xs
xsm
sm
md
lg

ลือเลื่องเมือง “ลำปาง” ท่องถิ่นรถม้า-ชามตราไก่ สัมผัสอัศจรรย์เงาพระธาตุ ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง
“ลำปาง” เป็นดินแดนอารยธรรมล้านนาที่รุ่งเรืองมาแต่โบราณ ชื่อเรียกเมืองลำปางนั้นมีหลายชื่อจากหลายตำนานความเป็นมา ทั้งคำว่า “เขลางค์นคร” ซึ่งตั้งตามชื่อพรานเขลางค์ ผู้มีส่วนร่วมในการสร้างเมืองลำปาง ส่วนคำว่า “ละกอน” หรือ “ละคร” (นคร) นั้นเป็นชื่อสามัญของเมืองเขลางค์ที่นิยมเรียกกันอย่างแพร่หลาย คนในจังหวัดใกล้เคียงมักจะเรียกชาวลำปางว่า “จาวละกอน” ซึ่งหมายถึง ชาวนคร

บ้างก็เรียกลำปางว่าเมือง “กุกกุฏนคร” ซึ่งหมายถึงเมืองไก่ขาว ตามตำนานว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่เมืองนี้ พระอินทร์เกรงว่าชาวเมืองจะตื่นไม่ทันทำบุญกับพระพุทธเจ้า จึงแปลงกายเป็นไก่สีขาวขันปลุกชาวเมืองให้ตื่น ด้วยเหตุนี้ไก่ขาวจึงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลำปาง
เงาพระธาตุหัวกลับ สิ่งมหัศจรรย์ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง
ส่วนคำว่า “ลำปาง” นั้นหมายถึงไม้ป้าง ตำนานเล่าว่าเป็นไม้ข้าวหลามที่ลัวะอ้ายกอนใช้หาบกระบอกน้ำผึ้ง มะพร้าว มะตูม มาถวายพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จมายังบริเวณนี้ และทรงทำนายว่าสถานที่นี่จะเจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองเมืองหนึ่งในอนาคตชื่อว่าเมืองลัมภางค์

ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใดก็ตาม ลำปางก็ยังคงเป็นเมืองน่าเที่ยวและมีของดีหลายอย่างซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ตามคำขวัญที่ว่า “ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก”
พระแก้วมรกตจำลองบนหลังรูปปั้นช้างที่วัดพระแก้วดอนเต้า
ด้วยความที่เป็นเมืองเก่าแก่ ในลำปางจึงมีวัดหลายแห่งที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงามอยู่ โดยวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของลำปางก็คือ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” ในอำเภอเกาะคา วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณและเป็นพระธาตุประจำปีฉลู(วัว) ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น ในพระวิหารหลวงมีพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในลำปางประดิษฐานไว้ภายใต้กู่ หลังพระวิหารมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระเจดีย์มีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่
วัดปงสนุก อีกหนึ่งวัดแห่งเมืองลำปางที่ไม่ควรพลาดชม
และสิ่งมหัศจรรย์ในวัดพระธาตุลำปางหลวงที่ไม่ควรพลาดชม ก็คือ “พระธาตุหัวกลับ” หรือ “เงาพระธาตุ” ในมณฑปพระพุทธบาท ที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์กล้องรูเข็ม ซึ่งรูที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์นี้พบเจอโดยบังเอิญเมื่อพระภิกษุเข้าไปทำความสะอาดในมณฑปเมื่อปี 2541

“วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม” ในอำเภอเมือง เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต โดยเมื่อ พ.ศ. 1979 พระเจ้าสามฝั่งแกน เจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้จัดขบวนช้างไปรับพระแก้วมรกตมาจากเชียงราย เพื่อจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังนครเชียงใหม่ เมื่อถึงทางแยกเข้านครลำปาง ช้างก็ตื่นวิ่งเข้าไปในนครลำปาง ในที่สุดพระเจ้าสามฝั่งแกนจึงต้องยินยอมให้พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้วดอนเต้าเป็นเวลาถึง 32 ปี ก่อนที่จะมีผู้อัญเชิญไปประดิษฐานยังเชียงใหม่ ปัจจุบันทางวัดได้สร้างรูปปั้นช้างเชือกที่วิ่งนำพระแก้วมรกตเข้ามายังลำปางโดยมีองค์พระแก้วมรกตจำลองประดิษฐานบนหลังช้างให้พุทธศาสนิกชนสักการะบูชา
ศาลเจ้าพ่อประตูผา เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวลำปาง
มาชมวัดอีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือ “วัดปงสนุก” ในอำเภอเมือง วัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญคู่ลำปางมาเป็นเวลานาน สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะเคยเป็นศูนย์กลางเวียงละกอนสมัยล้านนารุ่งเรือง วัดปงสนุกมีม่อนดอยเป็นจุดไฮไลท์ มีลักษณะเป็นเนินเขาพระสุเมรุจำลอง สร้างตามคติจักรวาล ม่อนดอยเป็นที่ตั้งของวิหารพระเจ้าพันองค์ สร้างด้วยไม้ กลางวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปสี่องค์หันพระพักตร์ออกสี่ทิศ

วัดปงสนุกยังเป็นแหล่งรวมข้าวของทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมมากมายที่ทางวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ อีกทั้งยังอนุรักษ์งานศิลปสถาปัตยกรรมที่สำคัญ ได้แก่ พระธาตุศรีจอมไคล และวิหารพระเจ้าพันองค์ โดยได้รับการบูรณะอย่างถูกหลักวิชาการโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านปงสนุก จนเมื่อปี 2551 ทางวัดได้รับรางวัลจาก UNESCO ด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม (Award of Merit) ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของชุมชนปงสนุกและชาวลำปางเป็นอย่างยิ่ง
ภาพเขียนสีประตูผา อารยธรรมโบราณ
สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่คนลำปางให้ความเคารพนับถือก็คือ “ศาลเจ้าพ่อประตูผา” ในอำเภองาว เจ้าพ่อประตูผาเป็นยอดนักรบแห่งเมืองลำปางที่ต่อสู้กับพม่าเพื่อปกป้องแผ่นดินของตนด้วยความกล้าหาญจนเสียชีวิตลง ณ ที่นี้ และในบริเวณนี้ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงชันยังมี “ภาพเขียนสีโบราณประตูผา” ซึ่งเป็นแหล่งภาพเขียนสีที่มีจำนวนมากและมีความยาวต่อเนื่องมากที่สุดในภาคเหนือ มีอายุราว 3,000 ปี เก่าแก่พอๆ กับภาพเขียนสีที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี
รถม้า สัญลักษณ์ของลำปาง
ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองลำปางกันไปแล้ว มาว่ากันด้วยเรื่องเอกลักษณ์ของเมืองลำปางอย่าง “รถม้า” กันบ้าง รถม้าในลำปางมีความเป็นมายาวนานกว่าร้อยปี โดยในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงสั่งรถม้าเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นรถหลวง จนเมื่อรถยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาท รถม้าจึงได้ถูกกระจายออกจากกรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อมีการวางรางรถไฟขึ้นมาจนถึงลำปาง รถม้าจึงกลายเป็นยานพาหนะรับส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟจังหวัดลำปางเข้าสู่ตัวเมือง เมื่อเวลาผ่านไปการคมนาคมเจริญขึ้นทำให้รถม้าค่อยๆ น้อยลงแต่ก็ยังคงมีเหลืออยู่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศเก่าๆ กัน
ช้างน้อยแสนฉลาดวาดรูปได้สวยที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
ที่เมืองนี้นอกจากจะฝึกม้าไว้ใช้แล้ว ยังสามารถฝึกช้างให้เชื่องได้อีกต่างหาก เพราะในสมัยก่อนลำปางเคยเป็นแหล่งทำไม้ในอดีต จึงมีการคล้องช้างมาไว้ใช้ลากซุง คนลำปางกับช้างจึงมีความผูกพันกันมาจนปัจจุบัน โดยสถานที่ฝึกช้างที่มีชื่อเสียงของลำปางก็คือ “สถาบันคชบาลแห่งชาติ” หรือ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” ในอำเภอห้างฉัตร ซึ่งเป็นศูนย์รวมภูมิปัญญาช้างไทยแบบครบเครื่อง มีทั้งโรงเรียนฝึกควาญช้าง ฝึกลูกช้าง โรงพยาบาลช้าง มีศูนย์ข้อมูลความรู้ ข้อมูลวิจัย นิทรรศการเกี่ยวกับช้าง อีกทั้งยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างไม่ว่าจะเป็นการแสดงช้าง บริการขี่ช้างท่องเที่ยว ขี่ช้างไปแคมปิ้งในป่า ฯลฯ
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
สำหรับการแสดงช้างนั้นสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก ทั้งการแสดงช้างอาบน้ำ ก่อนที่ช้างนักแสดงจะเดินแถวตอนเรียงหนึ่งใช้งวงเกี่ยวหางเป็นขบวนเข้าสู่ลานแสดงช้าง ชมช้างเล่นอังกะลุงในเพลง “ช้าง” ที่แสนจะน่ารัก และต้องทึ่งกับความสามารถของช้างไทยที่ใช้งวงวาดรูปเป็นภาพของดอกไม้ ใบหญ้าได้อย่างสวยงามน่าชมจนหลายๆ คนต้องทึ่ง

มาพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติกันบ้าง ลำปางมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าชมไม่แพ้ใคร อย่าง “อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน” ที่มีน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเป็นไฮไลท์หลัก นักท่องเที่ยวสามารถลงไปแช่น้ำแร่เพื่อบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบ การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิด และยังช่วยบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวกับกระดูกอีกด้วย โดยอุณหภูมิของบ่อน้ำแร่ที่ลงไปแช่นี้อยู่ที่ 39-42 องศาเซลเซียส หรือใครไม่อยากแช่แต่อยากกินไข่ต้มน้ำแร่ก็สามารถทำได้
จุดชมวิวเหมืองแม่เมาะ เหมืองลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
สำหรับคนที่ชอบการเดินป่า ตั้งแคมป์ นอนนับดาว ต้องไปที่ “อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล” ที่ยังมีสภาพพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ และมีอุโมงค์ขุนตาลซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเป็นระยะทาง 1,352 เมตร
ชามตราไก่ ของฝากเมืองลำปาง
อีกหนึ่งชื่อเสียงของเมืองลำปางก็คือ “เหมืองแม่เมาะ” เหมืองถ่านหินลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในอำเภอแม่เมาะ ซึ่งเป็นแหล่งขุดขนถ่านจำนวนประมาณ 15-17 ล้านตัน ส่งให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะเพื่อผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือตอนบนและล่าง ภายในเหมืองแม่เมาะได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ให้ความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาและกระบวนการทำเหมือง นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวภายในเหมืองอย่าง ทุ่งบัวตองซึ่งอยู่บนบริเวณที่ทิ้งดินด้านตะวันออกของบ่อเหมือง และจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. และมีลานเล่นสไลเดอร์ข้างบ่อเหมือง ซึ่งเป็นที่ทิ้งดินจากการทำเหมืองและได้ปรับปรุงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจโดยการปลูกไม้ดอกไม้ประดับพันธุ์ต่างๆ บริเวณนี้มีลานหญ้ากว้างที่มีทางลาดลงหรือลานสไลเดอร์ให้ได้เล่นสนุกกันด้วย และสำหรับคนชอบตีกอล์ฟ ที่นี่ก็มีสนามกอล์ฟ 18 หลุม สโมสรและบ้านพักไว้ให้บริการด้วย
เครื่องถ้วยชาม แก้วน้ำเซรามิคน่ารักๆ มีให้เลือกซื้อมากมาย
มาถึงลำปางแล้วยังไม่ได้ของฝากติดไม้ติดมือเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง เพราะฉะนั้นต้องแวะซื้อของฝากที่ถือกลับไปแล้วต้องรู้ว่ามาจากลำปางแน่ๆ นั่นก็คือ "ชามตราไก่" เนื่องจากจังหวัดลำปางมีแหล่งดินขาวที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทยและมีเป็นจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาขึ้น ที่นี่จึงมีโรงงานเซรามิคอยู่หลายแห่งให้เลือกช้อปกันตามใจ ซึ่งนอกจากชามตราไก่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์เมืองลำปางแล้ว ก็ยังมีถ้วย ชาม แก้วน้ำ ตุ๊กตาเซรามิคน่ารักๆ ให้เลือกซื้อกันมากมาย

หากยังช้อปไม่จุใจ ขอแนะนำให้มาเดิน “กาดกองต้า” ถนนคนเดินวันเสาร์-อาทิตย์ช่วงเย็นไปถึงค่ำในตัวเมืองลำปาง ที่ชาวบ้านจะนำสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองมาจัดตั้งวางขายให้ได้เลือกซื้อทั้งของกินพื้นเมืองและของที่ระลึกน่ารักๆ ไปฝากคนทางบ้าน อีกทั้งยังจะได้ชมอาคารบ้านเรือนโบราณที่สวยงามริมสองฝั่งถนนอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น