้โดยสารคนไทยมีเพิ่มมากขึ้น โดยจะบินเส้นทางหลัก โรม มิลาน วอซอร์ บูดาเปสท์ ลอนดอน ปารีส บาเซโลน่า เป็นต้น และแนวโน้มการเดินทางของผู้โดยสารที่ใช้บริการในเดือนเมษายนมีถึง 70 % สำหรับเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม การเดินทางของผู้โดยสารต่างชาติอื่นๆ ก็จะหยุด หรือเดินทางน้อยลง แต่ผู้โดยสารตะวันออกกลางก็ยังคงเดินทางอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะหมุนเวียนไปแบบนี้ตลอดฤดูกาล