xs
xsm
sm
md
lg

โชคดีที่ปางอุ๋ง (สวิสเมืองไทย)/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
สระน้ำแห่งปางอุ๋ง
หากเอ่ยถึง“สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” สมัยก่อนขาเที่ยวคงเดาทางได้ไม่ยากว่า หากไม่ใช่“เขาค้อ” จ.เพชรบูรณ์ ก็อาจจะเป็น“ดอยอ่างขาง”จ.เชียงใหม่

แต่มาในปัจจุบันหากมีคนชวนไปเที่ยว“สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เราอาจจะต้องถามต่อว่า“ตกลงเอ็งจะไปเที่ยวที่ไหนอ่ะ??” เพราะยุค นี้ พ.ศ.นี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยหรือสวิสเมืองไทยเยอะเหลือเกิน

สำหรับผมก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เมื่อมีเพื่อนชวนไปเที่ยวสวิสเมืองไทยในช่วงกลางฝนที่ผ่านมา ผมก็ถามเขากลับไปว่าตกลงจะไปที่ไหนกันแน่ เขาค้อ อ่างขาง ภูเรือ น้ำหนาว หรือวังน้ำเขียวซึ่งปรากฏว่าที่เอ่ยชื่อมานั้นผิดหมด เพราะเพื่อนผมเขาชวนไปเที่ยว“ปางอุ๋ง” สวิสเมืองไทยในเมืองสามหมอก จ.แม่ฮ่องสอน ที่จัดว่ามาแรงมากในช่วง 3-4 ปีผ่านมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
สวนสนปางอุ๋ง
ปางอุ๋ง ปัจจุบันมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า“ศูนย์โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย ตามพระราชดำริ”(เดิมชื่อ“โครงการพระราชดำริปางตอง 2”) หรือที่เรียกสั้นๆว่า“บ้านรวมไทย” เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ้านรวมไทย แต่ก็ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวจะคุ้ยเคยและติดปากกับชื่อ“ปางอุ๋ง”มากกว่า

แล้วชื่อปางอุ๋งนี้ได้แต่ใดมา???

ผมอดสงสัยไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่ปางอุ๋ง และได้สอบถามพูดคุยกับ จ่าสิบเอก สำรวจ หม่องคำธิ ผู้ดูแลพื้นที่โครงการปางอุ๋งจึงได้ความกระจ่างว่า

“ปาง”หมายถึงที่พัก ส่วน”อุ๋ง”ก็คืออ่างเก็บน้ำ ด้วยเหตุนี้ปางอุ๋งจึงหมายถึง“ที่พักริมอ่างเก็บน้ำ”(อันสุดสวย) อ้อ! สำหรับคำในวงเล็บนี้ผมเติมเข้าไปเองเพราะปางอุ๋งนี้ช่างมีบรรยากาศสวยงามจับใจนัก โดยเฉพาะบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำธรรมชาติอันกว้างใหญ่ปานประหนึ่งทะเลสาบย่อมๆ ขนาบข้างไปด้วยขุนเขา ที่ยามต้องแสง สะท้อนเงาแห่งขุนเขาตกทอดลงไปในอ่างเก็บน้ำนั้นไม่ว่าดูในช่วงเวลาไหนก็สวยทั้งนั้น แถมทางฝั่งริมถนนยังมีเพิงเล็กๆเป็นฉากหน้าสำหรับถ่ายรูปหรือให้คู่หนุ่มสาวนั่งจู๋จี๋กันอีกด้วย

และยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้ายามหน้าหนาว ที่นี่จะเต็มไปด้วยสายหมอก ไอน้ำ ลอยอ้อยอิ่งละเรี่ยเนิบนาบ ยิ่งวันไหน ฟ้าเป็นใจได้แสงสีทองของเช้าวันใหม่ส่องเป็นลำผ่านเข้ามาในอ่างน้ำ ไอน้ำ สายหมอก ยิ่งงดงามโรแมนติกจับใจนัก
บ้านพักแอบอิงกลางสวนสน
“คนเขามาเจอบรรยากาศแบบนี้ก็เลยพากันเรียกปางอุ๋งเป็นสวิสเมืองไทย”

พี่จ่าบอกกับผม ซึ่งผมกลับรู้สึกว่าปางอุ๋งนั้น งามแบบปางอุ๋ง โรแมนติกแบบปางอุ๋ง และมีเอกลักษณ์แบบปางอุ๋ง แม้ใครจะพยายามเปรียบเปรยให้เป็นสวิสเมืองไทย แต่ว่าปางอุ๋งก็คือปางอุ๋งอยู่ดี

นอกจากอ่างเก็บน้ำอันเป็นสัญลักษณ์และที่มาของชื่อปางอุ๋งแล้ว ดินแดนโรแมนติกแห่งนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกหลายอย่าง โดยพี่จ่าขันอาสาอธิบายว่า ถ้าใครมาเที่ยวหน้าหนาวก็จะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นจับใจ บางปีอุณภูมิต่ำสุดแค่ 4 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ทิวสนริมน้ำ
“อีกจุดหนึ่งที่คนชอบมากและนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ ป่าสน สองใบ สามใบ และแปลงดอกไม้เมืองหนาวอันสวยงามที่ทางโครงการจัดตกแต่งไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว ส่วนคนที่ชอบเที่ยวชมวิถีชีวิตที่นี่ก็มีวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาหลากหลายเผ่าเที่ยวชมกัน ทั้ง กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ปะโอ ม้ง มีการทำสวนทำไร่ โดยเฉพาะไร่กาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่นี่ถือว่าขึ้นชื่อทีเดียว หลายๆคนเมื่อมาพักที่นี่ก็จะถือโอกาสหากาแฟสดจิบคู่ไปด้วย หรือใครอยากจะไปดูการเพาะเลี้ยงกบภูเขาหรือเขียดแลวที่นี่ก็มีให้ดู”

ว่าแล้วพี่จ่าก็ให้ลูกน้องเสิร์ฟกาแฟสดหอมกรุ่นมาให้ชิม พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจะว่าไปปางอุ๋งก็เหมือนกับโครงการพระราชดำริหรือโครงการหลวงทั่วไป คือเดิมเป็นป่าเสื่อมโทรม เนื่องจากชาวบ้านที่นี่ปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยเป็นหลัก จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาเยือนในปี พ.ศ. 2522 พระองค์ท่านได้มีพระราชดำรัสให้จัดทำโครงการพระราชดำริขึ้น โดยอาศัยความสมัครใจของชาวบ้าน และให้ทหารเป็นผู้ดูแลเพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นชายแดน

“ตอนนั้นมีผู้สมัครใจ 23 ครัวเรือน เท่านั้น แต่ต่อๆมาเมื่อชาวบ้านเห็นเพื่อนบ้านที่เข้าร่วมโครงการไปได้ดีก็มาเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น ส่วนโครงการปางอุ๋งนั้นเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2546 เพื่อให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมกับโครงการมากขึ้น ทั้งการเป็นผู้ดูและบ้านพัก ดูและสวน ขายกาแฟ สินค้าทางการเกษตร ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะมีคนนิยมมาเที่ยวกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวจะมีคนมาพักที่ปางอุ๋งกันเป็นจำนวนมาก(ก็แหมบรรยากาศดีปานนั้นใครๆก็อยากมาพัก) เพราะที่นี่เพียงตื่นเช้ามา โผล่หน้าออกจากบ้านพัก ออกจากเต็นท์ก็เจอกับบรรยากาศสวิสเมืองไทยแล้ว” พี่จ่าสำรวจที่สำรวจโครงการมาจนถ้วนทั่วแล้วบอกกับผมขณะที่กำลังจิบกาแฟไปพลางแกฟังไปพลาง

เรียกได้ว่าถ้าใครได้มาเจอกับที่พักราคาย่อมเยาและบรรยากาศแบบนี้ เรียกว่าลืมโรงแรม 5 ดาวไปเลย
หงส์คู่ พระราชทาน ดำ-ขาว ในปางอุ๋ง ที่ไม่ค่อยมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวเห็นบ่อยนัก
“อ้อ ผมลืมบอกอะไรคุณอย่างนึง ที่นี่ยังมีดาวเด่นอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ หงส์พระราชทานจากสมเด็จพระราชินี 6 ตัว ที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 4 ตัว แต่วันนี้มีมาให้คุณเห็น 2 ตัว”

พี่จ่าว่าแล้วก็พาผมเดินไปยังหน้าอ่างเก็บน้ำที่มีหงส์คู่ดำ-ขาว กำลังเดินลงไปในอ่างเก็บน้ำก่อนจะ ค่อยๆว่ายน้ำลอยห่างออกจากฝั่งอ่างเก็บน้ำไปอย่างเนิบนาบ

สง่าดังหงส์...นี่คือคำอธิบายต่อลักษณะการว่ายน้ำของหงส์พระราชทานได้เป็นอย่างดี

“ต้องถือว่าคุณโชคดีมาก ที่ได้เห็นหงส์คู่ดำ-ขาว ในวันนี้ที่ปางอุ๋ง เพราะปกติเขาจะไม่ค่อยออกมาโชว์ตัวให้เห็นนานๆแบบนี้”

พี่จ่าบอกยังงั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในทริปนี้จะโชคดีแค่ไหน แต่ที่รู้ก็คือการได้เห็นหงส์ขาว-หงส์ดำว่ายน้ำเล่นก็เป็นที่ถูกอกถูกใจแล้ว

ส่วนถ้าเกิดบังเอิญว่ามีหงส์แดงบินมาไหนก็ไม่รู้มาร่วมแจมว่ายน้ำเล่นในอ่างเก็บน้ำด้วย บอกตามตรงว่าผมก็จะมองเห็นแค่เพียงหงส์ขาว-หงส์ดำว่ายน้ำเล่นเท่านั้น

เพราะแฟน”ผีแดง”อย่างเราไม่เคยเห็น”หงส์แดง”อยู่ในสายตาอยู่แล้ว

*****************************************

ศูนย์โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย ตามพระราชดำริ(บ้านรวมไทยหรือปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ที่บ้านรวมไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ ประมาณ 44 กม. ภายในศูนย์มีบ้านพักไว้บริการ หลังละ 200-500 บาท/คืนและที่กางเต็นท์ไว้บริการ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร. 0-5361-1244
กำลังโหลดความคิดเห็น