เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า การเลือกเนื้อวัวมาทำอาหารสักจานนั้น ต้องเลือกเนื้อที่สด สะอาด ออกสีแดงๆ กดลงไปแล้วเนื้อไม่บุ๋ม ไม่มีน้ำเลือดไหลซึมออกมา ไม่มีสีคล้ำอมเขียว และเมื่อดมแล้วไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
แต่เนื้อวัวก็มีอยู่หลายส่วนให้เลือกกิน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัน ซี่โครง สะโพก เป็นต้น ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ซึ่งก็จะเหมาะกับการทำอาหารแตกต่างเมนูกัน “108 เคล็ดกิน” จึงอยากแบ่งแยกให้เห็นกัน ดังนี้
เนื้อส่วนคอ (Chuck) เหมาะสำหรับทำอาหารประเภออบ เนื้อบด ทำซุป หรือสตูว์
เนื้อกระพุ้งแก้ม นำไปตุ๋นจนเปื่อยจะได้เนื้อนุ่มอร่อยเป็นส่วนที่มีน้อยและหายาก
ลิ้นวัว เหมาะที่จะนำมาเคี่ยวทำสตูว์
เนื้อไหล่ เหมาะสำหรับทำสุกี้ยากี้ ชาบุชาบุ หรืออาหารที่ใช้เนื้อเป็นก้อน
เนื้อสันใน (Tenderloin) เนื้อส่วนนี้นุ่มและมีไขมันน้อย เหมาะสำหรับน้ำมาผัด หรือย่างทั้งก้อน
เนื้อสันนอก (Sirloin) เนื้อนุ่มเหมาะสำหรับทำสต็กที่สุด
เนื้อติดซี่โครง (Rib) เนื้อนุ่ม ลายไขมันเป็นลายหินอ่อน เหมาะกับการอบ ทอด และย่าง
เนื้อสะโพก (Rump) เหมาะกับการอบ ย่าง ทำเนื้อบด หรือสเต็ก
เนื้อส่วนท้อง (Plate&Flank) มีไขมันเยอะ รสชาติเข้มข้น จึงเหมาะกับการทำสตูว์ น้ำสต๊อก ทำเนื้อเปื่อย หรือ เนื้อตุ๋น
เนื้อท่อนขา (FORE SHANK ) เป็นส่วนที่เหนียว เหมาะที่จะสตูว์ น้ำซุป ย่าง หรือตุ๋น
หางวัว เป็นเนื้อส่วนที่มีคอลลาเจนมาก เหมาะสำหรับนำไปตุ๋น นิยมทำเป็นซุปหางวัว
กระดูกวัว เหมาะที่จะนำมาต้มทำน้ำซุป
คราวนี้ก็ได้รู้แล้วว่า เนื้อวัวส่วนไหน เหมาะกับอาหารจานใด ต่อไปนี้ถ้าหากจะเข้าครัวปรุงอาหาร จะได้เลือกให้ถูกส่วน เพื่อเพิ่มความเอร็ดอร่อยให้กับอาหารจานนั้นๆ