กล้วย ผลไม้สารพัดประโยชน์ที่อยู่คู่กับวิถีคนไทยมาช้านาน
กล้วย นอกจากจะให้ผลสุกกินอร่อยและสามารถนำไปทำขนม-อาหารได้มากมายแล้วส่วนประกอบอื่นๆของต้นกล้วยยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกสารพัดอย่าง อาทิ ใบกล้วยหรือใบตอง : ใช้ห่อของ-ทำกระทง-ประดิษฐ์งานฝีมือ,ปลีกล้วย : ทำอาหาร,ใยกล้วย : ทำเชือกกล้วย(ที่เชื่อว่างูเหลือมกลัวนักแล),หยวกกล้วย : ทำอาหาร-ให้หมูกิน,กาบกล้วย(แห้ง) : ใช้สานทำกระเป๋า-ประดิษฐ์ของใช้,ก้านกล้วย : ของเล่นเด็ก(ปืน-ม้าก้านกล้วย)
ไม่เพียงเท่านั้นคนไทยในอดีตบางพื้นที่ยังใช้กล้วยเป็นส่วนประกอบของเทศกาลและงานประเพณีต่างๆ อาทิ แห่ต้นกล้วย บายศรี ต้นผ้าป่า แทงหยวก เป็นต้น
สำหรับในเทศกาลลอยกระทงที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ กล้วยก็มีส่วนสำคัญในงานลอยกระทงนี้เช่นกัน เพราะกระทงใบตองที่ทำจากกล้วยนั้นมีคนนำไปใช้ลอยกันทั่วบ้านทั่วเมือง
แต่...นอกจากกระทงใบตองแล้ว กาบกล้วยก็สามารถลอยน้ำทำเป็นกระทงได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ทางจังหวัดสมุทรสงครามหรือเมืองแม่กลองจึงได้เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์และความงามของกระทงกาบกล้วย จัดเทศกาล“ลอยกระทงสายกาบกล้วยแม่กลอง”ขึ้นมา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ากระทงที่ทำจากวัสดุอันเรียบง่ายนี้ ยามเมื่อมันลอยเป็นสายเป็นแนวไปตามร่องน้ำติดต่อกันอย่างมีจังหวะจะโคนจำนวนมาก จะเกิดเป็นกระทงสายกาบกล้วยที่ระยิบระยับสวยงาม ดูประหนึ่งแสงดาวแห่งท้องน้ำที่น่าชมไม่น้อยเลย
รู้จักกระทงสายกาบกล้วย
“ชาวแม่กลองนิยมปลูกกล้วยกันเป็นจำนวนมากตั้งแต่อดีตมาจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้ากับกล้วยตานี กล้วยน้ำว้านั้นปลูกเอาผล ส่วนกล้วยตานีปลูกเพื่อตัดใบไปขาย ใช้ห่อขนม เมื่อตัดใบไป ก็เหลือแต่ต้นกล้วย(ตานี)เปล่าๆทิ้งอยู่เป็นจำนวนมาก แม้จะมีการนำบางส่วนไปทำเชือก แต่ต้นกล้วยก็ยังเหลือเยอะอยู่ดี ทำให้เมื่อราวๆ 3-4 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านที่นี่จำนวนหนึ่งได้คิดค้นการทำกระทงกาบกล้วยขึ้นมา เนื่องจากเห็นเด็กๆที่เล่นน้ำอยู่นำกาบกล้วยมาลอยน้ำเล่น”
กำนันอโนชา ลี่สุวรรณ์ กำนัน ต.แควอ้อม อ.อัมพวา เล่าให้ฟังถึงแนวคิดในการทำกระทงกาบกล้วย พร้อมกล่าวว่า แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ก็มีเรื่องเล่าขานกัน สมัยก่อนพอถึงวันลอยกระทงชาวแม่กลองนิยมนำกาบกล้วยมาทำเป็นกระทง เพราะเป็นการนำต้นกล้วยที่เหลือทิ้งมาใช้ประโยชน์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปกระทงกาบกล้วยก็ค่อยๆหายไปจากเมืองแม่กลอง
“ประมาณ 50 กว่าปีแล้ว ที่กระทงกาบกล้วยหายไปจากแม่กลอง แต่เมื่อเรามีแนวคิดในการทำกระทงกาบกล้วยขึ้นมาใหม่ จึงคิดว่านี่น่าจะเป็นการฟื้นฟูประเพณีที่ห่างหายกลับคืนมาสู่เมืองแม่กลอง ซึ่งการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายกาบกล้วยปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 แล้ว”
กำนันอโนชากล่าว ก่อนจะอธิบายถึงขั้นตอนการทำกระทงสายกาบกล้วยแบบชาวแม่กลองว่า เริ่มจากการนำเอาต้นกล้วยตานีที่ตัดใบไปขายแล้วหรือต้นกล้วยน้ำว้าที่ออกเครือติดผลแก่มาคัด แล้วตัดเป็นท่อนๆยาวประมาณ 8-10 นิ้ว ลอกเอากาบออกมาใช้
ส่วนแสงไฟในกระทงนั้นจะใช้ธูปบูชาพระ(ทั้งห่อ)จุ่มน้ำมันยาง ก่อนนำไปคลี่ผึ่งแดดให้แห้ง ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 3 รอบ จากนั้นจึงนำธูปไปจุ่มเทียนเป็นขั้นตอนสุดท้าย ทำให้ธูปที่จุ่มน้ำมันยางแล้วชุบเทียนยามติดไฟจะดูสว่างไสวไม่ต่างจากแสงเทียนเท่าใดนัก
“เมื่อได้ธูปมาแล้ว ก็นำธูปไปปักปักไว้กลางกระทงกาบกล้วย ที่จะคว่ำหรืองายกาบกล้วยก็ได้ เพราะสามารถลอยน้ำได้เหมือนกัน แต่ว่ากระทงกาบกล้วยแบบหงายเมื่อลอยน้ำจะจมง่ายกว่ากระทงแบบคว่ำ แต่แบบง่ายเมื่อลอยเป็นสายก็จะดูสวยกว่า อย่างปีที่แล้วเราลอยกระทงแบบคว่ำ ส่วนปีนี้คิดว่าจะเปลี่ยนมาลอยกระทงในแบบง่ายบ้างเพื่อให้เกิดความแปลกใหม่” กำนันอโนชากล่าว
หลังจากได้กระทงกาบกล้วยพร้อมลอยแล้ว กำนันอโนชาบอกว่าเวลาลอยหากเป็นในงานเราจะไปลอยกันบริเวณอุทยาน ร.2 ให้ไหลไปออกยังปากอ่าวแม่กลอง โดยจะเริ่มปล่อยกระทงประมาณตั้งแต่สองทุ่มขึ้นไป และปล่อยเป็นจังหวะ ตามกระแสน้ำ หากน้ำไหลเป็นทางยาวสายเดียว กระทงกาบกล้วยที่ให้แสงไฟระยิบระยับจะลอยเป็นสายเป็นทางอย่างสวยงาม
กระทงสายกาบกล้วยเมืองแม่กลอง ประหยัด เรียบง่าย พอดี สมดุล
งานลอยกระทงสายกาบกล้วยแม่กลอง จะจัดขึ้นในคืนวันลอยกระทง(24 พ.ย.50) ณ
อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร. 2) ซึ่งปีนี้ทางจังหวัดสมุทรสงครามมีแนวคิดในการจัดงานว่า “กระทงสายกาบกล้วยเมืองแม่กลอง ประหยัด เรียบง่าย พอดี สมดุล”
โดยคำว่า“ประหยัด“ หมายถึงใช้ต้นกล้วยที่มีในท้องถิ่น “เรียบง่าย” คือการไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมาย ใช้แค่กาบกล้วยตัดเป็นท่อนๆ “พอดี” หมายถึง กาบกล้วยต้องมีขนาดพอดี ยาวประมาณ 8-10 นิ้ว และเวลาลอบก็ต้องมีจังหวะพอดี นอกจากนี้ยังสื่อถึงความพอดี คือ การจะทำอะไรต้องรู้จักพอดีถึงจะเกิดประโยชน์ ส่วน“สมดุล” หมายถึง การปักธูปที่ชุบด้วยน้ำมันยาง ต้องปักตรงกลางกาบกล้วยจึงจะสมดุลกระทงจะได้ไม่ล่ม
ส่วนจำนวนของกระทงกาบกล้วยที่ใช้ในการลอยกระทงสายของปีนี้ มีจำนวนทั้งหมด 84,000 ดวง(กระทง) ซึ่งนอกจากกิจกรรมการลอยกระทงสาบกาบกล้วยแล้ว งานนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย อาทิ การจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ การตักบาตรพระสงฆ์ทางน้ำในช่วงเช้าจำนวน 81 รูปที่คลองอัมพวา การแข่งขันเรือพายมินิมาราธอน “แม่กลอง” แบ่งเป็นสองประเภทได้แก่ เรือสำปั้นขนาดความยาวไม่เกิน 8 ศอก 2 ฝีพาย และเรือมาด เรือขุด และเรืออื่นๆขนาดความยาว 10 ศอกขึ้นไป 4 ฝีพายโดยเริ่มแข่งขั้นตั้งแต่เวลา 15.00 น. จากหน้าวัดช่องลม(ธรรมโชติ) และจุดเข้าเส้นชัยบริเวณข้ามคลองอัมพวา การแสดงดนตรีและการประกวดดนตรีจากสถาบันต่างๆ
รวมถึงการประกวดนางนพมาศเน้นความงานด้วยผ้าไทย ณ ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามในช่วงค่ำ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากชมงานกระทงสายกาบกล้วยแม่กลอง ก็สามารถไปเที่ยวชมกันได้ในวันลอยกระทงที่ อุทยาน ร. 2 ซึ่งนอกจากจะได้พบกับความงามของกระทงสายกาบกล้วยแล้ว ยังจะได้พบกับมนต์เสน่ห์ของงานงานลอยกระทงที่แตกต่างอีกด้วย
*****************************************
สอบถามรายละเอียดงานลอยกระทงสายกาบกล้วยแม่กลอง เพิ่มเติมได้ที่ อุทยาน ร.2 โทร.0-3475-1666 หรือที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงาน ภาคกลาง เขต 2 โทร. 0-3247-1005-6