ททท. เปิดตัวไกด์บุ๊คภาษาอังกฤษ 4 เล่มรวด สำหรับกลุ่มความสนใจพิเศษ ตั้งเป้าปี 55 โกยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 19.5 ล้านคน สร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ มาสเตอร์ การ์ด เปิดตัวหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกกลุ่มความสนใจพิเศษ Special Interest Tourism 4 กลุ่มสินค้าที่กำลังเป็นกระแสทั่วโลก อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม ,การท่องเที่ยวแบบพำนักนานหรือเกษียณอายุ การท่องเที่ยวแบบเนิบช้า Slow Travel และกลุ่มนักนิยมบันเทิงยามราตรี เกาะกระแสที่กรุงเทพได้รับการโหวตจาก Trip Advisor เว็บท่องเที่ยวชื่อดังให้เป็น Top 10 Nightlife World Destination
ทั้งนี้ ททท. คาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเปิดมุมมองใหม่ๆ กับการท่องเที่ยวในประเทศไทย และตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบ Slow Travel ,เป็นบ้านหลังที่สองของคนวัยเกษียณอายุ, เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม, และเป็นเมืองสวรรค์แห่งความสำราญยามค่ำคืน
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า “ปัจจุบันแนวโน้มของนักท่องเที่ยวกลุ่มความสนใจพิเศษหรือ Special Interest Tourism มีความหลากหลายมากขึ้นตามกระแสความสนใจและไลฟสไตล์ที่แตกต่างกัน เช่น กระแสของ Slow Travel ที่กำลังเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวที่นิยมทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ หรือกระแสความนิยมการหาซื้อบ้านหลังที่สองในต่างประเทศที่ขยายตัวมากขึ้น, การเติบโตของบริการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความงาม และยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวยามค่ำคืน
ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสดีของ ททท. ที่จะทำการขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าว เพราะประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องของสินค้าบริการที่สามารถรองรับและดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเหล่านี้อยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องเผยแพร่ข้อมูลสินค้าบริการท่องเที่ยวตามความสนใจพิเศษเหล่านี้ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น”
ททท. ได้จัดทำหนังสือคู่มือท่องเที่ยวเพื่อนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวประเภท Special Interest สำหรับ 4 กลุ่มความสนใจพิเศษ ดังนี้
1. “Slow Travel Thailand” นำเสนอเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวแบบเนิบช้าหรือเรื่อยๆไม่รีบร้อน ไม่เน้นการวางแผน เป็นการท่องเที่ยวเชิงลึก ชูเรื่องวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น เช่น เมืองปาย กระบี่ เชียงคาน เป็นต้น
2. “A Trip of a Lifetime Longstay in Thailand” นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบพำนักนานและกลุ่มเกษียณอายุ ซึ่งต้องเป็นเมืองที่พร้อมไปด้วยสภาพอากาศที่ดี ค่าครองชีพเหมาะสม มีความปลอดภัยสูง สะดวกสบายในการเดินทาง มีบริการทางการแพทย์ คุณภาพสิ่งแวดล้อมดี เช่น จังหวัด หัวหิน หนองคาย ตรัง ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น
3. “Thailand A night Delight” นำเสนอกิจกรรม กิน ดื่ม เที่ยว ชอปปิ้งยามค่ำที่น่าสนใจทุกเมืองท่องเที่ยวของไทย พัทยา หัวหิน กรุงเทพฯ สมุย เชียงใหม่ เป็นต้น
4. “Healing Harmony” นำเสนอข้อมูลสินค้าบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม จากทั้ง 8 Destinations ทั่วเมืองไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ , พัทยา, ภูเก็ต, สมุย, เชียงใหม่, หัวหิน, เกาะช้าง,เชียงราย
ด้านรองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวเสริมว่า “หนังสือคู่มือท่องเที่ยวทั้ง 4 เล่มนี้จะช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าท่องเที่ยวกลุ่มความสนใจพิเศษ ซึ่งจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการเดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศไทย ให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากขึ้นด้วยการนำเสนอ Trip Idea ที่สอดคล้องกับทุก Lifestyle ซึ่งจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางในพื้นที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใช่กระแสหลักเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยททท ได้ตั้งเป้าหมายยอดจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในปี 2555 ไว้ที่ 19.5 ล้านคน สร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มความสนใจพิเศษนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ ททท บรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าวได้”
สำหรับหนังสือไกด์บุ๊คทั้ง 4 เล่มนั้น นอกจาก ททท.จะนำไปแจกตามงานเทรดแฟร์และงานอีเว้นท์ของ ททท.ในต่างประเทศแล้ว ยังมีจำหน่ายในลักษณะ E-Book ผ่านร้านหนังสือออนไลน์ amazon.com รวมทั้งร้านหนังสือชั้นนำ อย่าง เอเชียบุ๊คส์ และ คิโนะคูนิยะ อีกทั้งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของ ททท. www.tourismthailand.org เป็นต้น