xs
xsm
sm
md
lg

หนีร้อน ไปแหวกว่ายทะเลชวนฝัน ที่เกาะ “สิมิลัน-ตาชัย-สุรินทร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : ตะลอนเที่ยว
วิวหาดรูปโค้งเกือกม้าหน้าเกาะแปดจากจุดชมวิวหินเรือใบ
โอ้ทะเลแสนงาม...ฟ้าสีครามสดใส....
มองเห็นเรือใบ...ล่องอยู่ในทะเล...
หาดทรายงามเห็นปู...ดูซิดูหมู่ปลา...
กุ้งหอยนานา...อยู่ในท้องทะเล

เข้าช่วงซัมเมอร์ที่อากาศร้อนระยับแบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮอตฮิตคงหนีไม่พ้นทะเล ทะเล้ ทะเล
ว่ายน้ำเพลิดเพลินพร้อมเจ้าเต่าตัวใหญ่
ภาพของหาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าคราม ท้องฟ้าอันแจ่มใส ลอยเข้ามาในหัวยั่วยวนให้ “ตะลอนเที่ยว” ต้องเก็บกระเป๋า ก้าวเท้าออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลอีกครั้ง โดยการมาเที่ยวทะเลในทริปนี้ เป้าหมายของเราอยู่ที่ “หมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์” 2 หมู่เกาะสำคัญแห่งท้องทะเลอันดามัน ในเขตจังหวัดพังงา ซึ่งทั้งคู่จัดเป็นทะเลไทยในฝันของนักเดินทางที่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีสิ่งดึงดูดทางการท่องเที่ยวในอันดับต้นๆ ของทะเลไทย

หมู่เกาะสิมิลัน

เป้าหมายแรกในทริปนี้ของเราอยู่ที่ “หมู่เกาะสิมิลัน” ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา
โรแมนติกท่ามกลางหาดทรายขาวน้ำทะเลใส ที่เกาะสี่
คำว่า “สิมิลัน” เป็นภาษายาวี หรือมลายู แปลว่า “เก้า” เดิมประกอบด้วยเกาะ 9 เกาะ คือ เกาะหนึ่ง (หูหยง) เกาะสอง (ปายัง) เกาะสาม (ปาหยัน) เกาะสี่ (เมียง) เกาะห้า เกาะหก (ปายู) เกาะเจ็ด (หินปูซาร์) เกาะแปด (สิมิลัน) เกาะเก้า (บางู) แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางกรมอุทยานฯ ได้ผนวกอีก 2 เกาะ (ใหม่) เข้ามา คือ เกาะตาชัยและเกาะบอน ทำให้ปัจจุบันอุทยานฯสิมิลัน มีทั้งหมด 11 เกาะ ด้วยกัน

หมู่เกาะสิมิลันถือเป็นจุดดำน้ำลึก (สกูบ้า) ที่ดีได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในเมืองไทย มีชื่อเสียงระบือไกลติด 1 ใน 10 ของโลก ขณะที่เกาะเด่นๆ ของหมู่เกาะแห่งนี้ นำโดยเกาะแรกคือ “เกาะเมียง” หรือ “เกาะสี่” ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ-ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เป็นที่พักหลักของนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เนื่องจากบนเกาะมีแหล่งน้ำจืดค่อนข้างสมบูรณ์
ฝูงปลามากมายพบเห็นได้ที่หมู่เกาะสิมิลัน
บนเกาะสี่มีความสวยงามของหาดทรายทั้ง “หาดหน้า”และ “หาดเล็ก” ที่มีหาดทรายขาวละเอียดดังผงแป้ง ยามเมื่อเหยียบย่างเท้าลงไปรู้สึกได้ถึงความแน่นนุ่มโอบอุ้มเท้า มีน้ำทะเลใสแจ๋วไล่ระดับจากสีน้ำเงินเข้มกลางทะเลเข้าหาตัวเกาะเป็นสีฟ้าอ่อนและสีเขียวอ่อน ในท้องน้ำสามารถมองเห็นตัวปลาที่แหวกว่ายได้อย่างชัดเจน อีกทั้งมีแนวปะการังกระจายอยู่เป็นหย่อมๆ เหมาะแก่การเล่นน้ำและดำน้ำตื้น

บนเกาะสี่ยังมีจุดชมวิว “ลานข้าหลวง”ที่สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพท้องทะเลอันดามันได้อย่างงดงาม มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกท้องทะเลป๋อมแป๋มที่ในวันฟ้าเปิดเป็นใจดูสวยงามไม่เป็นรองใคร นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเพื่อนร่วมโลกต่างสายพันธุ์อย่าง “นกชาปีไหน” นกประจำถิ่นสีเขียวอมน้ำเงินออกมาเดินกระดุ๊กๆ ให้เราได้ยลโฉมกันอยู่บ่อยๆ รวมถึงมีเจ้าสัตว์อันซีนไทยแลนด์อย่าง “ปูไก่” ที่ยามค่ำคืนจะออกหากิน ให้นักท่องเที่ยวได้ส่องไฟ (แบบเงียบๆ) ชมวิถีชีวิตปูราตรีกันอย่างเพลิดเพลิน
หินเรือใบสัญลักษณ์ประจำเกาะสิมิลัน
อีกหนึ่งเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังของหมู่เกาะสิมิลันก็คือ “เกาะสิมิลัน” หรือ “เกาะแปด” ที่นอกจากจะเป็นชื่อนำของหมู่เกาะทั้ง 11 แล้ว เกาะแห่งนี้ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด เป็นเกาะไฮไลต์ที่โดดเด่นไปด้วย“หินเรือใบ” หรือ “หินใบ” สัญลักษณ์ประจำเกาะที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนผาหินริมหาด ที่ดูเหมือนจะตกแหล่มิตกแหล่อย่างน่าพิศวง ซึ่งมีภาพปรากฏไปทั่วโลก

บนหินเรือใบเราสามารถปีนป่ายขึ้นไปชมวิวทัศน์ของท้องทะเลอันดามันอันสวยงามกว้างไกลและวิวของหาดรูปโค้งเกือกม้าหน้าเกาะแปดอันสวยงามขาวนวล ตัดกับสีน้ำเงินเข้มไล่โทนมาสู่สีเขียวอ่อนของน้ำทะเล

ยังไม่หมดแค่นั้น ทางด้านทิศเหนือของเกาะยังมี “หินรองเท้าบูต” หรือบางครั้งก็เรียกว่า “หินโดนัลด์ดัก” ตั้งตระหง่านคล้ายกับใครตั้งใจเอาไปวางไว้ให้เราได้ชื่นชมกัน ส่วนน้ำทะเลและชายหาดที่เกาะแปดแห่งนี้ก็ใสและเนียนคล้ายกับที่เกาะสี่ รอบๆ บริเวณยังสมบูรณ์ไปด้วยกองหิน แนวปะการัง และปลาสวยๆ งามๆ มากมายอีกด้วย
ปูไก่สัตว์เฉพาะถิ่น
นอกจากนี้ ในเกาะอื่นๆ ของหมู่เกาะสิมิลันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยที่ เกาะสาม แม้เป็นหน้าผา ไม่มีหาดทราย แต่ว่าโลกใต้น้ำที่นี่งดงาม เพราะบริเวณนี้มีกำแพงเมืองจีนหรือสันฉลาม ซึ่งเป็นกำแพงหินธรรมชาติใต้น้ำอันตระการตา มักพบปลาฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว และฝูงปลาจำนวนมากมาหากินใกล้ๆ กำแพงหิน

ส่วนที่ เกาะห้า เป็นเกาะเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยปะการังอ่อน-แข็ง มีปลาไหลที่ชอบโผล่หัวชูคอขึ้นจากรูจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็น“สวนปลาไหล” สำหรับ เกาะหก มีเรือนกล้วยไม้เป็นจุดดำน้ำลึกชมปะการังอ่อนหลากสีสัน อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่งด้วยกัน ด้าน เกาะเจ็ด หรือหินปูซาร์ เป็นหินโผล่กลางทะเล มีกัลปังหาขึ้นอยู่บนลาน มีปลาสวยงามมากมาย
สัมผัสน้ำทะเลใสไล่ระดับสีและทรายขาวสะอาดที่เกาะตาชัย
ขณะที่ “เกาะเก้า” เกาะเล็กๆ อีกแห่งที่มีโขดหินเป็นรูปลักษณ์ต่างๆ อันหลากหลายสวยงาม มีกองหินคริสต์มาสพอยต์ เป็นจุดดำน้ำที่มีความสวยงามไม่แพ้จุดดำน้ำอื่นๆ และเกาะบอน หรือ เกาะทะลุ เป็นที่อยู่ของปลาชุกชุม มีจุดเด่นเป็นสะพานหินที่เกิดจากหินถูกน้ำทะเลกัดเซาะเป็นโพรง มองคล้ายสะพานโค้งข้ามแม่น้ำ ที่เกาะนี้นักดำน้ำมีโอกาสได้พบเจ้ากระเบนราหูอีกด้วย

เกาะตาชัย

ในช่วงนี้เราจะได้ยินชื่อ “เกาะตาชัย” กันบ่อยๆ เพราะเป็นเกาะแห่งใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวคอทะเล เกาะตาชัย ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน ราวๆ กึ่งกลางของหมู่เกาะสิมิลันกับหมู่เกาะสุรินทร์
ทรายขาวนุ่มเท้าน้ำทะเลฟ้าใสที่เกาะตาชัย
เกาะตาชัย มีชายหาดขาวเนียน ทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำยาวประมาณ 700 เมตร เม็ดละเอียดดุจแป้ง เดินนุ่มสบายเท้า มีน้ำใสแจ๋วไล่ระดับสีจากฟ้าอ่อนไปจนสีครามน้ำเงิน รวมถึงเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

บนเกาะตาชัยยังมีกิจกรรมเดินป่าระยะสั้นเข้าไปดู “ปูไก่” บนเกาะสี่ที่จะออกหากินยามค่ำคืน แต่สำหรับปูไก่ที่เกาะตาชัยนั้นด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ เราจึงสามารถพบเห็นปูไก่มากมายได้ตลอดแม้ในยามกลางวัน

สำหรับเกาะตาชัยเดิมทางอุทยานฯ เคยมีแนวคิดที่จะให้นักท่องเที่ยวมาพักค้างบนเกาะชัยได้ แต่ด้วยพื้นที่บนเกาะที่มีที่ราบไม่มาก มีแหล่งน้ำจืดน้อย ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการพักค้าง ทางอุทยานฯ จึงเปิดเกาะตาชัยให้เที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ซึ่งถือเป็นการถนอมเกาะตาชัยได้ดีทีเดียว
น้ำทะเลใสจนมองเห็นโลกใต้ท้องน้ำ  ที่เกาะสุรินทร์
หมู่เกาะสุรินทร์

ในเขตท้องทะเลแห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ “หมู่เกาะสุรินทร์” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา โดยได้ตั้งชื่อขึ้นตามนามของพระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) เทศาเมืองภูเก็ต ผู้ค้นพบเกาะแห่งนี้ ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะด้วยกัน คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) เกาะรี (เกาะสต๊อก) และหนึ่งกองหินปริ่มน้ำ หรือก็คือกองหินริเชลิว
ปลาตัวน้อยแหวกว่ายล่องลอยใต้ท้องทะเลหมู่เกาะสุรินทร์
เกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ ตั้งอยู่ชิดกันคล้ายเกาะแฝด โดยมีพื้นน้ำตื้นๆ กว้างประมาณ 200 เมตร กั้นอยู่ ในช่วงน้ำลงสามารถข้ามไปยังอีกเกาะได้ จึงเรียกกันว่า “อ่าวช่องขาด” และที่เกาะสุรินทร์เหนือนี้ยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยาน มีที่พัก ร้านอาหาร และอุปกรณ์ดำน้ำให้เช่าด้วย

หมู่เกาะสุรินทร์ นอกจากจะมีชายหาดที่ขาวสะอาดตาน่าเกลือกกลิ้ง น้ำใสแจ๋วมองเห็นตัวปลาแล้ว ยังสามารถดำน้ำชมปะการังอันสมบูรณ์และปลาเกือบทุกชนิด และยังมีโอกาสพบฉลามวาฬได้ด้วย เนื่องจากหมู่เกาะสุรินทร์วางตัวอยู่ในกลุ่มอ่าวขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงสามารถที่จะเป็นที่บังคลื่นลมได้ดี จึงเป็นแหล่งกำเนิดแนวปะการังน้ำตื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเลยทีเดียว
ดำน้ำชมโลกใต้ทะเลที่อ่าวสับปะรด
สำหรับแหล่งดำน้ำตื้นยอดนิยมของหมู่เกาะสุรินทร์ ได้แก่ “อ่าวไม้งาม” มีหาดทรายขาวสวยงาม มักพบเห็นปูเสฉวนได้จำนวนมาก ในส่วนของน้ำทะเลก็ใสแจ๋วมองเห็นตัวปลาแหวกว่าย ปะการังที่พบเป็นจำพวกปะการังแผ่น ปะการังเขากวาง และพบโขดหินที่มีหอยเม่นจำนวนมาก

อีกจุดได้แก่ “อ่าวผักกาด” ที่เป็นอ่าวเล็กๆ อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ มีแนวปะการังริมฝั่งกว้างประมาณ 50-150 เมตร มีชายหาดเล็กๆ แนวปะการังหักชันตรงขอบลงสู่ความลึก 15-20 เมตร ด้านล่างเป็นพื้นทราย สามารถพบเห็นปะการังอ่อนและกัลปังหาได้บ้าง นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจ เช่น ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ ส่วนปลานั้นจะพบเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะปลาผีเสื้อ และปลาสินสมุทร ที่มีมาก
สีสันโลกใต้ท้องทะเล
ส่วน “เกาะตอรินลา” หรือ เกาะไข่ บางคนเรียกว่า กองเหลือง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้เช่นกัน ที่นี่งดงามด้วยดงปะการังเขากวางขนาดใหญ่ และปลาสวยงามกว่า 200 ชนิด ด้าน “อ่าวเต่า” อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ แนวปะการังหักชันลงที่ลึก 20-25 เมตร ขอบแนวปะการังพบปะการังก้อนใหญ่มีปะการังอ่อนและกัลปังหาอยู่เป็นหย่อมๆ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเห็นปลาใหญ่อย่างฉลามและกระเบนราหูอีกด้วย

จุดดำน้ำตื้นอีกแห่งก็คือ “อ่าวสับปะรด” อยู่ใกล้บริเวณอ่าวเต่าด้านทิศเหนือ ที่บริเวณนี้เราจะได้เห็นปะการังจำพวกปะการังเขากวางอ่อน สีน้ำเงิน ม่วงอ่อน และปลาบางชนิด เช่น ปลามงครีบฟ้า ปลาการ์ตูน กุ้งมังกร เป็นต้น
หมู่บ้านมอแกนตั้งอยู่ที่อ่าวบอน
หากยังอยากชื่นชมกับเหล่าปลานานาชนิดก็ต้องไปที่จุดดำน้ำ “หินแพ” เพราะเป็นจุดดำน้ำสำหรับดูปลาโดยเฉพาะ เช่น ปลาวัว ปลานกแก้วต่างๆ ปลากล้วย ปลาเขียวพระอินทร์ ปักเป้าหน้าหมา ปลาตุ๊กแก ปลาสินสมุทร ดอกไม้ทะเลดาวขนนกลักษณะเป็นช่อๆ สีเหลือง เป็นต้น โดยรอบๆ หินแพนั้นระดับน้ำค่อนข้างตื้น มีความลึกตั้งแต่ 1 เมตร ไปจนถึง 20 เมตร จึงเหมาะกับการดำน้ำตื้น

สำหรับจุดดำน้ำลึกที่ขึ้นชื่อของหมู่เกาะสุรินทร์ก็คือ “กองหินริเชลิว” เป็นแหล่งสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติใต้ทะเล มีปลาหลายชนิด มีโอกาสพบฉลามวาฬที่นี่ด้วย
ชาวมอแกนบางส่วนมีอาชีพทำของที่ระลึกขายนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านของชาวเลกลุ่มสุดท้าย คือ “หมู่บ้านมอแกน” ตั้งอยู่บริเวณอ่าวบอน เกาะสุรินทร์ใต้ เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้ฝั่ง เราจะเห็นกลุ่มบ้านเรือนยกใต้ถุนสูงที่ปลูกติดๆ กันตามชายหาด จนเมื่อก้าวย่างลงบนเกาะจะเห็น เสาบูชาวิญญาณบรรพบุรุษหรือหล่อโบง ที่ประกอบไปด้วยแอบ๊าบ (ผู้ชาย) และเอบูม (ผู้หญิง) บอกให้รู้ว่านี่คือ “หมู่บ้านมอแกน”

ชาวมอแกนเป็นชนเผ่าที่มีชีวิตผูกพันอยู่กับทะเลมาเป็นเวลาหลายร้อยปี มีวิถีการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม หาเลี้ยงชีพโดยการงมหอย แทงปลา มอแกนไม่มีภาษาเขียน บางคนสามารถพูดภาษายาวีและภาษาไทยได้บ้าง โดยชาวมอแกนที่หมู่เกาะสุรินทร์แห่งนี้มีนามสกลุเดียวกันหมด คือ กล้าทะเล ซึ่งเป็นนามสกุลที่สมเด็จย่าพระราชทานให้กับชาวมอแกนเท่านั้น
วิถีบ้านมอแกนยุคใหม่ ตัวบ้านแบบเก่า แต่ร่วมสมัยด้วยการติดจานดาวเทียม
นอกจากจะเดินเที่ยวชมและสัมผัสวิถีชีวิตของชาวมอแกนแล้ว “ตะลอนเที่ยว” ยังได้ซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ซึ่งของที่ระลึกที่ชาวมอแกนขายนั้นส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมดที่ทำขึ้นโดยชาวมอแกนแท้ๆ เช่น เสื่อห่อพื้นบ้าน กำไลสาน กระติ๊บใส่ของ เรือต่างๆ เป็นต้น

และนั่นก็คือมนต์เสน่ห์ของ 2 หมู่เกาะอันโด่งดังแห่งท้องทะเลอันดามัน ที่ทั้งหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ดังนั้น เมื่อมาเที่ยวมาเยือนแล้ว ก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์รักษาไว้ ให้ทั้งตัวเราเองและลูกหลานได้มีโอกาสกลับมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งอันดามันอีกครั้ง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“หมู่เกาะสิมิลัน” จ.พังงา สามารถนั่งเรือไปจากฝั่งได้หลายเส้นทาง แต่มีท่าเรือหลักที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ท่าเรือทับละมุ ที่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีเรือออกทุกวัน

“หมู่เกาะสุรินทร์” จ.พังงา สามารถนั่งเรือจากฝั่งไปได้หลายเส้นทาง แต่มีเส้นทางหลักใกล้สุดอยู่ที่ท่าเรือคุระบุรี จ.พังงา มีเรือออกทุกวันในฤดูกาลท่องเที่ยว

สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวของทั้งหมู่เกาะสิมิลันและสุรินทร์ จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. ไปจนถึงกลางเดือน พ.ค. ส่วน “เกาะตาชัย” เริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย. ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ อช.หมู่เกาะสิมิลัน โทร.0-7659-5045 (บนฝั่ง), 0-7642-1365 (เกาะสี่), 0-7642-2136 (เกาะแปด) และที่ อช.หมู่เกาะสุรินทร์ โทร.0-7647-2145, 0-7647-2146

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!
กำลังโหลดความคิดเห็น