xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยขายดี เมืองแห่งการกิน-เที่ยว-ช้อป กับสารพัดรางวัลระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัดพระแก้วในกรุงเทพฯ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปีที่คนในวงการท่องเที่ยวไทยต้องทำงานกันอย่างหนัก หลังจากที่บ้านเราต้องประสบเหตุการณ์อะไรหลายๆ อย่าง ทั้งมหาอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมา และเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมืองที่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ แต่ก็น่าปลื้มใจที่โดยรวมแล้วการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ค่อนข้างสดใส นักท่องเที่ยวยังคงให้ความสนใจและยังเลือกเมืองไทยให้เป็นจุดมุ่งหมายของการเดินทาง โดยดูได้จากผลสำรวจของหลายๆ สำนักทั่วโลกที่เรารวบรวมมาให้ชมกัน

เที่ยวเมืองไทย เมืองไหนก็น่าเที่ยว

ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้วละก็ เมืองไทยย่อมติดอันดับอย่างไม่น่าสงสัย ด้วยทรัพยากรทางการท่องเที่ยวของไทยที่มีอยู่เหลือเฟือ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่คว้าแชมป์สุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางแห่งเอเชียจาก Master Card Global Deslination Cities Index ที่จัดทำผลสำรวจประจำปี 2555 ขึ้น และพบว่ากรุงเทพฯ มาแรงคว้าอันดับ 1 สุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 12.2 ล้านคน อีกทั้งยังคว้าอันดับ 3 ของเมืองที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 6.5% และค่าใช้จ่ายข้ามพรมแดน 16.6%
ทัศนียภาพอันสวยงามของเกาะพีพีดอนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ด้านเชียงใหม่ก็ฮิตไม่น้อยหน้า ติดอันดับ 1 ใน 10 ที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชีย ที่จัดอันดับโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ โดยจัดอันดับรางวัลสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นประจำปี 2555 (2012 Travellers’ Choice® Destinations on the Rise) วัดผลจากการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการตอบรับในเชิงบวก และความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า เมืองเชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวในภาคเหนือของประเทศไทยอยูในอันดับ 8 ของสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในทวีปเอเชีย

ส่วนทะเลไทยนั้นก็ไม่เคยเป็นรองใคร โดยเกาะพีพี-ลันตา-สมุย นำ 7 ทะเลไทย ติดโผ 10 อันดับ ชายหาดน่าเที่ยวที่สุดในเอเชีย ซึ่งจัดอันดับโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ประกาศผลการจัดอันดับ Traveler’s Choice Award ประจำปี 2012 เพื่อรวบรวมผลโหวตแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่น่าประทับใจของสมาชิกเว็บไซต์ที่มีอยู่ทั่วโลก จากการรวบรวมผลโหวตในประเภท Beach Destinations ปรากฏว่า หมู่เกาะพีพีดอน จ.กระบี่ ได้รับการโหวตให้ได้อันดับ 2 ประเภทชายหาดน่าท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมีชายหาดที่สวยงาม และมีจุดดำน้ำลึกและน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว นอกจากนั้น ยังมีชายหาดอื่นๆ ของประเทศไทย ที่ได้รับการโหวตให้ติดใน 10 อันดับดังกล่าวอีกเช่นกัน ได้แก่ เกาะลันตา จ.กระบี่ (อันดับ 3) เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี (อันดับ 4) เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี (อันดับ 5) หาดกะตะ จ.ภูเก็ต (อันดับ 6) หาดเฉวง จ.สุราษฎร์ธานี (อันดับ 8) และ บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี (อันดับ 10)

นอกจากนั้น เกาะพีพียังได้รับอีกหนึ่งตำแหน่ง โดยถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวสบายกระเป๋า ที่น่าไปเยือนที่สุดในโลก ประจำปี 2013 โดยบัดเจ็ตทราเวล เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวแบบประหยัดงบซึ่งมีฐานอยู่ที่นิวยอร์ก ระบุว่า ในปี 2013 ที่กำลังจะมาถึงมีแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก 10 แห่งที่ติดอันดับ “สวรรค์” ของการท่องเที่ยวแบบราคาประหยัด เนื่องจากผลสำรวจข้อมูลเชิงลึกของทีมงานพบว่า มีแนวโน้มที่ราคาของโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้จะมีความ “เป็นมิตร” ต่อนักท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเกาะพีพี ในจังหวัดกระบี่ของไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวของไทยที่มีชื่อติดโผดังกล่าว
แหล่งช้อปมากมายในกรุงเทพฯ พร้อมรอรับนักท่องเที่ยว
เที่ยวเมืองไทย ช้อปกระจาย จ่ายสนุก

ไม่เพียงเป็นเมืองที่น่าเที่ยวเท่านั้น แต่เมืองไทยยังถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าช้อปปิ้งมากที่สุดในโลก โดยผลสำรวจจากสองสำนัก ได้แก่ เว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ และเว็บไซต์โกลบอล บลู โดยผลสำรวจของเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์กล่าวว่า กรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 2 เมืองที่เหมาะกับการชอปปิ้งซื้อของมากที่สุดในโลก โดยเป็นรองแค่มหานครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ นอกจากนั้น กรุงเทพฯ ยังติดอันดับ 3 เมืองที่มีค่าเงินถูกและคุ้มค่าต่อการมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย

ส่วนเว็บไซต์โกลบอล บลู ยกให้กรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 7 ในดัชนีเมืองชอปปิ้งทั่วโลก (Globe Shopper Index) โดยพิจารณาจาก 5 ปัจจัยโดดเด่น ได้แก่ ร้านค้า ราคาที่สามารถจ่ายได้ ความสะดวกสบาย โรงแรมที่พักและระบบขนส่ง ตลอดจนวัฒนธรรมและสภาพอากาศ โกลบอล บลู จัดทำดัชนีเมืองชอปปิ้งทั่วโลก ร่วมกับ ดิ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิท (the Economist Intelligence Unit) เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นเครื่องมือช่วยวางแผนในการค้นหาจุดหมายเพื่อเดินทางไปชอปปิ้งในภูมิภาคยุโรปและเอเชียแปซิฟิก

การจัดอันดับดังกล่าว พบว่ากรุงเทพฯ มีคะแนนโดดเด่นด้านราคาที่คุ้มค่าและประหยัด โดยคว้าแชมป์สุดยอดค่าที่พักโรงแรมระดับ 2 ดาวและ 4 ดาวที่มีราคาประหยัดสุด ทั้งยังมีภัตตาคารและร้านอาหารที่มีราคาเหมาะสม นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังมีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอีกมากมายและจัดเทศกาลลดราคาที่มีระยะเวลายาวนาน
เสน่ห์ของเมืองไทยที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว
เที่ยวเมืองไทย กิน-พักแสนสบาย

บริการด้านการท่องเที่ยวในเรื่องที่พักและร้านอาหารของเมืองไทยก็เป็นอีกความประทับใจหนึ่งที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวไม่น้อย โรงแรมชั้นหนึ่งหลายๆ แห่งของไทยนอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของบริการอันน่าประทับใจแล้วยังมีความไม่ธรรมดา อย่างเช่น โรงแรมท้องทรายเบย์คอทเทจ แอนด์ โฮเต็ล เกาะสมุย ของประเทศไทย ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 ห้องน้ำของโรงแรมที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ของโลกจากเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์

ส่วนร้านอาหารไทย ภัตตาคารซีรอคโค (Sirocco) บนอาคารสเตททาวเวอร์ ชั้น 65 ถนนสีลม กรุงเทพฯ ก็ครองตำแหน่งที่ 2 ในการเป็นภัตตาคารบนดาดฟ้าที่น่าอัศจรรย์ แซงหน้าภัตตาคารอื่นๆ ทั่วโลก สำรวจโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์อีกเช่นเคย โดยมีความคิดเห็นจากสมาชิกของเว็บไซต์ที่เคยมาใช้บริการกล่าวว่า "เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดหากมาที่กรุงเทพฯ จากระเบียงจะมองเห็นทิวทัศน์ของทั้งเมือง และเมื่อยืนที่จุดนั้นจะรู้สึกเหมือนกำลังโบยบิน"

และอีกหนึ่งตำแหน่งที่แสดงให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสของวงการโรงแรมไทยก็คือการที่ประเทศไทยติดอันดับ 3 ของประเทศที่สร้างอาชีพในอุตสาหกรรมโรงแรมมากที่สุดในโลก สำรวจโดยทริปแอดไวเซอร์ อินดัสตรี้ อินเด็กซ์ (TripAdvisor Industry IndexTM) ซึ่งเป็นการสำรวจด้านโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
เมืองไทยยังขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งกินอาหารอร่อยอีกด้วย
เที่ยวเมืองไทย อบอุ่นใจด้วยมิตรไมตรี

“ยิ้มสยาม” ถือเป็นเสน่ห์ของเมืองไทยที่ประทับใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ดังนั้น เมื่อมีการสำรวจของเว็บไซต์ท่องเที่ยว สกายสแกนเนอร์ (Skyscanner) ของสหราชอาณาจักร ที่สอบถามความเห็นของนักท่องเที่ยวว่า “ประเทศใดในโลกที่หยาบคายกับนักท่องเที่ยวมากที่สุด” โดยมีตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวเลือกจำนวน 33 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ผลการสำรวจพบว่า ประเทศไทยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวว่าเป็น 1 ใน 5 ของประเทศที่หยาบคายกับนักท่องเที่ยวน้อยที่สุด โดยติดอันดับ 31 จาก 34 อันดับ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งของชาวไทย ในฐานะเจ้าของประเทศ

ส่วนเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ ซึ่งทำผลสำรวจร่วมกับบริษัทวิจัยการตลาดเบรนบ็อกซ์ ก็ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นนักท่องเที่ยวทั่วโลกราว 75,000 คน ระบุว่า กรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรมากที่สุดในอันดับที่ 7 ของโลก และเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับที่ 2 ของทวีปเอเชียรองจากกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น

ขณะที่ช่วงปลายปีเมืองไทยยังแรงไม่สร่างเมื่อ “ฮัฟฟิงตันโพสต์” สื่อออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐฯ ยกให้กรุงเทพมหานคร เป็น 1 ใน 20 เมืองที่ดีที่สุดของโลกสำหรับการเคานต์ดาวน์ร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งถือเป็นเมืองในเอเชียเพียง 1 ใน 2 ที่ติดโผครั้งนี้ร่วมกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
นอกจากนี้กรุงเทพฯ ยังคว้ารางวัลท่องเที่ยวส่งท้ายปีกับตำแหน่งแชมป์ เมืองยอดนิยมที่มีสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากการสำรวจของ Agoda.com เว็บไซต์จองห้องพักยอดนิยม โดยไทยติดถึง 3 เมืองใน 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต

ด้านผลจากการสำรวจของแม็คแคนน์ เวิลด์ กรุ๊ป บริษัทโฆษณาและวิจัยตลาด ได้จัดอันดับประเทศที่มีภาพลักษณ์ดีที่สุดของโลกและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดตามข้อมูลของ Country Brand Indexหรือ “ซีบีไอ”ประจำปี 2012-2013 โดยสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างในหลายประเทศเกี่ยวกับมุมมองที่พวกเขามีต่อประเทศต่างๆทั้งในมุมมองด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การทำธุรกิจรวมถึง คุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศนั้นๆ ตลอดจนมุมมองต่อความมี “ธรรมาภิบาล” ของรัฐบาลหรือผู้ปกครองประเทศต่างๆ ผลการสำรวจจัดให้ไทยเป็นดินแดนที่มีภาพลักษณ์ดีเป็นอันดับที่ 26 ของโลก แต่ถูกยกให้ติดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “Future 15” หรือ 15 ประเทศที่มีศักยภาพสูงที่สุด ในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านภาพลักษณ์ระดับโลกในอนาคต

ตำแหน่งทั้งหมดนี้ถ้าเป็นนางงามก็ต้องเรียกว่าได้รางวัลกันจนรับไม่หวาดไม่ไหว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รางวัลที่ได้รับไม่เฉพาะดอกไม้เท่านั้น แต่ยังมีก้อนหินมาถ่วงให้สมดุลกัน เช่น การติดอันดับประเทศที่เสี่ยงต่อการก่อการร้ายของโลก ประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชัน และอีกหลายๆ ตำแหน่งที่ดูแล้วไม่น่าปลื้มเท่าไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไขหากอยากให้เมืองไทยเป็นเมืองน่าเที่ยวอย่างนี้ไปอีกนานๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น