xs
xsm
sm
md
lg

ดื่มด่ำบรรยากาศโรแมนติกในแดนผู้ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้วันแห่งความรัก 14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ จะไม่ใช่วัฒนธรรมแบบไทยๆ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าคนไทยจะให้ความสนใจกับวันนี้กันไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคู่รักหลายคู่ต่างก็เลือกวันนี้เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ ส่วนอีกหลายคู่เลือกวันนี้เป็นวันจดทะเบียนสมรส(โดยเฉพาะที่เขตบางรัก)

ในขณะที่อีกหลายคู่ทั้งที่แต่งงานกันมานานแล้ว หรือที่เพิ่งแต่งงาน หรือกำลังจีบกัน ต่างก็ถือช่วงวาเลนไทน์หรือช่วงเวลาที่เหมาะสม เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อเติมเต็มความรักให้แนบแน่นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่าตามเมืองโรแมนติกประเทศต่างต่างๆย่อมถูกหมายปองเป็นพิเศษ สำหรับที่อังกฤษแดนผู้ดี ก็เป็นหนึ่งในดินแดนที่มีสถานที่โรแมนติกอยู่มากมาย โดยองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร(VisitBritain)ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ของทุกๆปี อังกฤษจะมีประเพณีที่จัดสืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 ซึ่งเปิดโอกาสให้หญิงสาวที่ต้องเป็นฝ่ายรอ สามารถ"เอ่ยปาก" ขอชายคนรักแต่งงานได้ นับเป็นประเพณีที่หญิงสาวๆหลายๆคนใจจดใจจ่อรอให้วันนี้มาถึง

นอกจากประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว อังกฤษยังเป็นหนึ่งในดินแดนโรแมนติกที่คู่รักจำนวนมากจากทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาเยือน ซึ่งในแต่ละภาคล้วนมีความงดงามและเอกลักษณ์อันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นทางตอนเหนือของประเทศอันอุดมไปด้วยป่าไม้ที่มีลักษณะเป็นตะปุ่มตะป่ำบริเวณ ยอร์คเชอร์ ที่ปรากฏเป็นฉากหลังโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มในภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง "วุธเธอร์ริ่ง ไฮต์" (Wuthering Heights) นิยายอมตะแห่งรักและแรงปรารถนาของเอมิลี่ บรอนเต้

ในขณะที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือก็มีเลคดริสตรีค (Lake District) ที่ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดบทกวีอันเลื่องชื่อจำนวนมากโดยมีทิวเขาที่ซับซ้อน และทะเลสาบแห่งวินเดอร์เมียร์ (Windermere), โคนิสตัน (Coniston), อัลส์วอเทอร์ (Ullswater) และเดอร์เวนท์วอเทอร์ (Derwentwater) ที่สร้างความประทับให้แก่ผู้มาเยือนเหมาะสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบการเดินเล่น ขับรถชมวิว ล่องเรือใบ เล่นกีฬาทางน้ำ หรือล่องเรือจักรไอน้ำชมทิวทัศน์

ซึ่งหากคู่รักหรือผู้ที่สนใจจะร่วมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศโรแมนติกในเทศกาลแห่งความรัก(หรือทุกช่วงเวลา) ทาง VisitBritain ได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในบรรยากาศโรแมนติกบางส่วนของอังกฤษมานำเสนอ

เริ่มจากเมืองที่ว่ากันว่าโรแมนติกที่สุดในอังกฤษนั่นก็คือเมืองบาธ (Bath) ที่ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเมืองโรแมนติกในอังกฤษ เมืองบาธได้รับการกล่าวขวัญถึงในภาพยนตร์และนิยายหลายเรื่อง อาทิ Pride and Prejudice ของเจน ออสติน (Jane Austin) จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คู่รักจากทั่วทุกแห่งในอังกฤษนิยมมาจัดงานแต่งงานกันที่บา

สำหรับคู่รักหรือผู้ที่ได้มีโอกาสไปเยือนเมืองบาธ สิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือที่การเที่ยวชม "พิพิธภัณฑ์โรมันบาธ" มรดกโลกที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันสง่างาม พร้อมบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ที่ยังคงมีน้ำร้อนจากธรรมชาติไหลรินอยู่

และหากใครอยากสร้างบรรยากาศสุดประทับใจแบบไม่มีวันลืม ก็อาจลองพาคนรักเหิรเวหาเปิดแชมเปญฉลองอนาคตของชีวิตคู่สุดสวีทกันบน คลาวด์ ไนน์ (Cloud Nine) บอลลูนลมร้อนที่จะนำพาล่องลอยชมทัศนียภาพอันงดงามกันแบบ 360 องศา ที่นับเป็นอีกหนึ่งความโรในติกอันน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับบอลลูนลูกนี้จะพานักท่องเที่ยวชมความงามของเมืองบาธและทิวทัศน์อันงดงามที่อยู่รายรอบ ไม่ว่าจะเป็น วิคทอเรีย พาร์ค (Victoria Park) หมู่อาคารสีน้ำผึ้งอันเป็นเอกลักษณ์ของ รอยัลครีเซนต์เซอร์คัส (Royal Crescent Circus) และชุมชนย่านลาค็อค พร้อมชมความงามของสถาปัตยกรรมในสมัยศตวรรษที่ 18

นอกจากบรรยายกาศโรแมนติกบนฟากฟ้าบนบอลลูนแล้ว ที่ลอนดอนเมืองหลวงยังมี"ลอนดอนอาย" (London Eye)ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพในมุมสูงของกรุงลอนดอนจากชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงลอนดอนไปแล้ว

ลอนดอนอายหรือชื่อเต็ม British Airways London Eye (เนื่องจากสายการบิน British Airways เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณการสร้าง) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ สร้างขึ้นเพื่อต้อนรับปี ค.ศ.2000 มีลักษณะคล้ายชิงช้าสวรรค์บ้านเรา แต่เป็นแคปซูลลูกใหญ่จุคนได้ประมาณ 15 คน เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในแคปซูล มันก็จะค่อยๆเคลื่อนที่ขึ้นไปช้าๆเป็นวงกลมไปยังจุดสูงสุด(ประมาณ 135 เมตร)แล้วกลับมายังที่เดิมเป็นวงรอบประมาณ 30 นาที

ในแคปซูลสามารถชมทิวทัศน์เมืองลอนดอนมุมสูงได้รอบทิศ โดยมีจุดชวนชมเด่นๆ อาทิ หอนาฬิกาบิกเบน แม่น้ำเทมส์ ที่ทำการรัฐสภา สะพานเวสมินสเตอร์ สะพานวอเตอร์ลู สถานีรถไฟวอเตอร์ลู ซึ่งนี่คือเสน่ห์ของลอนดอนอายที่กลายเป็นต้นแบบของชิงช้าสวรรค์ยักษ์ทั่วโลกในทุกวันนี้

กลับมายังคู่รักที่ใฝ่ฝันอยากมีวันพักผ่อนสุดแสนโรแมนติก ซึ่งทาง VisitBritain แนะนำว่าให้ไปพักผ่อนที่ บรอนเต้ ยอร์คเชอร์เดลส์ (Bronte’s Yorkshire Dales) โดยลองเช่ารถชั้นเลิศอย่าง จากัวร์ อี ไทป์, ออสติน มาร์ติน หรือรถโบราณจาก ฮิสทอริค แอนด์ คลาสสิค คาร์ไฮเรอร์สกิลด์ (Historic & Classic Car Hirers Guild) แล้วพาคู่รักไปปิคนิคจิบแชมเปญที่ คาสเซิลโฮเวิร์ด (Castle Howard) เพื่อชมสถาปัตกรรมอันงดงามและหมู่มวลแมกไม้นานาพันธุ์ หรืออาจจะไปเดินเล่นในสวนป่า สวนกุหลาบ สวนดอกไม้ริมระเบียง หรือริมน้ำชมความสวยงามของอาคารและสิ่งปลูกสร้างในบริเวณรายรอบ พร้อมชมความงามของซุ้มประตูแบบอิตาเลียนซึ่งมีเถาฮอร์นบีมและกำแพงอิฐแดงอันเป็นฉากหลัง ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สวยงามนานาชนิดที่มีกลิ่นหอมรัญจวนใจ

ส่วนคู่รักคู่ไหนหรือผู้ที่อยากมีโลกส่วนตัวกลางน้ำเหมือนคู่เซเลบริตี้อย่าง คาลิสตา ฟล็อคฮาร์ต และแฮริสัน ฟอร์ด ก็ลองชวนกันไปล่องลำน้ำในใจกลางเมืองอังกฤษด้วยเรือลำน้อย ซบไหล่กันบนเรือล่องแม่น้ำชมความงามของชนบท

หรือไม่ก็อาจควงแขนกันไปล่องเรือไปเบอร์มิงแฮม ซึ่งมีลำน้ำที่รายล้อมไปด้วยภัตตาคารและคาเฟ่ริมน้ำชั้นยอด อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับคู่รักก็คือการไปชมความงามของ ค็อตส์โวลด์ฮิลส์ (Cotswold Hill) อัญมณีที่โรแมนติกแห่งอังกฤษ หมู่บ้านทรงเสน่ห์ที่สร้างด้วยหินสีน้ำผึ้ง และร้านค้าของเก่าและร้านชาจำนวนมาก อิงแอบอยู่ท่ามกลางทิวเขาเขียวและแม่น้ำที่ใสราวกับคริสตัล อยู่ห่างจากลอนดอนมาทางทิศตะวันออกเพียง 70 ไมล์ ซึ่งนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งเสน่ห์ของสถานที่โรแมนติกในแดนผู้ดีที่หากใครสนใจก็สามารถเดินทางไปเที่ยวชมกันได้ โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.visitbritain.com/th
กำลังโหลดความคิดเห็น