วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ เผลอแป๊ปๆ ก็จะเริ่มเข้าถึงฤดูกาลเที่ยวทะเลอีกแล้ว เพราะหากพูดถึงSummer ก็ต้องไปทะเล เนื่องจากฤดูนี้ทะเลจะสวยที่สุด ทั้งหาดทราย ทั้งน้ำใส หลายคนคงมีทะเลในดวงใจและวางแผนไว้แล้วว่าหยุด Summer นี้ จะไปเหยียบย่างทรายขาว แหวกว่ายน้ำทะเลใสๆที่ใด
สำหรับนักเขียนเรื่องเที่ยวและผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลในระดับกูรู ก็มีทะเลในดวงใจที่พวกเขาประทับใจไม่รู้ลืมเช่นกัน มาดูกันว่า “ทะเล” ที่ใดที่ประทับจิตพิชิตใจพวกเขาเหล่านี้
มาเริ่มกันที่ “แฟนพันธุ์แท้ทะเลไทย” อย่าง ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เล่าว่า “ทะเลในดวงใจของผมคือ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์” จังหวัดพังงา ผมชอบมานานแล้วและไปมาตลอดทุกปี หมู่เกาะสุรินทร์ได้ชื่อว่ามีแนวปะการังน้ำตื้นที่ดีที่สุดในประเทศไทย และบนเกาะก็ยังมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ หาดทรายสวย มีชาวเลเผ่ามอแกน เป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมปนกันอยู่ แล้วก็มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยจริงๆ แม้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจะเริ่มไปเยอะขึ้นแต่ก็ยังคงสงบอยู่”
แฟนพันธุ์แท้ทะเลไทย เล่าอีกว่า “อีกที่หนึ่งที่ชอบคือ “หมู่เกาะอาดังราวี” ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล เพราะมันอยู่ไกลเมื่อไปถึงมันก็รู้สึกดีแล้ว ผมก็ไปมาหลายครั้งเช่นกัน แม้น้ำทะเลจะไม่ใสเหมือนหมู่เกาะสุรินทร์ แต่น้ำจะสีเขียวเหมือนมรกตเป็นอีกแบบหนึ่ง ทิวทัศน์สวยงาม ส่วนหาดทรายก็สวยและมีเยอะมาก เกาะก็เยอะหลายสิบเกาะ
นอกจากนี้ที่ “เกาะหินซ้อน” ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด ผมไปหลายครั้งแล้วก็ไปชมพระอาทิตย์ตกทุกที ที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนบกก็คือที่ ผาหล่มสัก ภูกระดึง ถ้าในทะเลก็ต้องเป็นหมู่เกาะอาดังราวี ที่เกาะหินซ้อน สวยที่สุดในประเทศไทย ผมบอกไม่ถูกว่าสวยยังไง ต้องไปชมเอง”
ในขณะที่ นัท สุมนเตมีย์ ช่างภาพใต้น้ำชื่อดัง เล่าว่า “ถ้าพูดถึงการดำน้ำผมชอบ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” จังหวัดพังงา เพราะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้าน คือผมไปที่สิมิลันตั้งแต่เด็กๆ ครั้งแรกอายุประมาณ 12-13 ขวบ แล้วไม่เคยเห็นน้ำทะเลที่ไหนสีฟ้าใสเท่านี้มาก่อน เลยชอบตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันนี้ก็ยังคงสวยงามอยู่ แต่ปัญหาของสิมิลันคือมีคนเข้ามาใช้พื้นที่เกิดกว่าขีดความสามารถของพื้นที่ที่จะรองรับได้”
ช่างภาพใต้น้ำ กล่าวต่อว่า ทางด้านใต้น้ำ สิมิลันอาจจะเป็นที่เดียวที่เรียกว่าหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในเขตทะเลลึก มีความใสของน้ำค่อนข้างจะดีกว่าที่อื่น สิมิลันจะเด่นในเรื่องปะการังอ่อน สัตว์ขนาดใหญ่ก็มีโผล่ให้เห็นมากกว่าที่อื่น เพราะตั้งอยู่ในเขตน้ำลึก หรือเขตมหาสมุทร ถือได้ว่าทางใต้น้ำยังคงมีทรัพยากรที่สมบูรณ์
“ปีหนึ่งได้ไปอย่างน้อยประมาณ เกือบเดือน คือไปๆกลับๆ ไปสิมิลันผมจะขึ้นบกน้อยมาก เวลาไปก็จะกินอยู่บนเรือเลย โดยส่วนตัวผมไม่ชอบคนเยอะถ้าขึ้นไปบนเกาะแล้วจะเจอคนเยอะ แล้วในที่ที่เราเคยเห็นตั้งแต่เด็กว่ามีผม คุณพ่อและเพื่อนคุณพ่ออยู่กันแค่ 3-4 คนทั้งเกาะ แต่เดี่ยวนี้เวลาขึ้นเกาะก็จะเจอทัวร์ที่มีเป็นร้อยคน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไร”
นอกจากสถานที่สำหรับดำน้ำในดวงใจของช่างภาพใต้น้ำชื่อดังแล้ว เขายังชอบ “เกาะหลีเป๊ะ” ด้วย “นอกจากทะเลที่ดำน้ำผมก็ชอบเกาะหลีเป๊ะ ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล แม้ในเรื่องของการดำน้ำเกาะหลีเป๊ะจะยังไม่ค่อยเท่าไร แต่มันมีองค์ประกอบที่ลงตัว มีหาดสวย คนค่อนข้างเยอะเพราะเริ่มพัฒนาแล้ว แต่สิ่งที่หลีเป๊ะต่างจากที่อื่น คือคนที่หลีเป๊ะน่ารัก คนยังมีพื้นฐานของความน่ารักเป็นกันเอง ทำธุรกิจซื่อตรงไม่หลอกลวง”
ในทำนองเดียวกับ วินิจ รังผึ้ง บรรณาธิการอนุสารอสท ผู้ซึ่งชื่นชอบ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” เช่นกัน บก.อสทเล่าว่า “ทะเลในดวงใจของผม ผมชอบหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา เพราะมันเป็นทะเลที่มีความสวยงามคิดว่าน่าจะสุดยอดของเมืองไทยแล้ว ทั้งในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสิมิลันถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติก่อนที่คนจะเข้าไปบุกรุกธรรมชาติจึงยังคงสมบูรณ์เกือบ 100 % และความที่เป็นหมู่เกาะที่มีทำเลที่ตั้งที่อยู่ในเขตน่านน้ำลึกของทะเลเปิดเพราะฉะนั้นจะมีความใสของน้ำทะเล และยิ่งน้ำทะเลใสก็ทำให้เห็นสีสันของน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้าครามดูสดใส ผมคิดว่าทะเลที่ไหนของบ้านเราก็สู้สิมิลันไม่ได้”
ถ้าพูดถึงหาด หาดที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้เป็นหาดทรายบริเวณเกาะสี่ คือบริเวณที่ทำการอุทยานฯ เกาะสี่จะมีหาดทรายทั้งทางด้านหน้าของเกาะซึ่งสวยงามแต่จะเป็นจุดที่เรือรับส่งผู้โดยสารมากกว่า และทางด้านหลังเกาะชื่อว่า “หาดเล็ก” ก็ยังคงสวยและเงียบสงบ ลักษณะของหาดมีความโค้งสวยงาม
และยังมีจุด snorkel ดูอะไรได้ มีฝูงปลา มีปะการัง ใต้น้ำยังอุดมสมบูรณ์ สีสันสวยงาม โดยเฉพาะพวกปะการังอ่อนสีแดงจัด กัลปังหาต้นใหญ่ๆ ปลาในแนวปะการังจะมีหลากสีมาก เช่นปลาผีเสื้อทั้งหลายสีต่างๆ ปลานกแก้วสีเขียว สีเขียวคาดชมพู ปลาสินสมุทร พวกนี้เราจะเห็นได้โดยไม่ต้องลงไปลึก
จุดดำน้ำตื้น นอกจากที่หาดเล็กแล้วก็มีที่เกาะแปดที่เรียกว่าอ่าวเกือก เป็นอ่าวที่มีหินรูปเรือใบ ซึ่งจะมีหาดทรายที่สวยงามอีกหาดหนึ่ง รอบๆในอ่าวสามารถดำดูปะการังน้ำตื้น และฝูงปลาหลากหลายได้ สำหรับตัวผมไปทุกปี ทั้งไปทำงานด้วยและถือโอกาสไปเที่ยวด้วย ไปทุกครั้งก็ยังไม่เบื่อ ทรายขาวเหมือนแป้งละเอียดนุ่มขนาดที่เราพร้อมที่จะนั่งหรือนอนดูดาวได้โดยที่ไม่ต้องหาอะไรมาปูรอง
ในขณะเดียวกัน คมฉาน ตะวันฉาย นักเขียนสารคดีท่องเที่ยว ก็เล่าว่า "สำหรับผมแยกเป็นสองส่วน สำหรับการดำน้ำผมยกให้ “หมู่เกาะสิมิลัน” เพราะน้ำทะเลใสมาก ไม่เคยดำน้ำที่ไหนประทับใจเท่าที่หมู่เกาะสิมิลัน มันเป็นโลกใต้ทะเลที่ผมว่ามันมีหลายทำเลให้ได้ดำน้ำ เช่น มีถ้ำ และยังมีเยอะแยะที่รวมไว้ที่สิมิลันที่เดียว แต่องค์ประกอบใต้น้ำต้องดีด้วย เช่น แดดดี น้ำกำลังใส ไม่ค่อยมีกระแส คือมันจะเป็นสวรรค์มากๆของการดำน้ำ แต่ถ้าบนบกผมว่าสิมิลันไม่ค่อยสวย"
คมฉาน เล่าต่อว่า “ใต้น้ำเราเจอเหตุการณ์ที่ประทับใจ คือเช่น เราดำน้ำออกมากจากถ้ำมีแสงส่องเข้ามา แล้วผมก็เจอกระเบนราหูตัวเบ่อเริ่มเลย มันโฉบมาใกล้ๆเลย ไม่ให้ประทับใจได้อย่างไรเราเจอแบบนี้เราก็ประทับใจ แล้วน้ำก็นิ่งเหมือนตู้ปลา น้ำใสแจ่ว ทัศนะวิสัยมองเห็นไกลเป็นสิบเมตร และองค์ประกอบใต้น้ำไม่ว่าจะเป็นปะการังอ่อน กัลปังหา และสัตว์แปลกๆทั้งหลายที่สิมิลันค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่ไปสิมิลันองค์ประกอบมันจะครบแบบนี้ คือบางครั้งไปน้ำขุ่นเป็นตะกอนไม่ใส ดำน้ำก็ลำบาก บางช่วงดำถ้ำลำบากเพราะกระแสน้ำแรง เราก็ลอดถ้ำ ลอดหินใต้น้ำได้ลำบาก”
แต่ถ้าเป็นบรรดาชายหาด หรือพวกทำเลที่ตั้งสวยๆ ผมชอบ “หาดท้ายเหมือง” ของอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เพราะมันเป็นหาดทรายที่กว้างมากมองไปได้สุดตาเลย แต่น้ำทะเลที่นี่ไม่เหมาะในการเล่นน้ำทะเลเพราะมันลึก เนื่องจากเคยเป็นที่ทำเหมืองมาก่อน เหตุที่ชอบเพราะหาดที่นี่สงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไป เวลาไปผมจะมีความสุขกับการนั่งดูดาว เพราะมันเงียบมาก มีความเป็นธรรมชาติเหลืออยู่เยอะมาก
นอกจากจะมีทะเลที่ชื่นชอบชื่นใจกันแล้ว ยังฝากคำแนะนำในการเที่ยวทะเลที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ว่าหากจะไปเที่ยวทะเลอยากให้ตรวจเช็คช่วงเวลาให้เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรจะตรวจสอบสภาพดินฟ้าอากาศดูก่อน เช่นเข้าไปดูภาพถ่ายดาวเทียมตามอินเตอร์เน็ต ทะเลจะมีสีสันสดใสได้ต้องฟ้าใสด้วย
และควรจองเรือ จองที่พักไว้ล่วงหน้า ไปเที่ยวโดยพยายามหลีกเลี่ยงช่วงที่มีผู้คนเยอะ หรือช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว อยากให้กระจายกระจายกันไป เราจะได้ทะเลที่มีธรรมชาติสวยงามกว่า ผู้คนไม่มากไม่ต้องแย่งกันกินกันใช้ และอุทยานแห่งชาติ หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆน่าจะมีแผนการจัดการการท่องเที่ยวที่ดีกว่านี้ด้วย เช่น สมมุติว่าวางแผนการจัดการท่องเที่ยวว่าสิมิลันสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 500 คนต่อวัน
ที่สำคัญคือการเที่ยวทะเลต้องไม่ประมาท ถ้าเรือมีชูชีพก็สวม ใครจะว่าเราปอดแหกก็ไม่ต้องสนใจเพราะคือชีวิตเรา อีกอย่างคือ การไปเที่ยวทะเลนั้นสัมภาระไม่ควรเยอะรุงรัง เสือผ้าก็เอาที่เบาๆสบายๆ นำเฉพาะที่จำเป็น เพราะการขนย้ายลงเรือจากเรือขึ้นเกาะ การเอาสัมภาระไปเยอะอาจจะตกน้ำตกท่าและต้องพยายามแพ็คให้กระชับ และฝากให้ช่วยกันดูแลรักษาท้องทะเลบ้านเรา โดยเฉพาะเรื่องขยะ ไปเกาะไกลๆถ้าเอาขยะไปน้อยที่สุดก็ดี เพราะเขาก็ต้องขนขยะกลับมายังฝั่งอีก ถ้าเราเอาไปเท่าไรก็พยายามขนกลับมาเองจะได้ไม่เป็นภาระของธรรมชาติของคนที่ดูแล
ในเรื่องการซื้อของที่ระลึก ควรหลีกเลี่ยงการซื้อเศษปะการัง ม้าน้ำ พวงกุญแจม้าน้ำ หรืออะไรที่มาจากทะเล ถ้าเป็นเศษหอยทับทิมที่ชาวบ้านมาทำขายก็ซื้อได้ แต่ถ้าเป็นพวกปลาปักเป้าก็อยากให้หลีกเลี่ยง
ส่วนเวลาลงทะเลก็เตรียมตัวให้พร้อมอย่ากินเหล้า อย่านอนดึก เพราะต้องตื่นเช้าร่างกายจะไม่แข็งแรง และถ้าดำน้ำตื้นก็ควรซ้อมดำน้ำที่ชายฝั่งก่อน เอาหน้ากากมาลองใส่ลองดำดู และต้องตระหนักอยู่เสมอว่ายิ่งเข้าตื้นก็ยิ่งเจ็บตัว และอย่ายืนบนปะการัง อย่าเหยียบปะการัง อย่าไปว่ายไล่จับปลา มันจะมาหาเราเอง
สำหรับคนที่ดำน้ำลึก ถ้าพวกเก๋าๆ พวกนี้จะทรงตัวในน้ำเก่ง จะรู้ระยะช่วงขาของตนเอง แต่พวกที่มือใหม่เรียนดำน้ำเสร็จก็อยากจะดำน้ำสะสมไดฟ์ แต่ยังทรงตัวไม่เก่งพอ บางครั้งลืมดูช่วงปลายขาว่าไปเขี่ยกัลปังหาพังกระจุย ก็อย่าเข้าไปดูปะการังใกล้เกินไป ให้ห่างสักหน่อยก่อน
และอีกอย่าง คนที่เที่ยวทะเลแล้วมักจะเจอพิษจากทะเล ให้เตรียมน้ำส้มสายชูไปด้วย เมื่อเราโดนอะไรก็แล้วแต่ที่มีพิษจากโปรตีนให้เอาน้ำส้มสายชูลูบตัวได้เลย ทั้งพิษแมงกะพรุน พิษหอยเม่น เป็นต้น
นั่นคือเสียงจากนักเขียนเรื่องเที่ยวและกูรูทะเลบ้านเรา นี่ก็ใกล้เข้าสู่ฤดูกาลเที่ยวทะเลแล้ว หวังว่าใครที่จะไปเที่ยวทะเลก็ควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้า และก็อย่าลืมว่า ให้ช่วยกันรักษาท้องทะเลและทรัพยากรธรรมชาติของเรากันด้วยเพื่อให้คงอยู่ยั่งยืนยงตลอดไป