xs
xsm
sm
md
lg

ปั่นสองล้อลุย“แก่งกระจาน” สนุกสนาน ได้สุขภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปั่นจักรยานสนุกสนานที่เขื่อนแก่งกระจาน
“เหนื่อยไหม ค่อยๆ ปั่น ลองปรับเกียร์ไปเรื่อยๆ”

เสียงของเพื่อนร่วมทริปเอ่ยถาม “ตะลอนเที่ยว” ในขณะที่เรากำลังขะมักเขม้นทำความคุ้นเคยกับการปั่นเจ้าจักรยานเสือภูเขา มาเที่ยวยังเขื่อนแก่งกระจาน และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ. เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการมาออกทริปเที่ยวกับก๊วนผองเพื่อนนักปั่นน่องเหล็ก ที่ทางบริษัทโปรไบค์ได้จัดกิจกรรมดีๆ ที่มีชื่อว่า “โปรไบค์ 20 ปี สร้างสุขภาพดี สร้างโลกให้เข้มแข็ง We Believe in a Healthy World”
ทิวทัศน์เขื่อนแก่งกระจาน
“ตะลอนเที่ยว” ว่าการได้มาเที่ยวที่แก่งกระจาน ด้วยการปั่นจักรยานเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจมาก เพราะว่าเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่เป็นการสร้างมลภาวะเพิ่มให้กับธรรมชาติด้วย และก็ยังดีต่อสุขภาพร่างกายของตนเอง ที่จะได้ออกกำลังกับการปั่นจักรยานไปบนเส้นทางที่มีทั้งทางเรียบแบบสบายๆ ทางคดเคี้ยว และทางชันขึ้นสู่เนินเขา
ปั่นจักรยานชิลล์ ชิลล์ บนสันเขื่อนแก่งกระจาน
ก๊วนนักปั่นน่องเหล็กของพวกเรา ออกเดินทางปั่นจักยานเสือภูเขา มุ่งหน้าไปสู่ “เขื่อนแก่งกระจาน” เป็นจุดหมายปลายทางที่แรก การปั่นจักรยานบนเส้นทางขึ้นสู่ตัวเขื่อนแก่งกระจานนี้ ต้องบอกเลยว่า เส้นทางช่วงแรกพวกเรายังออกแรงปั่นจักรยานแบบสบายๆ ไปบนถนนทางเรียบ ยังไม่ต้องออกแรงปั่นมากนัก เรียกว่าปั่นกันไปแบบชิลล์ ชิลล์ มีแอบปั่นเคียงคู่กันไปคุยกันไปก็ยังได้ เพียงแต่ว่าต้องให้ความระมัดระวังกับรถราที่วิ่งขนาบคู่ไปด้วยเท่านั้นเอง
ปั่นเป็นแก๊งสนุกไปอีกแบบ
พอปั่นบนถนนเส้นทางเรียบสบายๆ มาได้สักพัก เส้นทางช่วงต่อไป คราวนี้แหละพวกเราต้องทำการปรับเกียร์ของจักรยานเสือภูเขากันบ้างแล้ว เพื่อที่จะได้พาทั้งจักรยานและตัวเองขึ้นสู่เนินเขาที่ออกจะสูงชันพอควร

“เอา สู้ๆ สู้ๆ ออกแรงปั่นหน่อย อีกนิดเดียว ก็จะพ้นเนินเขา ขึ้นสู่ตัวสันเขื่อนแล้ว”
ยามเย็นริมเขื่อนแก่งกระจาน
เพื่อนร่วมก๊วนตะโกนเสียงออกแรงเชียร์ “ตะลอนเที่ยว” ขณะที่เขากำลังค่อยๆ ปั่นจักรยานขึ้นสู่เนินเขา ผ่านเราไปแบบสบายๆ

“ตะลอนเที่ยว” ออกแรงขาสุดกำลังปั่นจักรยานขึ้นเนินเขา ต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกแบบไม่ย่อท้อ และแล้วความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น เมื่อเราสามารถพาทั้งตัวเองและจักรยานขึ้นมาสู่ตัวสันเขื่อนแก่งกระจานด้านบนได้สำเร็จอย่างใจหมาย (แต่ขอบอกว่าแอบเกือบไม่รอด เล่นเอาแทบจะหมดแรงขา ถอดใจไปแล้ว)
กางเต็นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติ
แต่สำหรับเพื่อนร่วมก๊วนบางคนที่หมดแรงขาไปเสียก่อน ก็ต้องมีการลงจากจักรยาน มาทำการจูงและเข็นจักรยานแบบเนิบๆ ขึ้นเนินเขาที่สูงชั้นเกินกว่ากำลังขาที่จะปั่นจักรยานได้แล้ว หรือไม่บางคนก็ต้องขอแอบจิบน้ำ พักเหนื่อย เติมกำลังเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายกันสักหน่อย ก่อนที่จะต้องออกแรงปั่นขึ้นเนินมาเพื่อให้ถึงยังบนสันเขื่อนแก่งกระจานด้านบน
ทิวเขาแห่งแก่งกระจาน
เมื่อนักปั่นน่องเหล็กทุกคนมาถึงบนสันเขื่อนแก่งกระจานด้านบนได้แล้ว แต่ละคนก็ออกอาการแตกต่างกันไป บางคนสบายๆ ดูไม่เหนื่อย ไม่ล้าขาเลย บางคนถึงกับดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เย็นๆ เพื่อเรียกเหงื่อที่สูญเสียไป สร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย บางคนก็ขอจอดจักรยาน ลงมานั่งพักเหนื่อยเหยียดแข้ง เหยียดขาคลายกล้ามเนื้อกันใหญ่เลย

สำหรับ “ตะลอนเที่ยว” แล้วไม่ต้องพูดถึงเลย อาการเหนื่อยหอบกับการปั่นจักรยานนั้นมีไม่น้อย เราจึงทั้งจอดจักรยานไว้ แล้วเล็งหาที่นั่งพักเหนื่อย ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ร่างกายสดชื่นอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะขอชื่นชมและสัมผัสกับธรรมชาติและทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนแก่งจานกัน
หลักฐานยืนยันว่าปั่นมาถึงแล้ว
เขื่อนแก่งกระจาน แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2504 และเสร็จ พ.ศ.2509 มีลักษณะเป็นเขื่อนดินสร้างปิดกั้นแม่น้ำเพชร ที่บริเวณเขาเจ้าและเขาไม้รวก ประชิดกับต.สองพี่น้อง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตัวเขื่อนมีความสูง 58 ม. มีความยาวสันเขื่อน 760 ม. กว้าง 8 ม. ระดับสันเขื่อน 106 ม. (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) และก็ยังมีเขื่อนดินปิดเขาต่ำทางขวางเขื่อนอีก 2 แห่ง โดยแห่งแรกสูง 36 ม. สันเขื่อนยาว 305 ม. แห่งที่ 2 สูง 24 ม. สันเขื่อนยาว 255 ม. เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น และอำนวยประโยชน์ในด้านการชลประทาน บริเวณที่ราบจ.เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าและมีประโยชน์ด้านการประมง การคมนาคมทางน้ำ รวมถึงยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย
ก๊วนนักปั่นน่องเหล็ก
พวกเราเหล่านักปั่นน่องเหล็ก ใช้เวลาพักผ่อนให้หายเหนื่อย บนสันเขื่อนแก่งกระจาน ยืนชมความสวยงามของธรรมชาติอันพิสุทธิ์ ซึ่งบนสันเขื่อนนี้สามารถมองเห็นทะเลสาบอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานได้ในมุมสูง ได้เห็นถึงความกว้างใหญ่ของอ่างเก็บน้ำที่มีเนื้อที่ประมาณ 46.5 ตร.กม. หรือ 26,325 ไร่ ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนดินปิด 3 ช่องทางระหว่างหุบเขา ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมแก่งน้ำเดิม กลายเป็นพื้นน้ำอาณาเขตกว้างขวางจากยอดเขาเนินเขาหลากหลาย เกิดเป็นเกาะโผล่พ้นน้ำถึง 30 - 40 เกาะ ทำให้เกิดทิวทัศน์อันงดงามยิ่ง สามารถนั่งเรือไปชมทัศนียภาพของเกาะได้อย่างใกล้ชิด เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
ปล่อยปลาคืนน้ำที่เขื่อนแก่งกระจาน
พอหายเหนื่อยและได้สูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอดแล้ว ก็ได้เวลาออกแรงปั่นจักรยานกันต่อ มุ่งหน้าตรงไปยัง "หน่วยบริหารจัดการประมงน้ำจืดเขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี" โดยมาทำความดีด้วยการปล่อยลูกปลาคืนสู่ธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน เพื่อจะได้เจริญเติบโตเป็นแหล่งอาหารให้กับชาวบ้าน ได้จับปลาเหล่านี้ไปกินและจับปลาไปขาย สร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง
สัตว์สวยป่างามแห่งแก่งกระจาน
และหลังจากที่ได้ทำการปล่อยปลา อิ่มใจ อิ่มบุญ กันเป็นที่เรียบร้อย ล้อจักรยานก็หมุนอีกครั้ง เพื่อตรงไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่รออยู่ นั่นคือ การปั่นจักรยานสู่ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อ.หนองหญ้าปล้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และยังคงมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี
ปั่นจักรยานไม่ไหวแล้ว ก็เข็นจูงกันไป
ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มาดูนก ดูผีเสื้อ ดูสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์ หรือจะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ไปชมทะเลหมอกและชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอันงดงาม และยังมีน้ำตกให้เที่ยวอีกหลายแห่ง อาทิ น้ำตกทิพย์ น้ำตกกระดังลา น้ำตกธารทิพย์ ถ้าใครชอบเที่ยวถ้ำก็มีถ้ำให้เลือกเที่ยวเหมือนกัน อาทิ ถ้ำค้างคาว ถ้ำวิมาน ถ้ำหัวช้าง
คนพัก จักรยานก็พักด้วย
พวกเราชาวคณะนักปั่นน่องเหล็ก เมื่อปั่นจักรยานมาถึงที่ทำการอุทยานฯ กันแล้ว ต่างคน ต่างมีความรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะว่าบนอุทยานฯ มีสภาพแวดล้อมอันรื่นรมย์ไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่ และเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานที่สวยงาม มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันมากางเต๊นท์นอน และเที่ยวพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติกันอย่างสนุกสนาน
เลาะเลี้ยวตามโค้ง
“ตะลอนเที่ยว” มีความรู้สึกว่าเมืองไทยของเรา ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติอันงดงามอยู่ ซึ่งพวกเราชาวไทยทุกคน ควรจะต้องรู้จักเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ ไม่เที่ยวแบบเบียดเบียนธรรมชาติ อย่างเช่นการปั่นจักรยานเที่ยวเหมือนที่พวกเราทำในทริปนี้ ก็ถือว่าเป็นการเที่ยวแบบรักษ์ธรรมชาติ แถมได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับจักรยาน สามารถติดต่อไปได้ที่บริษัทโปรไบค์ เลขที่ 237/2 ถ.สารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. โทร. 0-2253-3384, 0-2254-1077 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.probike.co.th
กำลังโหลดความคิดเห็น