xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจฆ่าประชาชน ทำท่องเที่ยวไทยทรุดหนัก-รมว.ท่องเที่ยว ดึงนักเขียนต่างชาติเยือนไทยสร้างภาพกลบข่าวฉาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหตุการณ์ตำรวจฆ่าประชาชน ได้ส่งผลให้การท่องเที่ยวไทยทรุดหนัก
เหตุรัฐบาลทรราชใช้กำลังตำรวจเข่นฆ่าประชาชนจนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บกว่า 400 ราย ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว คาดปีนี้ท่องเที่ยวทางน้ำสูญรายได้ 5 พันล้านบาท ขณะที่ ททท.ระบุ 10 ประเทศออกหนังสือเตือนนักท่องเที่ยวแล้ว ด้านรมว.ท่องเที่ยว สร้างภาพด้วยการเชิญนักข่าว นักเขียน จาก 27 ประเทศทั่วโลกมาเมืองไทย เพื่อให้เห็นว่าคนไทยยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

ทัวร์ญี่ปุ่น-เกาหลียกเลิกทันที 500 คน

นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาธิการสมาคมเรือไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ตำรวจสลายม็อบกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ล่าสุดมีรายงานว่า มีการยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทยช่วงวันที่ 15 ต.ค.นี้แล้ว 3 กรุ๊ปทัวร์จาก 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และ เกาหลี รวมประมาณ 500 คน ทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวทันทีไม่น้อยกว่า 6 ล้านบาท เพราะจากสถิติของกรุงเทพมหานคร ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีวันพักเฉลี่ยใน กทม.ประมาณ 3 วัน รวมค่าใช้จ่ายต่อคนอย่างต่ำที่ 12,000 บาท

“ยังไม่ทราบว่านับจากวันนี้ไป จะมีการยกเลิกการเดินทางมาอีกจำนวนมากหรือไม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองของไทยจะรุนแรง ยืดเยื้อหรือบานปลายไปมากแค่ไหน เพราะภาพความรุนแรงจากการสลายม็อบ ที่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ได้ถูกเผยแพร่ไปในต่างประเทศหมดแล้ว โดยสำนักข่าวต่างประเทศ จึงต้องการให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางยุติปัญหาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประเทศชาติเกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ เพราะ สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบกับทุกธุรกิจ ไม่ใช่แค่ภาคท่องเที่ยว”

ท่องเที่ยวทางน้ำสูญ 5 พันล้านบาท

ทางด้านนาวาโทปริญญา รักวาทิน อุปนายกสมาคมเรือไทย กล่าวว่า มูลค่าธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำและเรือภัตตาคารรวมทั้งที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯและ ที่ไม่ได้เป็น สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากถึงปีละ 1 หมื่นล้านบาท โดยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจไม่เติบโตมากนัก แต่ยังรักษาฐานรายได้ไว้ได้ แต่ปีนี้ มองว่า ทั้งปัญหาความรุนแรงทางการเมืองของประเทศไทย ปัญหาเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันแพง จะกระทบให้อุตสาหกรรมนี้มีรายได้ถดถอยไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง หรือหายไปประมาณ 5 พันล้านบาท ในสิ้นปีนี้

“ปกติในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาใช้บริการเรือทัวร์และเรือภัตตาคารทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนไม่น้อยกว่า 5 พันคน แต่ขณะนี้ ลดไปกว่าครึ่ง และ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิม ขณะที่นักท่องเที่ยวคนไทย เฉพาะที่เรือริเวอร์ไซต์ ปัจจุบันเหลือลูกค้าเพียงวันละ 80-120 คน จากปกติจะมีประมาณวันละ 200 คน จึงต้องการให้ภาครัฐหาทางยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะ จะเข้าไฮซีซั่นแล้ว”

อย่างไรก็ตาม มองว่า การชุมนุมโดยสงบ เป็นเรื่องที่ชาวต่างประเทศรับได้ เพราะเป็นปกติของระบอบประชาธิปไตย แต่ ต้องไม่มีภาพการใช้ความรุนแรงอย่างที่เกิดขึ้นนี้ เพราะนักท่องเที่ยวเขาย่อมเกิดความวิตกกังวล และเปลี่ยนการเดินทางแน่นอน

นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปี ธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำและเรือภัตตาคาร อยู่ในขาลงมาโดยตลอด โดยเฉพาะ เดือนกันยายนที่ผ่านมาที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาใช้บริการท่องเที่ยวทางน้ำและเรือภัตตาคาร ลดลงไปไม่น้อยกว่า 60-65%

พัทยานักท่องเที่ยววูบในรอบ 20 ปี

ด้านนายชัชวาล ศุภชยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก กล่าวว่า สื่อต่างชาติแพร่ภาพความรุนแรงของสถานการณ์ในประเทศไทยไปหมดแล้ว ย่อมกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวทั้งประเทศแน่นอน เพราะมีความอ่อนไหวสูง ซึ่งช่วงเดือนกันยายนตั้งแต่มีการปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุม และ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนถึงขณะนี้ ยอดจองล่วงหน้าลดลงไม่น้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน หากรัฐบาลไม่เร่งหาทางออก เป็นหน้าที่ที่รัฐจะต้องรับผิดชอบ กับสิ่งที่เกิดขึ้น และหาทางยุติโดยเร็ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเชื่อว่า การท่องเที่ยวในภาคตะวันออกโดยเฉพาะพัทยาช่วงไฮซีซั่นปีนี้ จะเงียบเหงามากที่สุดในรอบ 20 ปี

10 ประเทศออกหนังสือเตือนนักท่องเที่ยว

ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา มี 10 ประเทศ ได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวฉบับใหม่ล่าสุด โดยระบุความรุนแรงการเตือนในระดับ 3 จาก 5 ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ สวีเดน ไอร์แลนด์และประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ ส่วนประเทศแคนาดา เตือนในระดับสูงสุด

สิ่งที่ ททท.เร่งดำเนินการ คือนำข้อมูลข้อเท็จจริงใส่ในเว็บไซต์ของ ททท. พร้อมกับส่งข้อมูลไปยังสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ เน้นเรื่องของการอธิบายว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติของระบบประชาธิปไตย และ อธิบายว่าไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เพราะพื้นที่ที่มีปัญหา อยู่ห่างจากพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว คนไทย และ ทุกคนที่อยู่เมืองไทยยังใช้ชีวิตได้ปกติ

อย่างไรก็ตาม ททท.อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้ยังตอบเป็นตัวเลขชัดเจนไม่ได้ คงต้องรออีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์

รมว.ท่องเที่ยวสร้างภาพกลบข่าวฉาว

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยอมรับว่า เหตุความรุนแรงจากการสลายการชุมนุม ส่งผลต่อการท่องเที่ยวไทย แต่ยังไม่มีการปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวลง ซึ่งจะหามาตรการดูแลเพื่อไม่ให้สถานการณ์เสียหายมากกว่านี้ ซึ่งจากการเชิญนักข่าว นักเขียน จาก 27 ประเทศทั่วโลกมาชี้แจงข้อเท็จจริงวานนี้ ทุกคนเข้าใจ และเห็นว่าคนไทยยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
กำลังโหลดความคิดเห็น