xs
xsm
sm
md
lg

ตื่นตาตื่นใจ กับไฮไลท์“ลอนดอน” ต้อนรับโอลิมปิก 2012

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุทยานโอลิมปิก พร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาที่จะเกิดขึ้น
เวียนมาอีกครั้งทุก 4 ปี ไม่มีขาดไม่มีเกิน สำหรับมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 30 ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในชื่อ “ลอนดอนเกมส์ 2012” และกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่ 27 ก.ค. ยาวไปจนถึง 12 ส.ค. 2555

เพื่อเป็นการต้อนรับลอนดอนเกมส์ 2012 “ตะลอนเที่ยว” จึงขอพาไปรู้จักกับสิ่งที่น่าสนใจทั้งหลายในกรุงลอนดอน โดยเฉพาะจุดที่ถือเป็นไฮไลท์ประจำเมือง เพื่อเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะร่วมลุ้นกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้
บิ๊กเบนตั้งอยู่เคียงคู่อาคารรัฐสภาและพระราชวังเวสมินสเตอร์
“กรุงลอนดอน” นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษและยังเป็นเมืองสุดคลาสสิกที่นักเดินทางทั่วโลกต่างอยากมาเยือนสักครั้ง เพราะเป็นเมืองที่ครบเครื่องเรื่องการท่องเที่ยว มากไปด้วยสรรพสิ่งชวนชม มีทั้งความเก่าแก่คลาสสิก ไม่ว่าจะเป็น ตึกรามบ้านช่อง พระราชวัง โบสถ์ สะพาน พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ ผสมผสานกับความทันสมัยของโลกยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
 
กรุงลอนดอน มีสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์อยู่หลายอย่าง โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น “หอนาฬิกาบิ๊กเบน” หอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ที่ในปัจจุบันได้มีการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของพระราชวังมาใช้เป็นสถานที่ตั้งรัฐสภาของอังกฤษ
บิ๊กเบนเคียงคู่สะพานเวสมินสเตอร์
หอนาฬิกาบิ๊กเบนตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเทมส์ ติดกับสะพานเวสมินสเตอร์ มีความสูงถึง 96.3 เมตร ตัวนาฬิกาอยู่สูงจากพื้น 55 เมตร แถมยังเป็นนาฬิกาที่มีขนาดหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลก มองจากมุมไหนก็เห็นเวลาได้ชัด “บิ๊กเบน” จึงได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนไปโดยปริยาย

สำหรับชื่อ “บิ๊กเบน” นั้นไม่ใช้ชื่อนาฬิกา แต่เป็นชื่อของระฆังใบใหญ่ที่แขวนไว้บริเวณยอดหอคอย คอยส่งเสียงกังวานบอกเวลาทุกชั่วโมงให้ชาวลอนดอนได้ฟัง แต่เมื่อกล่าวถึงบิ๊กเบนทุกคนก็จะเข้าใจหมายรวมถึงหอนาฬิกาทั้งหมด และเร็วๆ นี้ ชื่อบิ๊กเบนที่เรียกกันจนติดปาก ก็กำลังจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “เอลิซาเบธทาวเวอร์” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในโอกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี
วิหารเวสมินสเตอร์ สถานที่จัดพระราชพิธีต่างๆ ของราชวงศ์อังกฤษ
จากนั้นมารู้จักกับ “อาคารรัฐสภา” ที่อยู่เคียงคู่หอนาฬิกาบิ๊กเบนกันบ้าง ดังที่กล่าวไปแล้วว่าอาคารรัฐสภาในอดีตคือพระราชวังมินสเตอร์ อาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่มีประวัติอันยาวนาน ครอบคลุมบนพื้นที่ 8 เอเคอร์ มีห้องมากกว่า 1,100 ห้อง และมีเฉลียงยาว 2 ไมล์ ในยุคกษัตริย์ Canute II จนถึง Henry VII พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เป็นอาคารที่พักอาศัยของชนชั้นปกครองและข้าราชสำนัก ต่อมาในยุครัฐบาลมีอำนาจ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่ตั้งของสภาสูงและสภาล่าง
ชมวิวลอนดอนได้ด้วย ลอนดอน อาย
ส่วนหนึ่งของพระราชวังมี “วิหารเวสมินสเตอร์” สถาปัตยกรรมแบบโกธิกอันงดงาม ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีพระบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์อังกฤษและของสหราชอาณาจักร นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงานและพิธีฝังศพของเหล่าราชวงศ์อังกฤษ เช่น พิธีฝังพระศพของเจ้าหญิงไดอาน่า และพิธีแต่งงานของเจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตันอีกด้วย

ขณะที่ฝั่งตรงข้ามบิ๊กเบนและพระราชวังเวสมินสเตอร์ ก็คือ “ลอนดอน อาย” (London Eye) สัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยแห่งลอนดอน หรือชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงของลอนดอนได้อย่างจุใจในเป็นแคปซูลลูกใหญ่โปร่งใส มองเห็นวิวทิวทัศน์กรุงลอนดอนได้กว้างไกลรอบทิศ โดยจุดชวนชมเด่นๆ ก็มี อาคารรัฐสภา หอนาฬิกาบิกเบน แม่น้ำเทมส์ เวสมินสเตอร์ สะพานวอเตอร์ลู และสถานีรถไฟวอเตอร์ลู โดยแคปซูลลูกหนึ่งสามารถจุคนได้ประมาณ 15 คน เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในแคปซูลมันก็จะค่อยๆ เคลื่อนที่ขึ้นไปช้าๆ เป็นวงกลมไปยังจุดสูงสุดประมาณ 135 เมตรจากพื้นดิน แล้วหมุนกลับมายังที่เดิมเป็นวงรอบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
พระราชวังบักกิ้งแฮม หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดในลอนดอนก็คือ “พระราชวังบักกิ้งแฮม” ที่สร้างขึ้นในสมัยต้นทศวรรษที่ 18 เพื่อเป็นตำหนักของดยุกแห่งบักกิ้งแฮม แต่ผู้ที่เข้าพำนักอย่างเป็นทางการคือ เจ้าหญิงวิคตอเรีย ผู้ซึ่งขึ้นครองราชย์เป็นราชินีใน ค.ศ.1837 และตั้งแต่นั้นพระราชวังแห่งนี้จึงเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในกรุงลอนดอนเป็นต้นมา

พระราชวังบักกิ้งแฮมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้บางส่วน อาทิ Queen’s Gallery และห้องต่างๆ ที่จัดตกแต่งอย่างอลังการ นอกจากนั้น สวนของพระราชวังแห่งนี้ก็ยังมีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงาม ได้รับการตกแต่งอย่างมีศิลปะ เป็นมุมถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ แต่ที่หลายๆ คนรอคอยจะมาชมก็คือ พิธีเปลี่ยนเวรยามของราชองค์รักษ์ ที่จะมีการผลัดเปลี่ยนเวรในเวลาประมาณ 11.00-11.30 น. และจะใช้เวลาแสดงทั้งหมด 40 นาที ด้วยกัน
ชมการเปลี่ยนเวรยามที่พระราชวังบักกิ้งแฮม
ต่อกันด้วยอีกหนึ่งสัญลักษณ์อันโดดเด่นของลอนดอน คือ “สะพานหอคอย” (Tower Bridge) ที่สร้างขึ้นในปี 1894 เพื่อการสัญจรข้ามแม่น้ำเทมส์ ชื่อของสะพานได้มาจากหอคอย 2 หลัง มีความสูง 66 เมตร ที่สร้างอยู่กลางแม่น้ำ เป็นหลักยึดตัวสะพานเข้าด้วยกัน สะพานแห่งนี้เป็นสะพานแบบเปิด-ปิดให้เรือลอดผ่านได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

บนสะพานหอคอยยังมีทางเดินลอยฟ้าจัดเป็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสะพาน อีกทั้งยังเป็นจุดชมทัศนียภาพกรุงลอนดอนมุมสูงได้สวยงามอีกด้วย ส่วนที่ “หอคอยแห่งลอนดอน” (Tower of London) ที่ตั้งอยู่เคียงคู่กับสะพานหอคอยนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไม่ควรพลาดชม โดยหอคอยแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษใน ค.ศ.1078 เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันการรุกรานของข้าศึก อีกทั้งยังเป็นที่ประทับของกษัตริย์บางพระองค์อีกด้วย และปัจจุบันหอคอยแห่งลอนดอนเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติศาสตร์การสู้รบของอังกฤษในยุคต่างๆ อีกทั้งยังถือเป็นสถานที่ที่ร่ำลือกันว่าผีดุไม่เป็นสองรองใคร
สะพานหอคอยอันยิ่งใหญ่
มาเที่ยวช่วงโอลิมปิกทั้งที ก็ต้องพูดถึงสนามกีฬาที่ใช้แข่งขันกันเสียหน่อย แม้กรุงลอนดอนจะเคยจัดการแข่งขันโอลิมปิกมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อ พ.ศ.2451 และ 2491 ก็ตาม แต่ก็ยังต้องเตรียมพร้อมกันยกใหญ่ โดยมีการพัฒนาหลายพื้นที่ของกรุงลอนดอนเพื่อรองรับมหกรรมกีฬานี้โดยเฉพาะ โดยได้มีการสร้าง “อุทยานโอลิมปิก” (Olympic Park) แห่งใหม่ขึ้นภายในนิคมอุตสาหกรรมเก่าของเมืองสแตรตเฟิร์ด (Stratford) ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน มีทั้งสนามแข่งขัน สถานที่พักผ่อน บ้านพักนักกีฬา เตรียมพร้อมรับมือเต็มที่
หอคอยแห่งลอนดอน
นอกจากนั้นก็ยังมีการใช้สนามเก่าแก่สุดคลาสสิกที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จักกันดีอย่าง “สนามเวมบลีย์” ซึ่งใช้ในการแข่งขันฟุตบอล และสนามอื่นๆ ที่กระจายอยู่ในหลายเมือง แต่หลักๆ ก็จะอยู่ในกรุงลอนดอนเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

และเมื่อเร็วๆ นี้ ลอนดอนก็เพิ่งเปิดตัวกระเช้าลอยฟ้าต้อนรับกีฬาโอลิมปิก ชื่อว่า “เอมิเรตส์ แอร์ ไลน์” ซึ่งตั้งตามชื่อของผู้สนับสนุนหลักในการสร้างกระเช้าแห่งนี้ โดยเป็นกระเช้าลอยฟ้ากลางกรุงแห่งแรกของอังกฤษ ที่จะพานักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารข้ามแม่น้ำเทมส์จากกรีนิช ทางตะวันตกเฉียงใต้ของลอนดอน ไปยังรอยัล ดอกส์ ทางตะวันออกของลอนดอน และสามารถชื่นชมทิวทัศน์ได้รอบตัวแบบ 360 องศา ได้เห็นย่านการเงินคานารีวาร์ฟ พื้นที่ประวัติศาสตร์ทางทะเลและการปรับเวลากรีนิช รวมถึงเทมส์ แบร์ริเออร์ หนึ่งในระบบป้องกันอุทกภัยใหญ่ที่สุดของโลก และได้ชมทิวทัศน์ของอุทยานโอลิมปิก และเหล่าสนามกีฬาโอลิมปิกที่ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการเดินทาง
หอคอยแห่งลอนดอนและสะพานหอคอย
และนี่ก็คือเสน่ห์ของไฮไลท์แห่งกรุงลอนดอน ซึ่ง “ตะลอนเที่ยว” เชื่อว่ากีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้จะเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่งกรุงลอนดอนและเมืองผู้ดี ส่วนจะเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยหรือไม่ คงต้องร่วมลุ้นและส่งแรงใจไปเชียร์ให้ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้มากที่สุด

หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น