ข้าวแกงถือเป็นอาหารธรรมดาสามัญ แต่ก็มีความไม่ธรรมดาอยู่ที่สามารถกินกันได้ในทุกวัน เพราะมีหลากหลายเมนูให้เลือกสรรตามความชอบของแต่ละคน อย่างร้านข้าวแกงที่ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะแนะนำให้ไปลองลิ้มกันนั้น ก็มีเมนูที่หลากหลาย เอาใจคนทุกเพศทุกวัย นอกจากนั้นยังมีความเด็ดอยู่ที่มีข้าวแกงบุฟเฟ่ต์อยู่ในร้านด้วย
ร้านนี้มีชื่อว่า “ตุ๊ก” ชื่อสั้นๆ จำง่าย และความอร่อยเด็ดก็ทำให้ติดใจเช่นกัน ร้านนี้จะเรียกว่าเป็นร้านอาหารไทยตามสั่งก็ได้ โดยเปิดกันมาได้ 20 ปีแล้ว และแม้ว่าร้านจะเปิดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แต่ก็มีการแยกช่วงกัน อย่างในช่วงเช้า เวลา 06.00-08.30 น. จะขายข้าวแกงต่างๆ ซึ่งแต่ละวันจะมีข้าวแกง 12 เมนูออกมาให้ลองชิมกัน และจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ทุกวัน ซึ่งจะขายข้าวราดแกงในราคา 25-40 บาท
ส่วนช่วงกลางวัน (เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์) เวลา 10.30-13.30 น. จะขายข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ ราคา 50 บาท/คน ซึ่งในบุฟเฟ่ต์นั้นก็จะมีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ประมาณ 7 อย่างในแต่ละวัน รวมทั้งมีขนมจีน ข้าวสวย และน้ำเปล่าบริการฟรี เมนูอร่อยที่มีในบุฟเฟ่ต์อย่างเช่นขนมจีนน้ำพริก,น้ำยา,น้ำเงี้ยว,ไตปลา และขนมจีนซาวน้ำ สลับสับเปลี่ยนกันไป ส่วนพวกที่เป็นกับข้าวก็อย่างเช่น ผัดผัก อาหารยำ ของทอด แกงเขียวหวาน แกงส้ม พะแนง แกงเลียง
นอกจากนี้ก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวน้ำ เกี๊ยวน้ำ กวยจั๊บ ต้มเลือดหมู แกงจืด ต้มยำ และยังมีขนมหวานไทยๆ อีก 3-5 อย่างให้ลองชิม โดยมีลอดช่องนมสดที่อร่อยเด็ดเป็นของยืนพื้น ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ โดยในแต่ละวันก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนเมนูกันไป เรียกว่ามาเมื่อไหร่ก็จะได้ชิมเมนูใหม่ๆ ตลอด
ส่วนนอกเหนือจากช่วงที่ขายข้าวแกงและบุฟเฟ่ต์แล้ว ทางร้านก็ยังมีอาหารตามสั่งให้เลือกอีกกว่า 100 เมนู โดยเมนูเด็ดๆ ที่คัดมาแล้วว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้าอย่างเช่น ข้าวผัดป่า (50 บาท) เป็นข้าวผัดที่เมื่อได้เห็นแล้วต้องบอกว่าไม่เคยลองชิมที่ไหน เพราะใส่ทั้งชะอม ข้าวโพดอ่อน มะเขือเปาะ ถั่วฝักยาว กุ้งแห้ง กุ้งสด พริกสด ผัดกับข้าวสวยแล้วปรุงรสเล็กน้อย ชิมแล้วกลมกล่อม ออกเผ็ดเล็กน้อย หอมกลิ่นชะอม
แกงเขียวหวาน (ถ้วยละ 70-130 บาท) เมนูนี้เน้นที่เนื้อปลากรายที่ทางร้านโขลกเอง กับเครื่องแกงสูงเด็ดที่เน้นความหอมเครื่องเทศ แล้วก็ใช้กะทิสด ใส่มะเขือเปาะ หรือยอดมะพร้าว หรือฟัก ตามแต่จะสั่ง จากนั้นก็ใส่พริกขี้หนูบุบโรยหน้าเพิ่มความหอม แกงเขียวหวานถ้วยนี้รสชาติเข้มข้นหอมมัน เคี้ยวปลากรายเนื้อเด้งหนึบ กินคู่กับขนมจีน (จานละ 20 บาท) ก็ยิ่งอร่อยถูกใจ
ส่วน ปลาส้มตำ (ครึ่งตัว 130 บาท ทั้งตัว 230 บาท) เมนูนี้ก็แปลกไม่น้อย เพราะใช้เนื้อปลาช่อน ปลาดอรี่ หรือปลาทับทิมแล้วแต่เลือกมาคลุกแป้งแล้วทอดให้เหลืองกรอบ โรยเกลือเพิ่มรสชาติอีกนิด ส่วนส้มตำก็คือส้มตำไทยรสจัดแต่ไม่เผ็ด ตักเสิร์ฟคู่กับเนื้อปลา แล้วโรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลองชิมเมนูนี้แล้วเนื้อปลากรอบนอกนุ่มในไม่มีกลิ่นคาว เข้ากันดีกับส้มตำที่รสชาติเข้มข้นแต่ไม่เผ็ด
เมนูสุดท้าย ถือว่าเป็นของเด็ดที่ต้องมาลองชิม หมี่กรอบ (50-100 บาท) เมนูนี้ใช้เส้นหมี่มาทอดกรอบแล้วคลุกกับเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน โดยจะคลุกกันจานต่อจาน แล้วเสิร์ฟพร้อมกระเทียมดอง ใบกุยฉ่าย ผักชี ถั่วงอก และกุ้งชุบแป้งทอด ลองชิมหมี่กรอบรสชาติกลมกล่อม อร่อยพร้อมกับเครื่องเคียงที่ครบครัน
ร้าน “ตุ๊ก” ยังมีเมนูอร่อยให้มาลองชิมกันอีกมากมาย อาทิ ข้าวกะเพราปลาทู (40 บาท) ราดหน้าทะเล (50 บาท) ปลาดุกกะเพราะกรอบ (70 บาท) ผัดไทย (50 บาท) เป็นต้น แล้วก็ยังมี ซาลาเปา (ลูกละ 12 บาท) ที่มีทั้งไส้หมูสับ หมูแดง ฟักทอง ครีม และถั่วดำ และในช่วงเจก็มีซาลาเปาเจด้วย
หากใครอยากมาชิมของอร่อยก็มากันได้ที่ร้านเลยทันที แต่ถ้าต้องการให้ไปส่งทางร้านก็มีบริการเดลิเวอรี่ในละแวกใกล้ๆ ร้าน แต่ถ้าอยู่ไกลออกไปทางร้านขอคิดค่าบริการเพิ่มเติม ส่วนคนที่จะจัดงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ ทางร้านก็รับจัดเลี้ยงนอกสถานที่คิดคนละ 170 บาท ตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป ซึ่งก็มีเมนูและรายการอาหารให้เลือกอีกหลากหลาย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ตุ๊ก” ตั้งอยู่ที่ 465-467 ถ.พระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. การเดินทางจากแยกบางลำพูมุ่งหน้ามายังวัดบวรนิเวศฯ ตรงมาถึงแยกสะพานวันชาติแล้วตรงมาอีกเล็กน้อย สังเกตทางซ้ายมีจะเห็นป้ายรถเมล์ป้ายแรก (นับจากแยกสะพานวันชาติมา) ร้านจะอยู่บริเวณป้ายรถเมล์เป็นห้องแถวติดริมถนน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 06.00-19.00 น. โทร.0-2281-0652, 0-2629-2220 ทางร้านรับจัดเลี้ยงภายนอก และมีบริการเดลิเวอรี่ในละแวกร้าน (ถ้าอยู่ไกลก็บริการส่งแต่เสียค่าบริการเพิ่ม)
คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ตุ๊ก”