อวลกลิ่นดอกไม้รับวาเลนไทน์ที่ "ปากคลองตลาด"

โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

ถึงช่วงวันวาเลนไทน์ทีไร ปากคลองตลาดเป็นต้องคึกคักขึ้นมาทุกที เพราะหนุ่มๆสาวๆมักจะมาหาซื้อดอกไม้เพื่อมอบให้แก่กันที่นี่จนราคาดอกไม้พุ่งกระฉูดแพงกว่าช่วงเวลาปกติทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลแห่งความรัก

ฉันเคยสงสัยอยู่เหมือนว่าทำไมเราจึงต้องเรียก "ปากคลองตลาด" แทนที่จะเรียกว่า "ตลาดปากคลอง" แต่เมื่อได้ลองค้นหาประวัติของปากคลองตลาดมาอ่านแล้วก็ทำให้รู้ว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองขึ้นหลายสายตั้งแต่เริ่มสถาปนากรุงเทพ โดยมีคลองเล็กๆ สายหนึ่งพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้ขุดขึ้นที่ข้างวัดบูรณศิริอมาตยารามมาออกที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองตลาดในปัจจุบัน และคลองสายนี้เองที่ก่อให้เกิดชุมชนริมน้ำขนาดใหญ่ที่สมัยก่อนเรียกว่า "คลองตลาด" เพราะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือนำข้าวของมาขายกันเต็มคลอง เป็นตลาดน้ำที่เต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดจนต้องเรียกว่าเป็นคลองตลาดนั่นเอง

และหลายๆคนคงจะยังไม่ทราบว่าก่อนหน้าที่ปากคลองตลาดจะมาเป็นตลาดดอกไม้หอมกรุ่นอย่างนี้ แต่เดิมปากคลองตลาดเคยเป็นตลาดค้าปลาแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งมาก่อน เรียกว่ากลิ่นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเมื่อก่อนนี้จะมีเรือบรรทุกปลาล่องมาจากแม่น้ำท่าจีนหรือที่จังหวัดสมุทรสาคร มาขึ้นที่ปากคลองตลาด แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการประกาศยกเลิกตลาดปลาแห่งนี้ให้ไปรวมอยู่ที่ตำบลวัวลำพอง หรือหัวลำโพงในปัจจุบัน แต่ตลาดน้ำปากคลองนั้นก็ยังคงมีอยู่ แต่ก็เคลื่อนที่ไปมาระหว่างปากคลองตลาดกับท่าเตียน

เมื่อตลาดปลาย้ายไปแล้ว ตลาดนี้จึงแปรสภาพเป็นตลาดสดที่มีสินค้าเกษตรกรรมจำพวกผัก ผลไม้และดอกไม้สด โดยเฉพาะดอกไม้นั้นกลายเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของปากคลองตลาดมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพของความเป็นตลาดที่คึกคักและดอกไม้สวยๆงามๆกลิ่นหอมๆนั้น ทำให้ปากคลองตลาดเป็นมากกว่าตลาดธรรมดา เพราะที่นี่ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชอบความมีชีวิตชีวาอันเป็นเสน่ห์ของตลาด และยังอาจได้ดอกไม้ดอกงามๆติดไม้ติดมือกันมาอีกด้วย ว่าแล้วเราก็ไปลุยปากคลองตลาดกันเลยดีกว่า

สำหรับคนที่อยากจะมาเที่ยวที่ปากคลองตลาดนั้นก็สามารถมากันได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน สำหรับช่วงกลางวันนั้นก็จะเป็นช่วงของลูกค้าปกติที่มาซื้อหาดอกไม้ไปจัดแจกัน จัดช่อดอกไม้ ซึ่งความหลากหลายของดอกไม้นั้นก็ไม่ต้องพูดถึง อยากได้ดอกอะไรแม่ค้าพ่อค้าที่ปากคลองตลาดสามารถจัดให้ได้ จะเอากุหลาบ เยอร์บีร่า ดาวเรือง เบญจมาศ ลิลลี่ คาร์เนชั่น ดอกบัว กล้วยไม้ และอื่นๆอีกมากมายสาธยายไม่หมด รวมไปถึงไม้ใบที่ใช้แซมประดับในแจกันหรือในช่อดอกไม้ กระดาษและโบสีต่างๆที่ใช้ในการจัดช่อดอกไม้ และอุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดดอกไม้ก็มีขายที่นี่ และหากดูแล้วจัดดอกไม้เองคงจะยุ่งยากแถมผลงานที่ได้อาจจะออกมาไม่สวยถูกใจ ที่ปากคลองตลาดก็มีร้านจัดดอกไม้ให้บริการอยู่หลายร้าน สามารถเลือกได้ตามใจชอบ

ในช่วงกลางวันนี้เองที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาที่เที่ยวปากคลองตลาด และเท่าที่ฉันเห็น นักท่องเที่ยวหลายรายมักจะใช้เวลาอยู่หน้าร้านขายพวงมาลัย ยืนมองแม่ค้าร้อยพวงมาลัยอย่างเพลิดเพลินแกมชื่นชม บางคนถึงกับซื้อมาคล้องแขนอีกต่างหาก

และเมื่อราตรีมาเยือน ปากคลองตลาดก็ไม่เคยหลับใหล เพราะในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้จากทั่วประเทศจะเดินทางมาถึงที่ปากคลองตลาด กุหลาบจะเดินทางมาจากจังหวัดตากและเชียงใหม่ ดอกบัวจะเดินทางมาจากอยุธยาหรือปทุมธานี กล้วยไม้จะมาจากนครปฐม และดอกไม้ชนิดอื่นๆจากทั่วทุกสารทิศก็จะมาพบกันที่นี่ รอให้พ่อค้าแม่ค้าที่จะซื้อดอกไม้จำนวนมากๆ เช่นร้านค้าที่ขายดอกไม้ปลีก หรือร้านรับจัดดอกไม้ เดินทางมาเลือกดอกไม้ที่สวยที่สุด และซื้อดอกไม้ในราคาส่งแยกย้ายกันไปขายตามที่ต่างๆ ในช่วงกลางคืนอย่างนี้ตลาดดอกไม้จะขยับขยายพื้นที่ไปจนถึงหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบ ดังนั้นปากคลองตลาดในช่วงนี้จึงไม่เงียบเหงา แต่กลับคึกคักมีชีวิตชีวาไม่แพ้ตอนกลางวันเลยทีเดียว

และยิ่งในช่วงใกล้วาเลนไทน์อย่างนี้ปากคลองยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ คนซื้อก็คึกคักอยากจะเลือกซื้อดอกไม้ไปฝากคนรัก คนขายก็คึกคักเพราะในช่วงนี้ราคาดอกไม้จะแพงเป็นพิเศษเพราะขายได้มาก โดยเฉพาะดอกกุหลาบที่ราคาสูงเป็นสองเท่าของราคาปกติ แต่ถึงจะเรียกราคาสูงก็ยังมีคนซื้ออยู่ดี

ไหนๆก็มาเดินเที่ยวถึงปากคลองตลาดแล้ว มาทั้งทีก็อย่าให้เสียโอกาส ควรจะไปเดินทอดน่องชมบรรยากาศอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงด้วย ถ้าจะให้ดีก็ต้องมาปากคลองตลาดในช่วงบ่ายๆ ใกล้เวลาแดดร่มลมตก เดินชมดอกไม้ให้ทั่วปากคลองตลาด จากนั้นพอพระอาทิตย์ใกล้ตกดินก็เดินมาที่ "สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "สะพานพระพุทธยอดฟ้า" เพื่อเดินเล่นกินบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกกันเสียหน่อย โดยสะพานแห่งนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่สองของประเทศไทย (สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกคือสะพานพระรามหก)

สะพานพระพุทธยอดฟ้า หรือสะพานพุทธ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องในโอกาสที่สถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี ตัวสะพานเป็นโครงเหล็กซึ่งแต่เดิมสามารถยกเปิดปิดเพื่อให้เรือขนาดใหญ่แล่นผ่านได้ แต่หลังจากที่มีการซ่อมแซมสะพานในปี 2529 แล้วก็ไม่สามารถยกเปิดปิดได้อีกต่อไป

แล้วอย่าลืมแวะกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกที่บริเวณเชิงสะพานพุทธฯฝั่งพระนครกันก่อน พระบรมราชานุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นมาพร้อมๆกับตัวสะพาน ออกแบบและอำนวยการสร้างโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และผู้ปั้นพระบรมรูปก็คืออาจารย์ศิลป์ พีระศรีนั่นเอง

ทีนี้พอฟ้ามืดถึงเวลาค่ำ ที่บริเวณใต้สะพานพุทธฯฝั่งพระนครก็ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยามราตรีที่มีข้าวของประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทั้งแบบใหม่แกะถุงและเสื้อผ้ามือสอง รวมไปถึงเครื่องประดับแนวๆ และของกระจุกกระจิกทั้งหลายก็มีให้เลือกซื้อกัน และเมื่อเดินไปช้อปปิ้งไปเพลินๆ ลองมองไปรอบๆ ตัวก็จะเห็นตึกหน้าตาแบบฝรั่งทาสีครีมสวยตั้งอยู่ริมน้ำ มีตัวหนังสือติดไว้ว่า "ไปรษณียาคาร" นั่นก็คืออาคารที่ตั้งเดิมของกรมไปรษณีย์ และที่ทำการไปรษณีย์แห่งแรกของประเทศไทย ตอนกลางคืนจะเปิดไฟส่องดูสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว

วันวาเลนไทน์นี้หากใครที่เตรียมซื้อดอกไม้ไว้ให้แฟนเรียบร้อยแล้ว คนรับก็คงจะชื่นใจ แต่ถ้าจะให้ฉันแนะนำวิธีที่ประหยัดสตางค์แถมยังชื่นใจได้เหมือนกันก็คือพาแฟนมาเดินเที่ยวที่ปากคลองตลาดเสียเลย พากันเดินชมดอกไม้สวยๆและสูดกลิ่นหอมๆไปด้วยก็ชื่นใจไม่แพ้กัน และถ้ายิ่งต่อท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกบนสะพานพุทธฯ แล้วเกี่ยวก้อยกระหนุงกระหนิงช้อปปิ้ง ชมตึกสวยๆยามราตรีกันต่อ แหม...โรแมนติกได้อีกนะเนี่ย

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

"ปากคลองตลาด" ตั้งอยู่ระหว่างสะพานพุทธยอดฟ้าและโรงเรียนราชินี การเดินทางไปยังปากคลองตลาด มีรถประจำทางสาย 2, 3, 7ก, 9, 12, 53, 60, 73, 73ก, 82 หรือสามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาขึ้นที่ท่าเรือสะพานพุทธฯก็ได้เช่นกัน