เมื่ออาทิตย์ก่อน "108 เคล็ดกิน" เพิ่งบอกเล่าสู่กันฟังว่า Spinach หรือผักเพิ่มพลังของป๊อบอายนั้นไม่ใช่ผักโขม แต่เป็นผักปวยเล้ง คราวนี้จึงจะขอนำ "ผักโขม" ตัวจริงมาให้รู้จักกัน
ผักโขมนั้นเป็นผักที่หลายๆประเทศทั่วโลกรู้จักกันมายาวนานแล้ว สำหรับในประเทศไทยเองก็นิยมกินผักโขมมานานเช่นกัน โดยผักโขมนั้นก็แบ่งออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน เช่น ผักโขมบ้าน ผักโขมสวน และผักโขมจีน ซึ่งชนิดที่คนนิยมกินและมีวางขายทั่วไปก็คือผักโขมจีนนั่นเอง
สำหรับประโยชน์ของผักโขมนั้นก็มีมากมายไม่แพ้ผักชนิดไหนๆ เริ่มตั้งแต่เป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง เป็นผักบำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน และแม้ผักโขมจะเป็นผักใบเขียว แต่ก็มีเบต้าแคโรทีนสูง โดยมีสารลูทีนและสารเซอักแซนทิน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอนด์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารทั้งสองนี้มีสรรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากโรคดวงตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 43 ทั้งยังมีผลในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดได้อีกด้วย นอกจากนั้นผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
ผักโขมยังสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ทั้งอาหารแบบไทยๆ อย่างแกงจืด แกงเลียง ผัดน้ำมัน หรือจะเป็นอาหารอิตาเลียนยอดฮิตอย่างผักโขมอบชีส ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดของหลายๆ คนเช่นกัน