เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ พสกนิกรชาวไทย ข้าราชการ และเอกชน ทุกภาคส่วน ต่างร่วมแรงร่วมใจกันกันงานเฉลิมฉลองเนื่องในปีมหามงคลกันทั่วทั้งประเทศอย่างสุดกำลังเต็มความสามารถ
สำหรับที่กรุงเทพมหานคร ปีนี้ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในวันพ่อกันเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในงานใหญ่ที่น่าชมอีกงานหนึ่งก็คือ “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” ซึ่งทางกรุงเทพมหานครแม่งานหลักได้จัดงานแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักด้วยกันคือ การประดับไฟเฉลิมพระเกียรติและการจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติอันสวยงามตระการตา
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ พสกนิกรชาวไทย ข้าราชการ และเอกชน ทุกภาคส่วน ต่างร่วมแรงร่วมใจกันกันงานเฉลิมฉลองเนื่องในปีมหามงคลกันทั่วทั้งประเทศอย่างสุดกำลังเต็มความสามารถ
สำหรับที่กรุงเทพมหานคร ปีนี้ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในวันพ่อกันเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในงานใหญ่ที่น่าชมอีกงานหนึ่งก็คือ “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” ซึ่งทางกรุงเทพมหานครแม่งานหลักได้จัดงานแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักด้วยกันคือ การประดับไฟเฉลิมพระเกียรติและการจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติอันสวยงามตระการตา
ซุ้มนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ทรงเป็นแรงบันดาลใจ”
ในส่วนของซุ้มเฉลิมพระเกียรติปีนี้มีไฮไลท์อยู่ที่ ซุ้มนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่จัดขึ้นภายใต้กรอบแนวคิด“ทรงเป็นแรงบันดาลใจ” ตั้งแต่บริเวณท้องสนามหลวงไปตามถนนราชดำเนินกลางจนถึงลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โดยจะเปิดให้ผู้สนใจได้เข้าชมและร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1-9 ธ.ค. 50 ในเวลาประมาณ 18.00-21.00 น.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานเปิดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เปิดเผยว่า กทม. จัดซุ้มนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "ทรงเป็นแรงบันดาลใจ" ขึ้น โดยนำเสนอพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในทุก ๆ ช่วง 10 พระชนมพรรษา ที่ประชาชนควรนำมาเป็นเข็มทิศแนวทางในการใช้ชีวิตให้เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
สำหรับซุ้มนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ แบ่งเป็น 9 ซุ้มด้วยกัน ประกอบด้วย
ซุ้มที่ 1 เป็นซุ้มหลัก บริเวณท้องสนามหลวง นำเสนอนิทรรศการพระราชประวัติในภาพรวม และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวกรุงเทพฯ และจัดฉายสารคดีเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง "หัวใจไทย ใต้ร่มพระบารมี" (จัดเป็นรอบ รอบละ 20 นาที ไม่เกิน 60 คน)
ซุ้มที่ 2 "ยุวกษัตริย์พลังแผ่นดิน" บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ นำเสนอพระราชจริยวัตรอันเรียบง่ายและงดงามเมื่อทรงพระเยาว์ จากการอภิบาลของสมเด็จพระบรมราชชนนี
ซุ้มที่ 3 "ปวงประชามหาปีติ" บริเวณธนาคารนครหลวงไทย นำเสนอการที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ยังความปลาบปลื้มปิติแก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น และยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการประพฤติตนและการดำเนินชีวิต
ซุ้มที่ 4 "องค์อัครศิลปิน" หน้าธนาคารออมสิน นำเสนอพระราชจริยวัตรและพระปรีชาในด้านต่างๆ ที่เป็นเครื่องจรรโลงจิตใจ เช่น ศิลปะ ดนตรี กีฬา อันเป็นที่ชื่นชอบยินดีของปวงชนชาวไทย
ซุ้มที่ 5 ชุด “พระราชไมตรีเผยแผ่ทั่วหล้า” บริเวณหน้าร้านมาเรีย เรสเตอรองท์ นำเสนอการเสด็จพระราชดำเนินเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 60
ซุ้มที่ 6 ชุด “พระวิริยะเพื่อปวงชนชาวไทย” หน้าบริษัทธนบุรีประกอบยนต์ จำกัด นำเสนอการเสด็จเยี่ยมพสกนิกรทั่วไทย อันเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการทดลอง และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของราษฎร
ซุ้มที่ 7 ชุด “พระบารมีปกแผ่ไพศาล” บริเวณธนาคารทหารไทย นำเสนอการขยายโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ
ซุ้มที่ 8 ชุด “ปวงประชาแซ่ซ้องพระมหากรุณาธิคุณ” หน้าบริษัท เคมีอุปกรณ์ นำเสนอโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สะท้อนถึงพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย และยังความผาสุกร่มเย็นแก่แผ่นดินไทย
ซุ้มที่ 9 ชุด "ทั่วโลกแซ่ซ้องสรรเสริญ" บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ นำเสนอการครองสิริราชสมบัติอันยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์ทุกประเทศในปัจจุบัน ที่ทั่วโลกต่างยกย่องสรรเสริญในพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทย และต่างถวายพระเกียรติยศในรูปแบบต่างๆ
ทั้งนี้ทางกรุงเทพมหานครยังได้จัดเตรียมของที่ระลึกสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมงาน เป็น Passport จำนวน 89,980 ชุด ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ 9 แบบ แบบละ 99,980 ภาพ และสมุดภาพที่ระลึก จำนวน 99,980 ชุด โดยประชาชนที่สนใจสามารถมีส่วนร่วมเพื่อรับของที่ระลึกได้ตามขั้นตอนดังนี้
1.ลงทะเบียนรับ Passport ที่มีไว้บริการประชาชนในบริเวณซุ้มที่ 1-9 ซึ่งใน Passport จะเป็นคู่มือชมนิทรรศการในซุ้มต่างๆ และมีจุดประทับตราทั้งหมด 9 จุด
2.ให้นำ Passport ไปประทับตราตามซุ้มต่างๆ เพื่อรับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ 1 ซุ้ม ต่อ 1 ภาพ และ 1 แบบ
3.เมื่อชมนิทรรศการและ ประทับตรา Passport ครบ 9 ซุ้ม(ไม่จำเป็นต้องประทับตราภายในวันเดียว) สามารถนำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับสมุดภาพที่ระลึก ในซุ้มที่ 1และ 9 เพื่อนำไปติดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ทั้ง 9 ภาพ เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต อีกทั้งยังสามารถลงนามถวายพระพรได้ในซุ้มที่ 1 และซุ้มที่ 9 อีกด้วย
ชมความงาม 38 ซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ
นอกจากซุ้มนิทรรศการทั้ง 9 แล้ว ทางกทม.โดยสำนักโยธาดำเนินการยังได้จัด ซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ "ทรงเป็นแรงบันดาลใจ" ไว้ตามจุดต่างๆ แบ่งเป็น 13 โซน จำนวน 38 ซุ้ม ตั้งแต่บริเวณท้องสนามหลวงไล่ไปตามถนนราชดำเนินใน-กลาง-นอก จนถึงบริเวณสนามเสือป่า และรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยมีซุ้มที่น่าสนใจ อาทิ
ช้างคู่พระบารมี (ซุ้ม 1) ถนนราชดำเนินใน บริเวณแยกศาลหลักเมืองกับวัดพระแก้วนำเสนอเกี่ยวกับ ช้างเผือกคู่พระบารมี มีลักษณะเป็นรูปช้าง 3 ช้าง ยืนแท่นเชิญตราสัญลักษณ์พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
เครื่องราชสักการะ (ซุ้ม 2-4)บริเวณถนนราชดำเนิน นำเสนอเครื่องราชสักการะ และ พานพุ่มทองที่ใช้ในงานพระราชพิธี
พระราชประวัติ (ซุ้ม10-14) ถนนราชดำเนินนอก นำเสนอพระราชประวัติขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพ ขึ้นครองราชย์ ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษก ทรงจำพรรษา เป็นต้น
โครงการพระราชดำริ (ซุ้ม 19-23) ถนนราชดำเนินนอก นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริต่างๆ อาทิ ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีพืชมงคลเพื่อบำรุงขวัญเกษตรกร การพัฒนาพันธุ์ข้าวในสวนจิตรลดา โครงการแก้มลิง เป็นต้น
พระมหาชนก (ซุ้ม28) ถนนราชดำเนินนอก นำเสนอเรื่องราว พระมหาชนก หนึ่งในทศชาติชาดกของพระพุทธเจ้า ที่แสดงถึงความเพียรพยายาม และความมุ่งมั่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยึดถือปฏิบัติ และเป็นแรงบันดาลใจให้พระราชนิพนธ์หนังสือพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยได้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตน
พระราชกรณียกิจเพื่อปวงชน (ซุ้ม 30-34) ถนนศรีอยุธยา นำเสนอพระราชกรณียกิจนานัปการที่ได้ทรงปฏิบัติ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ โดยมิได้ทรงย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ เพื่อจะทรงนำพาพสกนิกรของพระองค์ให้พ้นจากความทุกข์และมีความสุขในชีวิต
พระผู้คู่พระบารมี (ซุ้ม 35-38) บริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน นำเสนอเรื่องราวของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นคู่พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีโซนน่าสนในอื่นประกอบด้วย ทศพิธราชธรรม (ซุ้ม 5-9) ถนนราชดำเนินกลาง, พระปรีชาสามารถ (ซุ้ม 15-18)ถนนราชดำเนินนอก, มหาจักรี (ซุ้ม 24)ถนนราชดำเนินนอก, พญาครุฑ (25)ถนนราชดำเนินนอก, มงคล 8(ซุ้ม 26-27)ถนนราชดำเนินนอก, นพรัตน์ (ซุ้ม 29)ราชดำเนินนอก
สำหรับผู้สนใจชมความงามของ 38 ซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ สามารถรับหนังสือ“คู่มือชมซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ” ได้ที่ ซุ้มนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ซุ้มที่ 1 (บริเวณท้องสนามหลวง)และกองการท่องเที่ยว กทม.
ชมไฟ-น้ำพุร่ายรำ
ทุกๆปีในช่วงวันพ่อ 5 ธันวามหาราช บริเวณถนนราชดำเนินจะมีการประดับไฟเฉลิมพระเกียรติฯตลอดเส้นทาง สำหรับปีนี้จะมีการเปิดไฟตั้งแต่วันที่ 1-9 ธ.ค.50 ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00น. และวันที่ 5 ธ.ค.50 ตลอดทั้งคืน และจากนั้นจะมีการเปิดไฟประดับเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ไปจนถึงวันที่ 13 ม.ค.51
ไม่เพียงเท่านั้น ทางกทม.ยังได้ตกแต่งเมืองด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ สวนสาธารณะ ถนนสายสำคัญๆจำนวนกว่า 1.9 ล้านต้น เป็นไม้ดอก เช่น ดาวเรือง กล้วยไม้ ดาวกระจาย ทานตะวัน พุทธรักษา จำนวน 1 ล้านต้น ไม้ประดับ เช่น ไทรทอง กระดุมทอง ไทรอังกฤษ เฟิร์น จำนวน 9 แสนต้น และยังมีน้ำพุลีลาประกอบเพลงบริเวณลานรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และบริเวณซุ้มถนนราชดำเนินกลาง 10 จุด เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
ทั้งนี้ในการชมซุ้มและไฟในช่วงงานฉลอง 80 พรรษา ควรใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายเหมาะแก่การเดิน ควรชมซุ้มในยามค่ำคืนเพราะมีอากาศเย็นสบาย และมีการเปิดไฟสวยงาม ควรใช้รถสาธารณะเพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง ระมัดระวังในการข้ามถนนและรถยนต์ที่แล่นไป-มา และห้ามลงไปบนถนน ทิ้งขยะในภาชนะที่กทม.จัดเตรียมไว้ เพื่อความเป็นระเบียบสวยงามและเป็นการทำความดีถวายในหลวงของเรา
ชมภาพชุด ไฟ-ซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ ฉลอง 80 พรรษา