เทศบาลเมืองพระพุทธบาท ร่วมกับ จ.สระบุรี สานต่อ “งานประเพณีตักบาตร ดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพระราชทาน ประจำปี 55” ในวันที่ 1 - 3 ส.ค. 55 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี พบกับพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ฯ
นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา เป็นประเพณีสำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาช้านาน ประชาชนชาวพระพุทธบาท และใกล้เคียง จะถือเอาวันเข้าพรรษาของทุกปีเป็นวันตักบาตรดอกเข้าพรรษา และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา จ.สระบุรี ได้เพิ่มจำนวนวันตักบาตรดอกเข้าพรรษา จาก 1วันเป็น 3 วัน ซึ่งจะมีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาวันละ 2 รอบ คือรอบเช้า และรอบบ่าย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและจากต่างประเทศเพื่อเผยแพร่อีกหนึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย
“ในวันแรกของการจัดงานเป็นพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในอาณาบริเวณพระพุทธบาท ขบวนพยุหยาตราสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ขบวนรถบุปผชาติ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน วัฒนธรรม และขบวนต่างๆ จะเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองพระพุทธบาท ไปตามถนนพหลโยธิน และเลี้ยวเข้าบริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร โดยจะมีพิธีเปิดงาน และพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา โดยดอกไม้ที่ใช้ตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์นั้นจะต้องเป็น “ดอกเข้าพรรษา” เท่านั้น นายถาวรกล่าว
ด้าน นายชนัตถ์ นันทปัญญา รองนายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาทกล่าวว่าเมื่อถึงวันเข้าพรรษา คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาว อ.พระพุทธบาท และบุคคลทั่วไปจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุในเขต อ.พระพุทธบาท นำมาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ ซึ่งที่ทาง จ.สระบุรี ได้จัดพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง และเป็นสถานที่ประดิษฐาน “รอยพรพะพุทธบาท” อันศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา ซึ่งมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ 5 แห่ง และรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทฯ แห่งนี้ เป็น 1 ใน 5 แห่ง
ต่อมารอยพระพุทธบาทนี้ถูกค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม เมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตแล้วก็จะนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท อันจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ “ดอกเข้าพรรษา หรือ ดอกหงส์เหิน เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลขิง เป็นไม้ดอกเมืองร้อน และเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวประเภทเหง้าแบบมีรากสะสมอาหาร คล้ายกระชาย กาบใบเรียงตัวกันแน่น สูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับซ้ายขวาเป็นสองแถว ส่วนดอกมีลักษณะอ่อนช้อยสวยงามยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีสีเหลืองสดใสคล้ายรูปหงส์กำลังเหินบิน และสีของกลีบประดับมีหลายสี เช่น สีเหลือง สีขาว และสีม่วง”
รองนายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาทกล่าวเพิ่มเติมว่า อีกว่า การจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน จังหวัดสระบุรีนั้น เทศบาลเมืองพระพุทธบาทโดย นายขจรศักดิ์ นันทปัญญา นายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาท ซึ่งเป็นผู้บริหารเทศบาลแห่งนี้มาเป็นเวลากว่า 24 ปี ตั้งแต่เป็นสุขาภิบาลจวบจนปัจจุบันเป็นผู้ที่ได้ให้ความสนับสนุนงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา มาโดยตลอด เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่นกระทั้งมาเป็นประเพณีของจังหวัด และปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ