มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่นับถือบูชาเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งนอกจากเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริยิ์อันเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลแล้ว องค์เจ้าแม่กวนอิมยังมีแง่งามทางศิลปะที่น่ายลเป็นอย่างยิ่ง นั่นจึงเป็นที่มาของการเดินทางไปสักการะชื่นชมองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ "ตำหนักพระแม่กวนอิม" ซ.โชคชัย 4 ที่แม้ยังไม่ไม่ถึงตัวตำหนักดี ฉันก็มองเห็นเจดีย์องค์โตตั้งตระหง่านต้อนรับผู้ที่มาเยือน
เจดีย์อันสุดอลังการองค์นี้ มีชื่อว่า "พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าหมื่นพระองค์" เป็นพระมหาเจดีย์ที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสูงถึง 21 ชั้น ตามประวัติเล่าว่า เมื่อหลายพันปีก่อนองค์พระแม่กวนอิมมหาโพธิ์สัตว์ (อวโลกิเตศวร) ได้เคยเสด็จมาตั้งโพธิจิตที่จะสร้างพระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าหมื่นพระองค์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ สถานที่แห่งนี้
ส่วนสาเหตุที่พระองค์ทรงเลือกสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากเป็น เล่งเถ๊า แปลว่า หัวมังกร ที่มีมังกรเฝ้าอารักขาอยู่ และตรงจุดที่สร้างพระมหาเจดีย์เป็นส่วนหัวของพญามังกร ดังนั้นเมื่อปี พ.ศ.2531 จึงได้เริ่มก่อสร้างพระมหาเจดีย์แห่งนี้ด้วยแรงแห่งศรัทธาของพุทธศาสนิกชน จนในที่สุดก็แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2543
สำหรับพระมหาเจดีย์ฯแต่ละชั้น จะมีรูปวาดจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวต่างๆทางพุทธศาสนา เช่นที่ชั้นบนสุดเป็นประวัติของพระพุทธเจ้า ประวัติเจ้าแม่กวนอิม ชั้นถัดๆลงมาเป็นประวัติเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าหลายๆเรื่องหลายรูปแบบ ประวัติพระพิฆเนศ และรูปปั้นเคารพต่างๆเป็นต้น
และด้านบนสุดของพระมหาเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานหากมองจากด้านนอกจะเห็น “ลูกแก้วสารพัดนึก” ติดกระจกรอบด้านสีทองอร่าม นอกจากนี้ทั้งพระมหาเจดีย์ยังมีพระพุทธรูปพระพุทธเจ้ารวมหนึ่งหมื่นพระองค์ ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อ "พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าหมื่นพระองค์" นั่นเอง
เมื่อฉันได้เข้าไปในพระมหาเจดีย์ก็รู้สึกถึงความสงบเย็นขึ้นทันที และเบื้องหน้าของฉันก็เป็นที่ประดิษฐาน "พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์" หรือ "พระแม่กวนอิมพันเนตรพันกร" มีพระพักตร์ 20 หน้า แกะสลักจากไม้จันทน์หอมจากเมืองจีน ปิดด้วยทองคำแท้ สูงถึง 8.30 เมตร ประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ จำนวน 4 องค์
ว่าแล้วฉันก็ขอสักการะ โดยการตั้งจิตอธิษฐานอย่างแน่วแน่ต่อพระแม่กวนอิมพันเนตรพันกรทั้ง 4 ทิศ 4 องค์ เพราะมีความเชื่อว่าจะสมหวังดังปรารถนาด้วย
เมื่ออิ่มอกอิ่มใจแล้ว ฉันก็เดินดูรอบๆบริเวณชั้น 2 แห่งนี้ ซึ่งใช้ล้อเกวียนมาทำเป็นพื้นพระมหาเจดีย์ รอบๆมี "ถังโอมมานีแปะหมี่ฮง" หรือ "คาถาหัวใจพระแม่กวนอิม" จำนวน 108 ใบ ให้ได้สวดสะเดาะเคราะห์ เสริมบารมีให้กับตนเอง โดยเรื่องราวบนถังโอมมานีแปะหมี่ฮง 84 ใบ เป็นเรื่องราวการแปลงกายของพระแม่กวนอิม ส่วนอีก 24 ใบ เป็นคาถาหัวใจ
นอกจากนี้ รอบๆองค์เจดีย์ชั้นนอกถัดจากถังโอมมานีแปะหมี่ฮง ยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร รวมทั้งพระมหาเจดีย์แล้วมี 108 องค์ ซึ่ง มี 21 องค์อยู่ที่ชั้นบนสุด ส่วนที่เหลืออยู่ที่ชั้น 2 แห่งนี้นี่เอง
ในส่วนของชั้นใต้ดิน เป็นสถานที่ไหว้พระประจำปีเกิด 12 ราศี เพื่อเสริมดวงในปีเกิดของตนเอง นอกจากนี้ชั้นใต้ดินยังเป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของอีกมากมายที่มีผู้มาบริจาคและทิ้งเอาไว้ เช่น จานชาม รูปปั้น รูปสลักต่างๆ เป็นต้น ซึ่งหากใครมาในช่วงนี้ ทางตำหนักพระแม่กวนอิมจะเปิดให้เข้าได้ในชั้นที่ 2 และชั้นใต้ดินเท่านั้น และจะเปิดให้เข้าได้ทุกชั้นในงานเปิดป้ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 ธันวาคม นี้ เป็นต้นไป
เมื่อกราบไหว้ขอพรพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ทั้ง 4 ทิศ หมุนถังโอมมานีแปะหมี่ฮงครบ 108 ใบ และไหว้พระประจำปีเกิดแล้ว ก็ได้เวลาออกตะเวนรอบพระมหาเจดีย์ที่ร่มรื่นไปด้วยไม้ประดับและสวนหินล้านปีแบบจีนเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ในบริเวณสวนหินนี้มีรูปปั้น รูปแกะสลักมากมาย คาดคะเนจากสายตาฉันแล้วก็น่าจะนับพันเลยทีเดียว
โดยรูปปั้นรูปสลักทั้งหมดนั้นเป็นสีขาวดูสวยงามเป็นสง่าและสะอาดตาเป็นอย่างยิ่ง รูปปั้นรูปสลักต่างๆนี้บ้างสลักจากหินอ่อนบ้างสลักจากหินแกรนิต อาทิ รูปปั้นพระแม่กวนอิม 108 ปาง ทำจากหินอ่อน, รูปปั้น 18 อรหันต์, รูปปั้น 8 เซียน, รูปปั้นเทพเจ้า 4 ทิศ, รูปปั้นเง็กเซียนฮ่องเต้, รูปปั้นเทพเจ้า 9 พระองค์ และรูปปั้นพระแม่กวนอิม เทพและเซียนต่างๆ อีกมากมายจนนับไม่ถ้วน
ยัง....ยังไม่หมดแค่นี้ ฉันข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ตำหนักพระแม่กวนอิม" บริเวณภายในตำหนักพระแม่กวนอิมนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระแม่กวนอิมปางประทานพรพระหัตถ์ซ้ายทรงดอกบัว พระหัตถ์ขวาทรงแจกันเทคว่ำเพื่อประทานน้ำทิพย์ ประทับยืนบนคางคก 3 ขาอันเป็นสาวก
ซึ่งคางคกนี้เดิมเป็นมนุษย์ชื่อ ฮวด แซ่อึ้ง เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมหาศาล แต่เดิมเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำบุญสร้างกุศล ครั้นตายลงจึงมาเกิดเป็นคางคก เฝ้าทรัพย์อยู่ริมสระหน้าบ้าน วันหนึ่งเกิดสำนึกในบุญทานการกุศล จึงได้ไปเจ้าฝันภรรยาของตนให้เอาทรัพย์สินไปสร้างวัด สร้างเจดีย์ แล้วตนเองก็ได้บำเพ็ญศีลภาวนาจนสำเร็จเป็นเทพเอี๊ยงเอี้ยงไต้ซือ และได้ปวารนาตัวอยู่รับใช้พระแม่กวนอิม และที่มี 3 ขาแสดงถึงความเป็นเทพ
เมื่อฉันก็เห็นพระแม่กวนอิมประทับยืนบนคางคก 3 ขา ก็รู้สึกแปลกตาเพราะเคยเห็นแต่พระแม่กวนอิมประทับวัว และข้างๆองค์พระแม่กวนอิม คือ เจ้าชายอั้งไฮ้ยี้ หรือพระสุธนกุมาร ศิษย์เอกของพระแม่กวนอิม ยืนพนมมือย่อเข่าด้วยท่าทีนอบน้อมอยู่ด้านซ้ายมือของพระองค์ท่าน
ส่วนเบื้องหลังรูปปั้นพระแม่กวนอิมมีรูปปั้น 18 อรหันต์ให้เราๆได้เห็นหน้าตากันอย่างชัดๆด้วย และรอบๆเก๋งพระแม่กวนอิมยังมีระฆัง 99 ใบ ให้ได้ตีเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งก็แน่นอนว่า ฉันก็ไม่พลาดที่จะเคาะตีระฆังให้เสียงดังกังวานไปไกล
นอกจากนี้ภายในบริเวณตำหนักพระแม่กวนอิม ยังมีรูปปั้น รูปเคารพของเทพ และเซียนอีกมากมาย อาทิ เก๋งพระศิวะ, ซุ้มเทพเจ้า 9 พระองค์,เทพเจ้าตี่จั่งอ๊วงผ่อสัก, องค์นาจา, เทพเอี๋ยงเอี้ยงไต่ซือ, ลูกแก้วสารพัดนึก ที่หากจะอธิษฐานขออะไรก็จะสมหวังดังชื่อของลูกแก้ว, มีพระประจำวันเกิด, หมอเทวดาฮั่วท้อเซียนซือ ฯลฯ
ส่วนใครที่อยากสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ที่บริเวณชั้น 3 ของตำหนักพระแม่กวนอิมแห่งนี้ มีห้องสวดมนต์ที่จุผู้คนที่มักจะมาหาความสุขสงบใจได้เกือบ 200 คน และยังมีรูปปั้นพระแม่กวนอิมทั้งเล็กใหญ่นับพันองค์ด้วย
ถัดมาเป็น "วิหารแปดเซียน" หรือ "วิหารมังกร" สูง 5 ชั้น เหตุที่เรียกว่าวิหารมังกรนั้นเพราะด้านบนสุดในชั้นที่ 5 บนหลังคาที่ปกคลุมสถานที่ประดิษฐานรูปเคารพ 8 เซียน ซึ่งหล่อด้วยเรซิ่นทาสีทอง มีมังกรอันประณีตสวยงามถึง 108 ตัว ฝาผนังภายในมีรูปวาดพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ ได้แก่ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และพระพุทธเจ้าในอดีต 2 พระองค์ และยังมีพระแม่กวนอิมประทับสิงห์ และเจ้าแม่กวนอิมประทับช้างด้วย
รอบนอกบนกำแพงดาดฟ้ามีรูปปั้นพระแม่กวนอิมปางประทานพร 17 องค์ มองเหนือขึ้นไปด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระพุทธเจ้าสีทองอร่าม จากชั้นบนนี้สามารถมองเห็นวิวของพระมหาเจดีย์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย
แต่ฉันต้องขอบอกไว้ก่อนว่า หากใครจะมาเที่ยวกราบไหว้พระแม่กวนอิมที่ "ตำหนักพระแม่กวนอิม" ซอยโชคชัย 4 แห่งนี้ ก็ควรจะมีเวลามากๆสักหน่อยเพราะสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีหลากมุมให้เราได้สัมผัส และหากใครอยากที่จะมาถือศีลทำสมาธิหลายๆวัน ที่นี่ก็มีที่พักเตรียมไว้ให้เพื่อความสะดวก ยังไงมาสร้างบุญสร้างกุศลในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว กลับออกไปก็อย่าลืมทำความดีทำจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยเถิด
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ตำหนักพระแม่กวนอิม” ตั้งอยู่ที่ 4/37 หมู่ 10 ถนนโชคชัย 4 ซอย 39 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ การเดินทางสามารถเข้าได้หลายทาง หนึ่งในเส้นทางที่สะดวกก็คือมาจากทางถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าซอยโชคชัย 4 แล้วตรงมาเรื่อยๆ ด้านซ้ายมือจะเจอกับ โชคชัย 4ซอย 39 เลี้ยวเข้าไปก็จะเจอกับตำหนักพระแม่กวนอิม สามารถจอดรถได้ทางขวามือ พระตำหนัก เปิดทุกวัน เวลา 07.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2539-6228