โดย : หมวยเกี๊ยะ
เมื่อพูดถึง"เนเธอร์แลนด์"หรือที่มักเรียกกันว่า"ฮอลแลนด์" หลายคนคงรู้จักประเทศนี้ในนามดินแดนแห่ง "กังหันลม รองเท้าไม้ และดอกทิวลิป” ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ เป็นเสมือนดังสัญลักษณ์ประจำชาติที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางไปท่องเที่ยวในเนเธอร์แลนด์
โดยเฉพาะเจ้าดอกทิวลิปนี่ สำหรับคนไทยแล้ว ถือเป็นดอกไม้ที่มีคนชื่นชอบกันไม่น้อยเลย เรื่องนี้ดูได้จากงานมหกรรมพืชสวนโลกที่ผ่านมาเมื่อปลายปี 49 ต่อต้นปี 50 ซึ่งแปลงทิวลิปจากแดนกังหันลมนั้นมีคนไปยืนรอต่อคิวถ่ายรูปคู่กันเป็นจำนวนมาก เกือบแทบทุกวัน
แต่การได้ชมทิวลิปในงานพืชสวนโลกยังไงมันก็ไม่สะใจ สมใจ เท่ากับการได้ไปชมดอกทิวลิตัวจริงเสียงจริง จากดินแดนแห่งดอกทิวลิปอย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันกำลังพูดถึงนี้ เป็นหนึ่งในจุดชมดอกทิวลิปอันสวยงามและขึ้นชื่อแห่งดินแดนกังหัน นั่นก็คือ สวน "Keukenhof" (เคอเคนฮอฟ) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อลิซเซ่ (Lisse) ที่อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมไปไม่ไกล
สวนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวนดอกไม้ที่มีความสวยงามที่สุดในเนเธอร์แลนด์ หรือถ้าจะพูดตามความคิดของฉันที่นิยมชมชอบในดอกทิวลิปเป็นอย่างมาก ก็อาจจะกล่าวได้ว่า Keukenhof เป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้
แต่ก่อนที่จะไปรู้จักกับสวนแห่งนี้ เรามาทำความรู้จักกับดอกทิวลิปให้มากกว่านี้กันสักหน่อยดีไหม
หลายคนอาจจะคิดว่าดอกลิวทิปนี้คงจะมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์นี้เป็นแน่ แต่อันที่จริงแล้วทิวลิปนี้ มีต้นกำเนิดมาจากแถบอาร์มาเนีย เปอร์เชีย และคอเคซัส(Armania, Persia, Caucasus) แล้วก็ได้แพร่ไปสู่ชายฝั่งทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และชาวตุรกีก็เป็นชาติแรกที่เห็นคุณค่าของดอกทิวลิปและนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลาย
คำว่า "ทิวลิป" หรือ Tulip นี้มีที่มาจากชื่อที่เรียกผ้าโพกศีรษะของชาวสลาฟ (คือชนชาวรัสเซียน,บัลกาเรียน, โบฮีเมียน และชาวโพล) เพราะด้วยรูปร่างของดอกทิวลิป มีความละม้ายคล้ายกับรูปทรงผ้าโพกศีรษะของชาวตุรกี ซึ่งชาวตุรกีเรียกผ้าโพกศีรษะนี้ว่า turban
แล้วไฉน??? ดอกทิวลิปจากตุรกีจึงเดินทางไปแพร่หลายจนกลายเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ได้
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปประมาณปี ค.ศ. 1600 ดอกทิวลิปถูกนำมาปลูกในแปลงส่วนตัวเล็กๆบริเวณทะเลเหนือ และอัมสเตอร์ดัม ที่เมืองไลเดน (LEIDEN) และฮาร์เลม (HARRLEM) ซึ่งบริเวณนี้ยังคงเรียกว่า "Bollenstreek" หรือบริเวณปลูกดอกทิวลิป
สำหรับการปลูกดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ในตอนแรก ต้องบอกว่าเป็นดอกไม้สำหรับคนรวยเท่านั้น พวกคนรวยชาวดัชท์และพวกผู้ดีชาวยุโรป หรือพวกเศรษฐีใหม่ที่ทำการค้าขายเท่านั้นที่จะมีดอกทิวลิปไว้ปลูกประดับบ้าน การปลูกทิวลิปเป็นที่นิยมในเนเธอร์แลนด์มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่ว่าในปี ค.ศ. 1624 เกิดวิกฤติการณ์ที่เรียกว่า“คลั่งทิวลิป” หรือ Tulipomania กันเลยทีเดียว ทำให้ราคาซื้อขายหน่อทิวลิปหน่อหนึ่งมีราคามหาศาล ว่ากันว่ามีราคาแพงกว่าทองคำเสียอีก
มาถึงวันนี้ แม้ว่าราคาของดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ จะไม่ได้แพงมากมายเหมือนเมื่ออดีต แต่ดอกทิวลิปก็ถือว่าเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่น้อย นอกจากนี้แหล่งปลูกดอกทิวลิปยังกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกจำนวนมากให้เดินทางไปชื่นชมและสัมผัสในความงามของดอกไม้อันขึ้นชื่อชนิดนี้ โดยเฉพาะที่ สวน"Keukenhof" ที่ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งจุดชมดอกทิวลิปดังที่กล่าวมาในข้างต้น
อนึ่งสวน Keukenhof จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเที่ยวชมภายในสวนได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น โดยจะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพียงแค่ 2 เดือน (ประมาณเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจ กับดอกทิวลิปนับล้านๆ ดอกหลากหลายพันธุ์ และหลากหลายสีสัน รวมไปถึงยังมีไม้หัวอื่นๆ อย่าง ลิลลี่ แดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ จัดแสดงให้ชมอยู่ภายในสวนด้วย
เมื่ออดีตสวน Keukenhof แห่งนี้เป็นเพียงสวนครัวของปราสาท Slot Teylingen ของ Jacoba van Beieren ภรรยาของท่านเคานท์ (Keukenhof แปลว่า สวนครัว) แต่ต่อมาในปี 1949 นายกเทศมนตรีของเมืองลิซเซ่ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประเภทไม้หัว ได้เกิดแนวคิดที่จะมีงานแสดงไม้ดอกประจำปีแบบกลางแจ้ง โดยทำการจัดให้เหมือนกับการได้ชมสวนจริงๆ และก็ได้เลือกเคอเคนฮอฟแห่งนี้เป็นที่จัดแสดง โดยมีการส่งเสริมการปลูกไม้หัวพันธุ์ใหม่ๆ ทำการแบ่งพื้นที่ภายในสวนที่ให้กับบริษัทผู้ผลิตไม้หัวเป็นผู้ปลูกและเข้าบำรุงรักษา จนทำให้เกิดทิวลิปพันธุ์ใหม่ๆขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังทำการจัดแสดงไว้เป็นสวนสวยๆ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ท่านๆ ต้องข้ามน้ำ ข้ามฟ้าเดินทางไกล เพื่อมาชมทิวลิปสวยๆ กันถึงที่เนเธอร์แลนด์
เมื่อเดินทางมาถึงสวนKeukenhof ฉันขอบอกก่อนเลยว่า สวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 200 ไร่ ฉะนั้นการมาเดินเที่ยวชมสวนให้สนุก และไม่เหนื่อยมากนัก แนะนำว่าเราควรเปิดแผนที่กางเดินเที่ยวสวนจะดีกว่า และหากอยากจะเที่ยวให้ทั่วทั้งสวน ก็คงจะต้องมากันตั้งแต่สวนเปิดตอนเช้าๆ เพราะจะได้เดินเที่ยวได้อย่างจุใจ
ภายในสวนKeukenhof ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม มีการแบ่งสรรจัดโซนสวนไว้ได้อย่างลงตัว มีต้นไม้น้อยใหญ่ มีลำธาร น้ำพุ สระน้ำ มีงานปะติมากรรมเก๋ๆ ที่จัดแสดงเข้าไว้ภายในสวน และมีทางเดินที่ร่มครึ้มสร้างความรื่นรมย์เป็นอย่างมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เดินชมสวนกันแบบอิ่มตา และอิ่มใจ เพราะภายในสวนไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่แปลงปลูกดอกทิวลิปที่ออกดอกบานชูช่ออวดความสวย ล่อตาล่อใจให้เข้าไปถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลินยิ่งนัก
ฉันว่าภายในสวนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเดินไปโซนไหนของสวน ก็จะได้แต่เห็นดอกทิวลิปสีสันสวยสดใส ไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีส้ม สีชมพู สีขาว รวมไปถึงดอกทิวลิปสองสีผสมกัน ที่ดูแล้วหมือนใครเอาพู่กันไปวาดสีไว้ และใช่ว่าจะมีแต่ดอกทิวลิปให้ได้ดู เพราะว่ายังมีดอกไม้สวยๆ อย่างไม้หัวอื่นๆ อย่างแดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ ลิลลี่ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ปลูกอยู่ร่วมกันกับดอกทิวลิป เรียกว่าพวกชอบถ่ายรูปดอกไม้สวยๆ จะต้องยกกล้องถ่ายรูปมากดชัตเตอร์กันแบบมันมือไปเลย เพราะดอกทิวลิปสวยๆ พวกนี้ ไม่ว่าจะดอกไหน สีอะไร ล้วนแล้วแต่สวยงามจับใจจริงๆ ยามที่ได้ยลดอกจริงๆ ชูช่อบานไสวยิ้มทักทายอยู่
และนอกจากจะมีแปลงปลูกดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ ที่จัดแสดงไว้อย่างสวยงามให้ได้เดินชมกันแล้ว ที่นี่ยังมีอาคารที่จัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกทิวลิป และดอกไม้ชนิดอื่นไว้ให้ได้ศึกษากันด้วย และหากใครกลัวว่าเดินเที่ยวสวนใหญ่ๆ แล้วจะรู้สึกเหนื่อยหรือว่าเมื่อย ไม่ต้องกลัวเลยเพราะภายในสวนจะมีศาลา และเก้าอี้ ให้นั่งพักเหนื่อยเป็นระยะๆ และหากหิวขึ้นมาก็มีร้านอาหาร รวมทั้งคอฟฟี่ช็อป ให้ได้เข้าไปนั่งทานอาหารและนั่งพักให้หายเหนื่อยกัน
ส่วนถ้าใครอยากเห็นการแกะสลักรองเท้าไม้ของจริง ภายในสวนก็มีการสาธิตการแกะสลักรองเท้าไม้ให้ได้ชมด้วย และมีซุ้มขายรองเท้าไม้ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไป และภายในสวนยังมีอาคารที่จัดแสดงขายดอกทิวลิป และไม้หัวให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไปปลูกเองที่บ้านด้วย
อ้อ!! เกือบลืมไป อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนสวนแห่งนี้ก็คือ ต้องไปที่ Keukenhofmolen เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะตั้งอยู่ภายในสวนเพียงตัวเดียว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบนได้ ซึ่งเมื่ออยู่บนกังหันลมนั้นจะได้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบจากมุมสูง เป็นภาพที่สวยงาม ยามเมื่อได้เห็นดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ อีกนานาพันธุ์เบ่งบานแย่งกันอวดความงามในสวนสวยๆ
ฉันว่าถ้าใครเป็นคนรักดอกไม้ และชื่นชอบดอกไม้สวยๆ โดยเฉพาะดอกทิวลิปแล้วล่ะก็ การได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวที่สวน "Keukenhof" แห่งสักครั้ง รับรองว่าความรู้สึกอิ่มเอมใจ และมวลหมู่ดอกไม้สวยๆจะผลิบานอยู่เต็มหัวใจของทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สวน"Keukenhof" (เคอเคนฮอฟ) ตั้งอยู่ที่เมืองลิซเซ่(Lisse) ประเทศเนเอร์แลนด์ อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมประมาณ 29 กม. สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถไฟและรถเช่า ถ้ามาทางรถไฟ ให้ลงที่สถานีไลเดน (Leiden) แล้วต่อรถบัสเข้าไปที่สวน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็จะถึงสวน
เมื่อพูดถึง"เนเธอร์แลนด์"หรือที่มักเรียกกันว่า"ฮอลแลนด์" หลายคนคงรู้จักประเทศนี้ในนามดินแดนแห่ง "กังหันลม รองเท้าไม้ และดอกทิวลิป” ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ เป็นเสมือนดังสัญลักษณ์ประจำชาติที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางไปท่องเที่ยวในเนเธอร์แลนด์
โดยเฉพาะเจ้าดอกทิวลิปนี่ สำหรับคนไทยแล้ว ถือเป็นดอกไม้ที่มีคนชื่นชอบกันไม่น้อยเลย เรื่องนี้ดูได้จากงานมหกรรมพืชสวนโลกที่ผ่านมาเมื่อปลายปี 49 ต่อต้นปี 50 ซึ่งแปลงทิวลิปจากแดนกังหันลมนั้นมีคนไปยืนรอต่อคิวถ่ายรูปคู่กันเป็นจำนวนมาก เกือบแทบทุกวัน
แต่การได้ชมทิวลิปในงานพืชสวนโลกยังไงมันก็ไม่สะใจ สมใจ เท่ากับการได้ไปชมดอกทิวลิตัวจริงเสียงจริง จากดินแดนแห่งดอกทิวลิปอย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันกำลังพูดถึงนี้ เป็นหนึ่งในจุดชมดอกทิวลิปอันสวยงามและขึ้นชื่อแห่งดินแดนกังหัน นั่นก็คือ สวน "Keukenhof" (เคอเคนฮอฟ) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อลิซเซ่ (Lisse) ที่อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมไปไม่ไกล
สวนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวนดอกไม้ที่มีความสวยงามที่สุดในเนเธอร์แลนด์ หรือถ้าจะพูดตามความคิดของฉันที่นิยมชมชอบในดอกทิวลิปเป็นอย่างมาก ก็อาจจะกล่าวได้ว่า Keukenhof เป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้
แต่ก่อนที่จะไปรู้จักกับสวนแห่งนี้ เรามาทำความรู้จักกับดอกทิวลิปให้มากกว่านี้กันสักหน่อยดีไหม
หลายคนอาจจะคิดว่าดอกลิวทิปนี้คงจะมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์นี้เป็นแน่ แต่อันที่จริงแล้วทิวลิปนี้ มีต้นกำเนิดมาจากแถบอาร์มาเนีย เปอร์เชีย และคอเคซัส(Armania, Persia, Caucasus) แล้วก็ได้แพร่ไปสู่ชายฝั่งทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และชาวตุรกีก็เป็นชาติแรกที่เห็นคุณค่าของดอกทิวลิปและนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลาย
คำว่า "ทิวลิป" หรือ Tulip นี้มีที่มาจากชื่อที่เรียกผ้าโพกศีรษะของชาวสลาฟ (คือชนชาวรัสเซียน,บัลกาเรียน, โบฮีเมียน และชาวโพล) เพราะด้วยรูปร่างของดอกทิวลิป มีความละม้ายคล้ายกับรูปทรงผ้าโพกศีรษะของชาวตุรกี ซึ่งชาวตุรกีเรียกผ้าโพกศีรษะนี้ว่า turban
แล้วไฉน??? ดอกทิวลิปจากตุรกีจึงเดินทางไปแพร่หลายจนกลายเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ได้
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปประมาณปี ค.ศ. 1600 ดอกทิวลิปถูกนำมาปลูกในแปลงส่วนตัวเล็กๆบริเวณทะเลเหนือ และอัมสเตอร์ดัม ที่เมืองไลเดน (LEIDEN) และฮาร์เลม (HARRLEM) ซึ่งบริเวณนี้ยังคงเรียกว่า "Bollenstreek" หรือบริเวณปลูกดอกทิวลิป
สำหรับการปลูกดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ในตอนแรก ต้องบอกว่าเป็นดอกไม้สำหรับคนรวยเท่านั้น พวกคนรวยชาวดัชท์และพวกผู้ดีชาวยุโรป หรือพวกเศรษฐีใหม่ที่ทำการค้าขายเท่านั้นที่จะมีดอกทิวลิปไว้ปลูกประดับบ้าน การปลูกทิวลิปเป็นที่นิยมในเนเธอร์แลนด์มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่ว่าในปี ค.ศ. 1624 เกิดวิกฤติการณ์ที่เรียกว่า“คลั่งทิวลิป” หรือ Tulipomania กันเลยทีเดียว ทำให้ราคาซื้อขายหน่อทิวลิปหน่อหนึ่งมีราคามหาศาล ว่ากันว่ามีราคาแพงกว่าทองคำเสียอีก
มาถึงวันนี้ แม้ว่าราคาของดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ จะไม่ได้แพงมากมายเหมือนเมื่ออดีต แต่ดอกทิวลิปก็ถือว่าเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่น้อย นอกจากนี้แหล่งปลูกดอกทิวลิปยังกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกจำนวนมากให้เดินทางไปชื่นชมและสัมผัสในความงามของดอกไม้อันขึ้นชื่อชนิดนี้ โดยเฉพาะที่ สวน"Keukenhof" ที่ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งจุดชมดอกทิวลิปดังที่กล่าวมาในข้างต้น
อนึ่งสวน Keukenhof จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเที่ยวชมภายในสวนได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น โดยจะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพียงแค่ 2 เดือน (ประมาณเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจ กับดอกทิวลิปนับล้านๆ ดอกหลากหลายพันธุ์ และหลากหลายสีสัน รวมไปถึงยังมีไม้หัวอื่นๆ อย่าง ลิลลี่ แดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ จัดแสดงให้ชมอยู่ภายในสวนด้วย
เมื่ออดีตสวน Keukenhof แห่งนี้เป็นเพียงสวนครัวของปราสาท Slot Teylingen ของ Jacoba van Beieren ภรรยาของท่านเคานท์ (Keukenhof แปลว่า สวนครัว) แต่ต่อมาในปี 1949 นายกเทศมนตรีของเมืองลิซเซ่ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประเภทไม้หัว ได้เกิดแนวคิดที่จะมีงานแสดงไม้ดอกประจำปีแบบกลางแจ้ง โดยทำการจัดให้เหมือนกับการได้ชมสวนจริงๆ และก็ได้เลือกเคอเคนฮอฟแห่งนี้เป็นที่จัดแสดง โดยมีการส่งเสริมการปลูกไม้หัวพันธุ์ใหม่ๆ ทำการแบ่งพื้นที่ภายในสวนที่ให้กับบริษัทผู้ผลิตไม้หัวเป็นผู้ปลูกและเข้าบำรุงรักษา จนทำให้เกิดทิวลิปพันธุ์ใหม่ๆขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังทำการจัดแสดงไว้เป็นสวนสวยๆ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ท่านๆ ต้องข้ามน้ำ ข้ามฟ้าเดินทางไกล เพื่อมาชมทิวลิปสวยๆ กันถึงที่เนเธอร์แลนด์
เมื่อเดินทางมาถึงสวนKeukenhof ฉันขอบอกก่อนเลยว่า สวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 200 ไร่ ฉะนั้นการมาเดินเที่ยวชมสวนให้สนุก และไม่เหนื่อยมากนัก แนะนำว่าเราควรเปิดแผนที่กางเดินเที่ยวสวนจะดีกว่า และหากอยากจะเที่ยวให้ทั่วทั้งสวน ก็คงจะต้องมากันตั้งแต่สวนเปิดตอนเช้าๆ เพราะจะได้เดินเที่ยวได้อย่างจุใจ
ภายในสวนKeukenhof ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม มีการแบ่งสรรจัดโซนสวนไว้ได้อย่างลงตัว มีต้นไม้น้อยใหญ่ มีลำธาร น้ำพุ สระน้ำ มีงานปะติมากรรมเก๋ๆ ที่จัดแสดงเข้าไว้ภายในสวน และมีทางเดินที่ร่มครึ้มสร้างความรื่นรมย์เป็นอย่างมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เดินชมสวนกันแบบอิ่มตา และอิ่มใจ เพราะภายในสวนไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่แปลงปลูกดอกทิวลิปที่ออกดอกบานชูช่ออวดความสวย ล่อตาล่อใจให้เข้าไปถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลินยิ่งนัก
ฉันว่าภายในสวนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเดินไปโซนไหนของสวน ก็จะได้แต่เห็นดอกทิวลิปสีสันสวยสดใส ไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีส้ม สีชมพู สีขาว รวมไปถึงดอกทิวลิปสองสีผสมกัน ที่ดูแล้วหมือนใครเอาพู่กันไปวาดสีไว้ และใช่ว่าจะมีแต่ดอกทิวลิปให้ได้ดู เพราะว่ายังมีดอกไม้สวยๆ อย่างไม้หัวอื่นๆ อย่างแดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ ลิลลี่ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ปลูกอยู่ร่วมกันกับดอกทิวลิป เรียกว่าพวกชอบถ่ายรูปดอกไม้สวยๆ จะต้องยกกล้องถ่ายรูปมากดชัตเตอร์กันแบบมันมือไปเลย เพราะดอกทิวลิปสวยๆ พวกนี้ ไม่ว่าจะดอกไหน สีอะไร ล้วนแล้วแต่สวยงามจับใจจริงๆ ยามที่ได้ยลดอกจริงๆ ชูช่อบานไสวยิ้มทักทายอยู่
และนอกจากจะมีแปลงปลูกดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ ที่จัดแสดงไว้อย่างสวยงามให้ได้เดินชมกันแล้ว ที่นี่ยังมีอาคารที่จัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกทิวลิป และดอกไม้ชนิดอื่นไว้ให้ได้ศึกษากันด้วย และหากใครกลัวว่าเดินเที่ยวสวนใหญ่ๆ แล้วจะรู้สึกเหนื่อยหรือว่าเมื่อย ไม่ต้องกลัวเลยเพราะภายในสวนจะมีศาลา และเก้าอี้ ให้นั่งพักเหนื่อยเป็นระยะๆ และหากหิวขึ้นมาก็มีร้านอาหาร รวมทั้งคอฟฟี่ช็อป ให้ได้เข้าไปนั่งทานอาหารและนั่งพักให้หายเหนื่อยกัน
ส่วนถ้าใครอยากเห็นการแกะสลักรองเท้าไม้ของจริง ภายในสวนก็มีการสาธิตการแกะสลักรองเท้าไม้ให้ได้ชมด้วย และมีซุ้มขายรองเท้าไม้ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไป และภายในสวนยังมีอาคารที่จัดแสดงขายดอกทิวลิป และไม้หัวให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไปปลูกเองที่บ้านด้วย
อ้อ!! เกือบลืมไป อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนสวนแห่งนี้ก็คือ ต้องไปที่ Keukenhofmolen เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะตั้งอยู่ภายในสวนเพียงตัวเดียว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบนได้ ซึ่งเมื่ออยู่บนกังหันลมนั้นจะได้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบจากมุมสูง เป็นภาพที่สวยงาม ยามเมื่อได้เห็นดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ อีกนานาพันธุ์เบ่งบานแย่งกันอวดความงามในสวนสวยๆ
ฉันว่าถ้าใครเป็นคนรักดอกไม้ และชื่นชอบดอกไม้สวยๆ โดยเฉพาะดอกทิวลิปแล้วล่ะก็ การได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวที่สวน "Keukenhof" แห่งสักครั้ง รับรองว่าความรู้สึกอิ่มเอมใจ และมวลหมู่ดอกไม้สวยๆจะผลิบานอยู่เต็มหัวใจของทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สวน"Keukenhof" (เคอเคนฮอฟ) ตั้งอยู่ที่เมืองลิซเซ่(Lisse) ประเทศเนเอร์แลนด์ อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมประมาณ 29 กม. สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถไฟและรถเช่า ถ้ามาทางรถไฟ ให้ลงที่สถานีไลเดน (Leiden) แล้วต่อรถบัสเข้าไปที่สวน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็จะถึงสวน